วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Topic: CA Colon: Diagnosis

งานวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
การวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่  จะพบสองเหตุการณ์ต่อไปนี้

1.       ตรวจพบโรคมะเร็งได้  ในขณะทำการตรวจคัดกรองโรคตามปกติ  หรือ
2.    อาการของคนไข้เอง  เป็นตัวนำคนไข้ไปพบแพทย์  และทำการตรวจหาสาเหตุของอาการ
                 แล้วพบมะเร็งของลำไส้ใหญ่

หากเป็นไปได้  ที่ดีที่สุด  เราควรตรวจพบโรคในขณะทำการตรวจด้วยวิธี  Colonoscope ทุกราย 
ตรวจให้พบ  ก่อนที่คนไข้จะมีอาการแสดงปรากฏให้คนไข้ได้รู้
ยิ่งเราสามารถพบได้ก่อนที่จะมีอาการเมื่อใด  โชคดีก็จะเป็นของคนไข้ 
ทั้งนี้เพราะเราสามารถรักษาโรคให้หายขาดได้

มีการตรวจหลายอย่างที่นำมาใช้ในการตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่  ถ้าหาคุณมีอายมากกว่า 50 
คุณควรได้รับการตรวจเพื่อคัดกรองสำหรับมะเร็งลำไส้ใหญ่ 
ซึ่งเราถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ชีวิตของเราอยู่ในสภาพที่ดี

การตรวจที่สามารถนำมาใช้ในการวินิจฉัยมะเร็งของลำไส้ใหญ่  ได้แก่

·    Flexible sigmoidoscope
·    Colonoscope

มีการตรวจที่สามารถนำมาใช้พิจารณาบ่งชี้ว่า  คุณมีโอกาสเกิดโรคหรือไม่  เช่น

o   Double contrast Ba enema
o   Fecal occult blood test
o   CT colonography หรือ  virtual colonoscopy
o   Fecal immunochemical tests
o   Stool DNA tests

การตราจที่เรานำมาใช้เสมอ ๆ เพื่อการตรวจเช็คดู  ว่ามีมะเร็งในลำไส้ใหญ่หรือไม่  คือ 
การตรวจ doulble contrast Ba enema  และการตรวจหา fecal occult blood กัน
ส่วนการตรวจที่เหลือ  อาจไม่เหมาะกับทุกคน..
ทั้ง 5 วิธีที่เสนอมานั้น (non-invasive) อาจบอกให้เราทราบว่า  ท่านอาจมีมะเร็งในลำไส้ใหญ่ของท่านก็ได้ 
ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการยืนยันด้วยการตรวจ sigmoidoscopy หรือ colonoscopy  (invasive)  ต่อไป

กล่าวโดยสรุป  หากท่านมีโอกาสได้รับการตรวจด้วย sigmoidoscpe หรือ  colonoscope แล้ว
 ท่านไม่จำเป็นต้องทำการตรวจด้วยวิธีทั้ง 5   ซึ่งเป็นการตรวจที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือสอดเข้าไปในตัวของท่าน.
เพราะเพียงแค่สองวิธีเท่านั้น  ก็เพียงพอต่อการวินิจฉัยว่า  ท่านมีมะเร็ง หรือเนื้องอกในลำไส้ใหญ่หรือไม ?

http://coloncancer.about.com/od/screening/a/How_Diagnosed.htm

Ca Colon : Risk Factors

มะเร็งของลำไส้ใหญ่- Colon  จัดเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้น ๆ
มีปัจจัยเสี่ยงมากมายเหลือเกิน  ที่เป็นตัวเหตุทำให้เกิดมะเร็งขึ้นในบริเวณลำไส้ใหญ่
ปัจจัยบางอย่าง  เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้  เช่น เรื่องอาหารการกินของเรา  แต่บางอย่าง
เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลได้  เช่น โรคลำไส้อักเสบ (inflammatory bowel disease)
ปัจจัยบางอย่าง  ที่ทำให้เกิดมะเร็งของลำไส้ใหญ่ได้แก่:

