วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

CARDIOVASCULAR DRUGS (6): Diuretics

Diuretics

ยาขับปัสสาวะ  หรือ diuretics   บางทีเราเรียกว่า water pills
เป็นยาที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง 
โดยการทำให้ไตขับเอา sodium และ น้ำออกจากร่างกายไป 
ทำให้ปริมาณของเลือดลดลง
จัดเป็นยาตัวหนึ่ง  ในยาที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูงมานมนานตั้งแต่ปี  1957
ซึ่งนับเป็นเวลาหลายทศวรรษ  แต่ก็ยังปรากฏว่า 
ยังเป็นยาที่ยังใช้ในการรักษาอย่างกว้างขวาง  โดยใช้เพียงตัวเดียว 
หรือ ใช้ร่วมกับยาลดความดันตัวอื่น
นอกจากนั้น  ยาขับปัสสาวะ  ยังเป็นยาที่ใช้ในการรักษาภาวะหัวใจล้มเหลว

ยาในกลุ่มขับปัสสาวะ (diuretics) มีหลายชนิดด้วยกัน
ซึ่ง ถูกแบ่งตามตำแหน่งการำงานของไต:

·        Thiazide diuretics  มันออกฤทธิ์ที่ส่วนที่เราเรียก tubules ของไต
ซึ่งจะทำหน้าที่ในการส่งต่อ (transport) ปัสสาวะภายในไต
·        The Loop diuretics เป็นยาขับปัสสาวะที่มีฤทธิ์แรงกว่ากลุ่มแรก (thiazide
มันถูกเรียกตามตำแหน่ง  ที่ยาออกฤทธิ์  นั้นคือ  Loop of Henle
·        Potassium –sparing diuretics  มันจะทำงานในบริเวณที่สามารถ
ป้องกันไมให้มีการสูญเสีย โปรแตสเซี่ยมในจำนวนมาก  ซึ่งจะเกิดร่วมกับการใช้
ยาขับปัสสาวะในกลุ่ม  thiazides
·        ยาในกลุ่ม potassium – sparing มักจะใช้ร่วมกับยาในกลุ่ม thiazide และ
Loop diuretics

ยาขับปัสสาวะ เป็นยาที่ทรงประสิทธิภาพต่อการรักษา 
เป็นยาราคาถูก   ถูกนำมาใช้รักษาคนไข้มีความดันสูง ในระยะยาว 
ซึ่งสามารลดอัตราการเกิดภาวะสมองถูกทำลาย  และภาวะหัวใจวายได้ดี

NITRATES

ยาที่เก่าแก่อีกกลุ่มหนึ่ง  ทีแพทย์นำมาใช้รักษาคนไข้ 
ที่เป็นโรคหัวใจจากหลอดเลือดตีบอีกตัว คือ ยาในกลุ่ม Nitrates 
ซึ่งเป็นยาที่ทำให้เส้นเลือดทั้งดำ และแดงขยายตัว
จะเรียกว่า  nitrates  เป็นตัวขยายเส้นเลือดที่มีฤทธิ์สูงมาก  ทำให้หลอดเลือดของหัวใจ (coronary artery) เปิดกว้างอย่างเต็มที่  
ทำให้การไหลเวียนของเลือดผ่านเส้นเลือดดังกล่าวดีขึ้น
ทำให้หัวใจได้รับเลือดที่มีออกซิเจนเพิ่มขึ้น

นอกจากนั้น  เมื่อท่านอมยาตัวนี้ (ใต้ลิ้น) 
มันยังลดการหดเกร็ง (spasm) ของหลอดเลือดหัวใจได้
โดยไม่กระทบต่อการบีบตัว (contractions) ของกล้ามเนื้อหัวใจเลย

ตัวอย่างของยาในกลุ่ม Nitrates:
ขอยกตัวอย่างที่พบเห็น  มาเพียงสองตัวพอเป็นกระษัย  (nitroglycerin และ Isosorbride)

·        Nitroglycerin (Deponit, Nitrogard)  เป็นยาสำหรับอมใต้ลิ้น  ออกฤทธิ์ได้เร็วซึ่งอาจมีผลข้างเคียงที่ท่านต้องทราบ  คือ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ หน้าแดงกร่ำ  และ วิงเวียน  ยังดังกล่าว  จะทำปฏิกิริยากับยาลดความดัน  ทำให้ระดับความดันโลหิตลดลง  นอกจากยาอมใต้ลิ้น  ยังมียาที่ผลิตออกมาเป็นแผ่นสำหรับแปะไว้ที่หน้าอกอีกด้วย

สิ่งทีท่านควรรู้อีกอย่าง  คือ เราไม่สามารถเก็บยาดังกล่าวได้นาน...
ฤทธิ์ของยาจะไม่เพียงพอต่อการรักษา