·        การอักเสบของลำไส้ (inflammatory bowel disease)  ซึ่งได้แก่  Crohn’s disease 
และ  ulcerative colitis โรคพวกนี้สามารถเพิ่มอัตตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้

·        Age:   คนสูงอายุ  โดยเฉพาะอายุสูงกว่า 50  มีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ 
แต่คนอายุน้อยก็สามารถเกิดได้เช่นกัน

·        Diet:  จากการศึกษา  เขารายงานว่า  อาหารที่มีไขมันสูง  และประเภทให้แคลอรีสูง 
ขาดสารใยอาหาร   สามารถทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้

·        Being Overweight:  ท่านใดที่ปล่อยให้น้ำหนักสูง...จงระวังเอาไว้ด้วยว่า 
การที่เราสามารถควบคุมระดับน้ำหนักตัวให้พอดี  เป็นสิ่งสำคัญต่อการป้องกันไม่ให้เกิดมะเร็งได้

·        Polyps:  ก้อน  polyp เป็นก้อนเนื้องอก  ที่ไม่ใช้มะเร็ง  มันเกิดขึ้นที่ผนังภายในของลำไส้ 
บางรายที่มี Polyp  สามารถเปลี่ยนไปเป็นมะเร็งได้   การที่ใครก็ตามมีโรค Polyp ในลำไส้ 
เขามีโอกาสเกิดเป็นมะเร็งขึ้นได้  ดังนั้น  การตรวจคดกรองด้วยการส่องกล้อง colonoscope 
จึงมีประโยชน์  และสามารถเอาออกได้เลย  ถือเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเป็นมะเร็งขึ้นได้

·        Personal medical history:   คนที่มีประวัติว่าเป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ 
มีแนวโน้มที่จะเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นครั้งที่สองได้

·        Family history:  บุคคลที่มีพ่อแม่  พี่น้อง  เป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ 
เขามีโอกาสเพิ่มอัตราเสิ่ยงต่อการเกิดโรค  นอกเหนือไปจากนี้  หากบุคคลนั้นมีประวัติว่า
เป็นมะเร็งด้วยแล้ว   เขามีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยเช่นกัน 

และในกลุ่มของโรคทางพันธุกรรม  ที่มีชื่อว่า HNPCC (hereditary non-polyposis conlon cancer) 
จะทำให้เขาเหล่านั้น  มีโอกาสเป็นมะเร็งด้วยเช่นกัน

ข้อที่ควรรู้เอาไว้  คือ  คนบางคนมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของลำไส้ใหญ่ได้สูงมาก 
แต่เขากลับไม่เป็นโรคดังกล่าวเลย  ตรงกันข้าม  บางคนไม่ไม่มีเหตุปัจจัยใดๆ  แต่ปรากฏว่า  เขาเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่

จากการวิจัยเขายังกล่าว ต่อไปว่า  เลิกสูบบุหรี่  รับแอสไพริน  ลดแอลกอฮอล์  ออกกำลังกาย  รับอาหารเสริม  สามารถลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้
กล่าวโดยสรุป  การดำเนินตามวิถีชีวิตต่อไปนี้  สามารถลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้

·        รับประทานอาหารที่ประกอบด้วย  ผักสด  ผลไม้  อาหารประเภทเมล็ด  เพิ่มอาหารที่มีเส้นใย รวมถึงสาร clacium, 
และ Folic acid

·        จำกัดอาหารประเภทเนื้อแดง (red meat) และพวกไขมันอิ่มตัว (saturated fat)

·        ออกกำลังกายทุกวัน  อย่างน้อย หนึ่งอาทิตย์ออกกำลังกาย ห้าวัน  วันละ 30 นาที

·        เลิกสูบบุหรี่

·        เลิกดื่มสุราเมลัยทุกชนิด

·        รักษาน้ำหนักตัวให้เป็นปกติ  อย่าให้น้ำหนักเกิน

 แค่นี้...มะเร็งลำไส้ใหญ่...มันก็ไม่ชอบที่จะอยู่กับท่านแล้ว
http://ibdcrohns.about.com/cs/coloreccalcer/a/crcanerrisks.htm

Colon Cancer : Symptoms (2)

มะเร็งของลำไส้ใหญ่ (colon)  เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นที่เซลล์ของลำไส้ใหญ่เอง
เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับสาม  ที่เกิดขึ้นกับชายและหญิงชองคนสหรัฐฯ  ซึ่งพบประมาณ  110,000 คน ต่อปี
หมอบางท่านจัดมะเร้.ของลำไส้ใหญ่ (Colon) และ มะเร้งของ Rectum  อยู่ในกลุ่มเดียวกัน  เป็น colorectal cancer
บางคนแยกออกจากกันเป็น colon cancer  และ  rectal cancer  ซึ่งพวกหลังจะพบประมาณ 40,000 ราย ต่อปี

ชนิดของมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Types of Colon cancer):
มะเร็งของลำไส้ใหญ่  พบว่า  95 %  ของมะเร็งลำไส้ใหญ่จะเป็นมะเร็งชนิด  Adenocarcinoma  ส่วนที่เหลืออีก 5 %  จะเป็นมะเร็ง
Neuroendrocrine tumours,  gastrointestinal stromal cell tumours,  carcinoids tumours, 
lymphomas, melanomas,  leiomyosarcomas,  และ signet ring  cell  tumors.

จากรายชื่อของมะเร็งลำไส้ที่เสนอมานั้น  มีชื่อหนึ่งที่รู้สึกคุ้นหูของท่าน นั่นคือ  melanoma  ซึ่งเป็นมะเร็งของของผิวหนัง
ขอให้รู้ไว้ด้วยว่า  มะเร็งชนิดนี้ (melanoma) สามารถเกิดที่ลำไส้  หรือที่ส่วนอื่นของร่างกายได้

ระยะของมะเร็งลำไส้ใหญ่ (stages of colon cancer):
เพื่อการรักษาของมะเร็งลำไส้ใหญ่   แพทย์จำเป็นต้องแบ่งระยะของมะเร็งเป็นระยะ ๆ  เพื่อผลประโยชน์ในการวางแผนของการรักษา
การแบ่งระยะของมะเร็ง  อาศัยการการกระจายของมะเร็งเป็นหลักว่า  มะเร็งกระจายจากที่มันเกิด  ไปไกลมากน้อยเท่าใด

อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ (symptoms of Ca Colon)
อาการของคนเป้นมะเร็งลำไส้ใหญ่  สามารถมีอาการได้หลายอย่าง  แต่ส่วนใหญ่  เริ่มแรกของการเป็นมะเร็ง 
มันจะไม่มีอาการแต่อย่างใดด้วยเหตุผลดังกล่าว  การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งของลำไส้ใหญ่ 
จึงมีความจำเป็นจะต้องกระทำเมื่อคนเราอายุถึง  50  ทั้งนี้เพื่อเราจะได้มีสุขภาพที่ดีในอนาคต

 อาการของมะเร็งสำไส้ใหญ่อาจเป็นได้สองแบบ:
1.       อาการเฉพาะที่ (local symptoms)
2.       อาการทางระบบของร่างกายโดยรวม (systemic)

Local colon cancer symptoms:
เป็นอาการเกี่ยวกับห้องส้วม  เช่น
·         มีการเปลี่ยนแปลงในนิสัยการถ่ายอุจจาระ  เช่น  อาจถ่ายบ่อย กว่าเดิม หรือน้อยก่ว่าเดิม
·         ท้องผูก  ถ่ายลำบาก  ทุกครั้งต้องใช้แรงเบ่งถ่ายอย่างมาก
·         ท้องล่วง  เช่นถ่ายเหลว  หรือถ่ายเป็นน้ำ
·         ถ่ายดำ  หรือเป็นสีแดง
·         ถ่ายเป็นเส้น  เหมือนแท่งดินสอ
·         ปวด แน่นท้อง  มักจะมีลม หรือท้องปั้นบ่อย ๆ