·        Isosorbide dinitrate (Isordil,Sorbirate,…)  เป็นยาที่ใช้อมใต้ลิ้น 
ซึ่ง เป็นยาในกลุ่มnitroglycerin  ทีออกฤทธิ์ยาวนาน  เป็นยาใช้รักษา 
และป้องกันไม่ให้เกิดอาการเจ้บปน้าอก
ผลข้างเคียงของยาตัวนี้  ...เหมือนกับ nitroglycerin ตัวอื่น

PERIPHERAL ADRENERGIC
ANTAGONISTS

มียาอีกกลุ่มหนึ่ง  เป็นยาเก่ามาก ๆ
ซึ่งแพทย์เขานำไปใช้รักษาโรคความดัโลหิตสูง
ฤทธิ์ของมัน  จะไปออกที่ปลายเส้นประสาท  โดยการยับยั้งไม่ให้สาร adrenaline
สามารถออกฤทธิ์ต่อเส้นเลือดได้ 
จึงเป็นเหตุให้เส้นเลือดไม่หดตัว  ทำให้ความดันลดลง
ดังนั้นเขาจึงเรียกว่า peripheral adrenergic antagonists

ยาในกลุ่มนี้  เป็นยาที่มีราคาไม่แพง  สามารถใช้รักษาโรคความดันได้ทุกชนิด
และสามารถใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ  ทำให้ลดความดันได้ดี

ตัวอย่างที่เราพบเห็น  คือ   reserpine (Serpasil)
เป็นยาที่ชายทั้งหลายไม่ค่อยจะอยากใช้ (ถ้าทราบว่า ผลข้างเคียงมันมีอะไร)
เมื่อท่านรับ  ยาตัวนี้  มนสามารถทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้,  อาเจียน , ท้องล่วง,
ปวดหัว,  ซึมเศร้า,  น้ำหนักเพิ่ม ,ผืนคัน  และ...
“สูญเสียความรู้สึกทางเพศได้ในระยะสั้น ๆ”

OTHER VASODILATORS

มียาที่ทำหน้าทีขยายเส้นเลือด  ที่ทำให้ความดันโลหิตลดลง
โดยทั่วไป  จะไม่ถูกเลือกเป็นยาตัวแรกในการรักษาโรคความดันหรอก
แต่  จะถูกนำไปใช้ร่วมกับยาตัวอื่น ๆ เช่น  beta blocker และ diuretics
เป็นยาที่ถูกนมาใช้ในกรณีที่เป็นโรคความดันสูงมากๆ (hypertensive crisis)
หากจำเป็นต้องใช้ในระยะยาว...จะต้องมีการปรับแต่งขนาดให้เหมาะสม
เพราะผลข้างเคียงน่าลำคาญมาก

ผลข้างเคียงของยาตัวนี้ ได้แก่  คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, วิงเวียน, 
หัวใจเต้นผิดปกติ,  ที่พบน้อยได้แก่  ไม่อยากทานข้าว  มีผื่นคัน  ,
หน้าแดง  และปวดตามข้อ

ในการใช้ยา hydralazine  ในระยะยาว  สิ่งที่เราไม่ต้องการ 
คือ มันสามารถทำให้เกิดอาการของ Lupus (autoimmune syndrome) 
เช่น ทำให้คนไข้เกิดอาการ  ไข้,  ปวดข้อ, เม็ดเลือดต่ำ,  ทำให้เกิดการอักเสบชองเซลล์
ที่บุตามผิวของเนื้อปอด และ หัวใจ  ทำให้คนไข้เกิดอาการเจ็บหน้าอก ขณะหายใจ
เข้าลึก....

โดยสรุป  ในการเล่นกอล์ฟ  หากเรารู้คุณประโยชน์ของไม้แต่ละไม้ดี 
เราสามารถใช้ไม้ตีกอล์ฟเพียง   2- 3 ชิ้น  ออกสนาม (เล่นคนเดียว) 
สามารถบรรลุเป้าหมายของการเล่นกอล์ฟ ได้เช่นกัน...
แม้ว่า  เราไม่ใช้หมอผู้สั่งยา....แต่หากเราทราบว่า 
คุณหมอท่านให้ยาอะไรแก่เรา....แม้ว่าจะไม่สนุกเท่าเล่นกอล์ฟ 
มันก็ยังดีกว่า  ที่เราไม่รู้อะไรเลย !
เข้าลักษณะ “รู้ไว้ใช่ว่า...ใส่บ่าแบกหามซะเมื่อไหร่ละ”

Adapted from:
http://www.med.yale.edu/library/heartbk/23.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น