หากท่านมีอาการดังกล่าว  เป็นเวลานานสองอาทิตย์ขึ้นไป  ท่านควรปรึกษาแทพย์เพื่อสืบหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวทันที

Systemic colon cancer symptoms:
อาการทางระบบของร่างกายทั้งร่าง  ได้แก่น้ำหนักลด  และรวมถึง
·         น้ำหนักลดเองโดยไม่ตั้งใจ
·         ไม่อยากทานอ่าหาร
·         เหนื่อยเพลียโดยไม่ทราบเหตุ
·         คลื่นไส้ และอาเจียน
·         เม็ดเลือดแดงต่ำ
·         ตาเหลือง   ตัวซีด

หากคุณมีอาการดังกล่าว  ไม่ว่าจะกี่วัน  ท่านต้องพบแพทย์ทันที  เพื่อหาสาเหตุต่อไปทันที
มีหลายคนกลัวการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่...กลัวจะเจ็บ หรือระอาย
แพทย์และพยาบาลเขาทำการตรวจพวกนี้เป็นว่าเล่นอยู่แล้ว  ท่านไม่จำเป็นต้องละอาย...แม้กระทั้งตัวหมอเอง 
เขาก็ทำการตรวจเช่นกัน
>> cont

CA Colon : Introduction

เห็นเพื่อนพ้อง  เขาชอบพูดประโยคที่น่าประทับใจว่า
“ปัญหาอยู่ที่ไหน  คำตอบอยู่นั่น”
แต่ปัญหาที่ผู้เขียนจอ  ...ไม่มีคำตอบ...
 เมื่อมีคนไข้สูงอายุจำนวนหนึ่ง  มาพบเราด้วยการเป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่  ( CA colon ) 
โดย โรคของเขาได้เป็น (พัฒนา) มากแล้ว

เพื่อนจบแพทย์เชียงใหม่รุ่นแรก  ทำงานต่างประเทศ (เป็นผู้ชำนาญการเรื่องมะเร็งของลำไส้ใหญ่) 
กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอน  ได้เจอปัญหาอย่างนี้เข้า  เลยคุยทับเราว่า
ถ้าเป็นที่โน้น (สหรัฐฯ)  กรณีอย่างนี้  ไม่มีให้เห็นหรอก  เพราะคนไข้รายใดที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็ง 
จะได้รับรับการตรวจคัดกรอง (screening) มะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยการส่องกล้อง (colonoscope) ทุกราย....
ไม่รอให้คนไข้มีอาการ  จึงทำการตรวจ

นั่นเป็นความเป็นความจริง  ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้
แต่สำหรับประเทศที่ยังยากจน  อย่างประเทศเรานั้น  ยังไม่มีโอกาสที่จะทำเช่นนั้นได้
แม้ว่า  คนพอมีสตางค์หน่อย  ก็ใช่ว่า  จะมีโอกาสเข้าถึงการตรวจคัดกรองด้วยวิธีดังกล่าวได้
ที่เป็นเช่นนั้น  เป็นเพราะความกลัว (ความอาย)  และยังไม่มีการให้บริการตรวจคัดกรอง (colonoscope) ได้ทั่วถึง

ดังนั้น  จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เรามักจะเจอ  คนเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อโรคของเขา...มันพัฒนาไปไกลแล้ว
ในกรณีเช่นนั้น (เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่) ไม่ว่า  คุณจะให้การรักษาดีขนาดไหน ?  
คนไข้จะต้องรอ  ......อย่างเดียว

บทความนี้  เขียนขึ้นเมื่อ คนไส้สูงอายุชายรายหนึ่ง ในคลินิกผู้สูงอายุ  ด้วยอาการอ่อนเพลีย 
น้ำหนักลดมาประมาณ มา 2 เดือน   ถูกตรวจพบเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ( CA Colon)
เป็นเหตุปัจจัย  ให้ผู้เขียนบันเลงเรื่องนี้ ด้วยจิตใจที่หดหู่พอสมควร 

ลำไส้ใหญ่  (What is  colon ?)

ลำไส้ใหญ่ (Colon)    มีบทบาทสำคัญต่อการดูดซับเอาอาหาร  แร่ธาติ และน้ำเข้าสู่ร่างกาย 
มีหน้าที่กำจัดเอาของเสียออกทิ้งไปในรูปของอุจจาระ
มัน มีความยาวประมาณ  6 ฟุต  และส่วนปลายของมันยาวประมาณ  6  นิ้ว  เป็นส่วนที่เรียกว่า Rectum และ Anus 
ลำไส้ส่วนนี้  ถือว่าเป็นส่วนใหญ่ที่สุด

เมื่อแพทย์พูดว่า...ท่านเป็นมะเร็งนะ... 
ท่านเข้าใจว่าอย่างไร ?

เพื่อให้ท่านเข้าใจมะเร็งของลำไส้ใหญ่ดีขึ้น  ลองฟังข้อความต่อไปนี้ดู:

เซลล์ของคนเรา  ตามปกติมันจะเจริญ และ แบ่งตัวอย่างเป็นระเบียบ  เมื่อถึงเวลาที่มันจะต้องตาย  มันก็จะตายไป 
แล้วถูกแทนที่ด้วยเซลล์ใหม่  ที่แข็งแรง... เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ
ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกประการ  เกิด  แก่  และ ตายไป   ทุกอย่างเป็นอนัตตา
ส่วนเซลล์มะเร็งไม่เป็นแบบนั้น  มันแหกกฎทุกอย่าง  ไม่เจริญตามปกติ  แถมยังไม่ตายตามที่ควรจะเป็นอีกด้วย

เซลล์ของมะเร็งจะไม่ตอบสนองต่อคำสั่ง (signals)  ว่า จะต้องเจริญ และแบ่งตัวตามปกตินะ...
ไม่เลย...  ไม่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง    และไม่อยู่ภายใต้การควบคุมใด ๆ
ที่น่ากลัวกว่านั้น  คือ  มันแบ่งตัวไปเรื่อยๆ  ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีการตายเกิดขึ้น  แม้ว่าเซลล์จะมีการบาดเจ็บ  มันก็ไม่ตาย
เหมือนนิยายฝรั่ง  ที่เอ่ยถึงมนุษย์อมตะ....ทำอย่างไรมันก็ไม่ตาย
เซลล์มะเร็ง  ก็เช่นเดียวกัน

นั่นแหละ คือ มะเร็งละ

>> cont.

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Gastro-intestinal disorders: Structural disorders (2)


ความผิดปกติทางโครงร่างของ  Colon & Rectum :
เป็นโรคที่มีความผิดปกติทางโครงสร้าง (abnormal structure)  และมีความผิดปกติทางการทำงานด้วย
ซึ่งในบางกรณี  ความผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้น  จำเป็นต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับทวารหนัก  ที่เราควรรู้จัก  ได้แก่:

·  Hemorrhoids:
ริดสีดวงทวาร  หรือที่เรียกกันจนชินหู  คือ hemorrhoids  เป็นผลมาจากเส้นเลือดที่อยู่บริเวณผิวทางออก
ของของทวารหนัก (rectum)  เกิดบวม  มีสาเหตุมาจากมันถูกกดเป็นเวลานาน 
พร้อมกับการเบ่งถ่าย (straining) จากภาวะท้องผูก  หรือจากภาวะท้องล่วงเป็นประจำ 
หรือจากการตั้งท้อง 

มันมีสองชนิดด้วยกัน  คือ

· Internal hemorrhoids: 

Internal hemorrhoids  ถือเป็นโครงสร้างปกติของลำไส้ใหญ่ส่วนล่าง (rectum) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวรองรับ (cushion)  
และป้องกันไม่ให้ลำไส้ส่วนปลายสุด (rectum) ได้รับ[อันตรายในขณะที่อุจจาระเคลื่อนผ่าน 
แต่เมื่อใดก็ตามที่มันเลื่อนลงมาด้านล่าง  เพราะแรงเบ่งเป็นเวลานานๆ  มันจะถูกอุจจาระบาดเอา  ทำให้มีเลือดออกได้ 
หากเป็นมาก ๆ  มันอาจถูดดันออกมายังภายนอก  เป็น prolapsed hemorrhoid  ได้เช่นกัน

การรักษา ประกอบด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม  เช่น อย่าให้เกิดท้องผูก 
อย่าออกแรงเบ่ง ในระหว่างการถ่ายอุจจาระ  และให้ไปถ่ายทุกครั้งที่ท่านมีความรู้สึกอยากถ่าย 
อย่าอดกลั้นเป็นอันขาด (หัดให้เป็นนิสัยเสีย)

ในกรณีที่มันหลุดออกมาข้างนอก  บางคนมันโผล่ออกมาเยอะมาก (prolapsed hemorrhoid) 
ท่านสามารถช่วยเหลือตัวท่านเอง  ด้วยการยัดกลับเข้าไปที่เดิม

วิธีการง่าย ๆ  คือ  ท่านต้องผ่อนคลาย  อย่าเกร็ง  ใช้น้ำอุ่น (จากฝักบัว)  อาจจำเป็นต้องใช้สบู่ล้าง  ใช้น้ำมือของท่านบีบเบา 
เพื่อให้ก้อนเนื้อมันเล็กลง (เพราะเลือดคั่ง)  จากนั้น  ท่านใช้นิ้วค่อย ๆ ยัดกลับเข้าไป (ค่อยๆ ทำ  ไม่ต้องเร่ง) 
หากไม่ประสบผล....ค่อยไปโรงพยาบาล  ให้แพทย์เขาจัดการให้  ซึ่งแพทย์เขาก็จะทำคล้ายๆ กันนั่นแหละ
 แต่แตกต่างกัน  ตรงที่เขาอาจฉีดยานอนหลับให้ท่าน  หรือดมยาสลบ  ก่อนที่จะทำการยัดกลับที่เดิม..
หลังจากนั้น  ให้ท่านหัดขมิบก้นบ่อย  ๆ  วันละสามเวลา  เพื่อป้องกันไม่ให้มันไหลออกมาอีก

· External hemorrhoids  เส้นเลือดดำ ซึ่งอยู่ด้านนอกนอกรูทวาร  เวลาคุณเบ่งในขณะถ่ายอุจจาระ
เส้นเลือดอาจเปล่งพองขึ้นมา  มันอาจแตก และมีเลือดออกในขณะถ่ายอุจจาระ  บางรายมีเกิดมีก้อนเลือดเกิดขึ้น  
และเกิดอักเสบขึ้น (pile)  ซึ่งมีอาการเจ็บปวดมาก
การรักษาพวกนี้  แพทย์เขาอาจฉีดยาชาเฉพาะที่ และเอาก้อนเลือดออก  สามารถลดความเจ็บปวดลงได้

· Anal fissure  เป็นรอยแตกของผิวหนังรอบ ๆ รูทวาร  สาเหตุจากอุจจาระที่แข็งบาดเอา  เมื่อเป็นบ่อย ๆ เข้า 
จะทำให้เกิดเป็นรอยแผลลึกถึงกล้ามเนื้อ  ทำให้เกิดความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก 
วิธีการรักษา  กระทำได้ด้วยการแช่ก้นด้วยน้ำอุ่นทุกวัน   อย่าให้อุจจาระแข็ง  ไม่ให้ท้องผูก..อาจจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวด.
บางรายอาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

· อักเสบรอบๆ  รูทวารหนัก  เช่น  perianal abscess, anal fistula  พวกนี้จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด..

· Colon Polyps  and cancer.
ในสหรัฐฯ  เขาจะพบมะเร็งของลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย Colorectal cancer  ได้บ่อยมาก 
ปีละประมาณ 130,000 ราย   เขาจัดเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับสามของเขา
แต่ เป็นโรคที่สามารถรักษาได้ผลดีมาก (หายขาด) ด้วยเหตุผลที่ว่า  เขาสามารถตรวจคัดกรอง  พบโรคได้เร็วมาก 
และให้การรักษา  ด้วยการผ่าตัดเอาออกก่อนที่มันจะมีอาการ

ความสำคัญของการตรวจคัดกรอง (screening)   จากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง 
มีเพื่อนเป็นแพทย์ทำงานในสหรัฐฯ ทำการคัดกรองด้วยการใช้กล้องส่องเข้าไปทางรูทวาร (colonoscope) ให้แก่คนไข้
ที่เป็นชาวอเมริกันทุกวัน  ทำเป็นว่าเล่น (routine)  เจอโรคเมื่อไหร่...ก็จัดการสอยออก (polyp)  หรือจัดการผ่าตัดในรายที่เป็นมาก
ซึ่งต่างจากบ้านเรามาก  การที่เราจะเข้าถึงการตรวจคัดกรองโรคอย่างนั้น  คงไม่ใช่เรื่อง่ายๆ แน่
นั่นคือเหตุผล  ที่ทำให้แพทย์เราพบคนไข้เป็นมะเร็งในบริเวณดังกล่าว   เมื่อคนไข้มีอาการ  หรือ มีอาการมาก
ซึ่งหมายถึงมะเร็งได้พัฒนาไปมากแล้ว
คนไข้ส่วนใหญ่ที่เป็นมะเร็ง- colorectal cancer  จะเริ่มต้นที่ polyps ก่อน   หลังจากนั้นมันได้เปลี่ยนเป็นมะเร็งในตอนหลัง 
การผ่าตัดเอา polyp  ออก เป็นวิธีการง่ายๆ  สามารถตัดออก  โดยผ่านทางกล้องที่สอดเข้าทางทวารหนัก (colonoscope)
เป็นวิธีการที่ง่ายมาก

ทั้งหมดที่กล่าวมา  เปํนปัญหาที่เราพบเสมอๆ ในระบบลำไส้ส่วนล่าง (colon และ Rectum)
www.righthealth.com/topic/Tumor_Rectum

Gastointestinal disorders: (1)

Gastrointestinal disorders:  
Functional disorders   เราหมายถึงระบบลำไส้มีรูปลักษณ์เป็นปกติ  แต่การทำงานของมันผิดปกติไป
ปัญหาสำคัญ  ที่เกิดขึ้นกับกับลำไส้ใหญ่ส่วนล่าง  ซึ่งพบได้บ่อย ๆ  ซึ่ง ได้แก่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ  colon และ rectum  รวมถึงอาการท้องผูก 
และกลุ่มอาการของลำไส้แปรปรวน (irritable bowel syndrome)
สาเหตุต่างๆ  ที่ทำให้เกิด Functional disorders ได้แก่:

o   รับประทานอาหารที่มีไยอาหารน้อยไป
o   ออกกำลังกายได้ไม่เพียงพอ
o   เดินทางบ่อย  หรือเปลี่ยนแปลงงานประจำบ่อย
o   ตกอยู่ภายใต้ความเครียด
o   อดกลั้นไม่ถ่ายอุจจาระ
o   อดกลั้นไม่ยอมถ่ายอุจจาระเพราะมีอาการเจ็บปวดทางทวารหนัก (painful hemmorhoid)
o   ชอบใช้ยาละบายบ่อยๆ  (laxative)  เป็นผลให้กล้ามเนื้อของลำไส้เกิดออ่นแอ
o   รับยาลดกรดที่มีสาร  aluminium และ calcium
o   รับ...ยาบางอย่าง  เช่น  antidepressants, iron pills, ยาแก้ปวด (strong narcotics)  และ
o   มีท้อง (pregnancy)

Constipation:
หมายถึงการถ่ายอุจจาระลำบาก  หรือ  ถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์  หรือถ่ายอุจจาระไม่หมด (incompleted passing stool)
สาเหตุของท้องผูกอาจเนื่องมาจาก  การขาดกากอาหาร  หรือขาดเส้นใยอาหาร  หรือพฤติกรรม มีการถ่ายไม่สม่ำเสมอ  
ท่านไม่ปล่อยให้เป็นเรื่องปกติ  เช่น  มีการอดกลั้น  ไม่ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ -
ที่พบบ่อยที่สุด  คือ เวลามีความรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระ  แต่ไม่ย่อมถ่ายจนกลายเป็นนิสัยไป
เมื่อท้องผูก  จะทำให้มีการเบ่ง (strain) ถ่ายอุจาระ  อุจจาระออกน้อย  และแข็ง  บางทีอาจทำให้เกิดปัญหา
เช่น  เป็นโรคริดสีดวงทวาร  หรือมีรอบแผลที่ทวารหนัก (anal fissure)
ในการรักษาอาการท้องผูก  ไม่ใช้เรื่องยาก   คุณเพียงแต่รับประทานอาหารที่มีใยอาหารเพิ่มขึ้น 
ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ  ดื่มน้ำให้เยอะๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว   
อย่า อดกลั้นเมื่อท่านมีความรู้สึกอยากถ่าย....

หากทำได้แค่นี้แล้ว  ยังไม่หาย  ท่านสามารถใช้ยาละบายได้บ้าง  แต่อย่าใช้บ่อย 
เพราะหากท่านใช้ยาละบายเป็นประจำ  จะเป็นการทำให้อาการท้องผูกของท่านเลวลง    
ทั้งนี้  เพราะมันทำให้กล้ามเนื้อของลำไส้  ที่ทำหน้าที่ขับถ่ายอ่อนแอลง
Irritable bowel syndrome (IBS)
ลำไส้แปรปรวน  หรือ  Irritable bvowell syndrome  บางทีเขาเรียกภาวะนี้ว่า  Spastic colon บ้าง 
Irritable colon บ้าง   หรือ  nervous stomach
ผู้เขียนไม่สามารถเลือกภาษาไทยได้ดีกว่า  เรียกทับศัพท์ให้รู้แล้วรู้รอดซะเลย...
เราจะพบว่า  จะพบลำไส้ใหญ่ (Colon)  มีการหดตัว (contraction)  บ่อย ๆ  มากเกินกว่าลำไส้ของคนปกติเขา
โดยเชื่อว่า  มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดภาวะเช่นนั้น 
เช่น  อาหารบางชนิด (certain diet)  ยารักษาโรคบางอย่าง (medications) 
และความเครียด (emotional stress)
อาการของโรคประกอบด้วย  ปวดท้อง (abdominal pain)   ท้องเกร็ง  แน่นท้อง-อาหารไม่ย่อย (bloating)
มีลมในท้อง (gas)
และมีระบบขับถ่ายแปรเปลี่ยนไป  เดี๋ยวท้องผูก  เดี๋ยวท้องล่วง  สลับกันไป
การรักษาภาวะเช่นนี้ประกอบด้วย  การหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ  ให้รับประทานอาหารที่มีเส้นใยเพิ่มขึ้น  
หมั่นตรวจสอบอาหารที่ตนรับประทาน  ซึ่งมันกระตุ้นให้เกิดอาการ...
หากท่านพบ  ก็ให้งดอาหารประเภทดังกล่าวเสียเสีย
ลดความเครียดที่ท่านมี  ด้วยวิธีการต่าง ๆ...
ที่ผู้เขียนเห็นว่า  เหมาะสำหรับพวกเราคนไทย  คือการภาวนาเจริญสติ...น่าจะดีที่สุด 
ท่านอาจต้องรับประทานยาตามที่แพทย์ของท่านสั่งให้ในบางครั้ง
>> cont.