ในการรักษาโรคเบาหวานประเภทสอง (T2DM) ด้วยการฉีดซูลิน
(insulin therapy) เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้ได้ตามเป้า...
มีแนวทางให้เราเลือกใช้หลายวิธีด้วยกัน ดังนี้
วิธีที่ 1 : ฉีดอินซูลินเพียง 1 ครั้ง (One injection): มีให้เลือกใช้อย่างใด
อย่างหนึ่ง...
o ใช้ Intermediate-acting insulin หรือ Long-acting analog ให้ก่อนนอ
(At bedtime) หรือ
o ใช้ Premixed formulation ก่อนอาหารเย็น (before dinner)
วิธีที่ 2: ฉีดอินซูลิน 2 คร้ง (2-injections): เป็นการรักษาด้วยการให้ฉีด
อินซูลินสองครั้ง โดยให้ออกฤทธิ์จัดการกับน้ำตาลที่เกิดจากอาหารมื้อเช้า
(breakfast) และก่อนอาหารมื้อเย็น (dinner) โดยการใช้อินซูลิน:
o ใช้ premixed formulation ฉีดเช้าเย็น (ก่อนอาหารเช้า และก่อนอาหารเย็น)
หรือ
o ใช้ short-acting หรือ rapid-acting + NPH, หรือ Long-acting Analog
ฉีดเช้า/เย็น (โดยให้ก่อนอาหารเช้า และอาหารเย็น)
วิธีที่ 3: เป็นการฉีดอินซูลิน 3 ครั้ง ( 3-injctions) : เป็นการรักษาด้วย
การฉีดอินซูลิน 3 ครั้ง โดยเพิ่มอินซูลินสำหรับอาหารมื้อกลางวัน ดังนี้:
o ให่้ premixed insulin สำหรับอาหารเที่ยง (lunchtime) ร่วมกับการฉีด
premixed formulation อีก 2 ครั้งสำหรับในมื้อเช้า (breakfast) และมื้อย็น
(dinner) หรือ
o ให้ short-acting หรือ rapid-acting insulin สำหรับอาหารมื้อเที่ยง
เป็นการเพิ่มการให้ (ฉีด) อินซูลินด้วย premixed insulin สำหรับอาหารมื้อเช้า
และอาหารมื้อเย็น หรือ
o ให้ intermediate insulin หรือ long-acting insulin ก่อนนอน ร่วม
กับการใช้ short-acting หรือ rapid-acting analog สำหรับอาหารมื้อเช้า
และอาหารมื้อเย็น
วิธีที่ 4: ฉีดอินซูลินหลายครั้ง (multiple injections): เป็นวิธีรักษาโรคเบาหวาน
ด้วยการฉีดอินซูลินหลายครั้ง ในการฉีดแต่ละครั้ง เป็นการใช้อินซูลินเพื่อจัดการ
กับน้ำตาลที่ได้จากอาหารที่รับประทานในแต่ละครั้ง (มื้อ) ดังนี้:
o ฉีด short-acting หรือ rapid-acting insulin analog สำหรับอาหารในแต่ละมื้อ
โดยร่วมกับการฉีด intermediate- หรือ long-acting insulin ก่อนนอน หรือ
o เป็นการฉีดแบบ insulin pump
ในการรักษาด้วยอินซูลินฉีดทั้งสี่วิธี...
แต่ละวิธีที่กล่าวมา ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคนไป เป็นหน้าที่ของแพทย์ฺจะต้อง
เลือกใช้ให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายไป โดยขึ้นกับปริมาณอิซูลินที่เหลือ
จากการสร้างของตับอ่อน (resudual endogensous insulin), และผลของการ
ควบคุมน้ำตาล, รวมไปถึงการออกกลังกายของตัวคนไข้รายนั้น
ในการรักษาโรคเบาหวานด้วยการฉีดอินซูลินเพียง 1 ครั้ง ด้วยการใช้
Intermediate- acting insulin หรือ long-acting insulin analog ฉีดก่อนนอน
เป็นวิธีที่ใช้เสริม basal insulin ที่ได้จากตับอ่อน (endogenous basal secretion),
เสริมยาเม็ดลดน้ำตาล, และช่วยแก้ไขระดับน้ำตาลในช่วงท้องว่างที่มีค่าสูงขึ้น
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่กล่าว...
เราจะใช้ basal insulin analog (glargine) 10 units /วัน ก่อนนอน พร้อมกับ
มีการตรวจดูระดับน้ำตาลในตอนเช้า (FPG) ทุกวัน และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
เราสามารถเพิ่มขนาด (dose) ของอินซูลินตามความต้องการ โดยอาศัยข้อมูล
จากการตรวจ FPG ของ 2 วันก่อน
นอกจากวิธีดังกล่าว...
เราสามารถใช้ premixed insulin หรือ insulin analog เพื่อจัดการ
กับน้ำตาลที่ได้จากอาหารเย็น โดยการให้อินซูลินในเวลาอาหารเย็น โดยฤทธิ์
ของอินซูลินที่ฉีด ก่อนอาหารเย็น (dinner) นอกจากจะทำหน้าที่เป็น basal insulin
ยังออกฤทธิ์จัดการกับน้ำตาลที่ได้จากอาหารเย็น (post-dinner coverage) ด้วย
ถ้าผลของการรักษาในวิธีแรกไม่สามารถทำให้ระดับน้ำตาลลดลงสู่เป้าหมาย
เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการรักษา โดยใช้วิธีฉีดอินซูลิน 2 ครั้ง ด้วยการใช้
premixed formulation ซึ่งประกอบด้วย rapid- และ intermediate-acting insulins
หรือใช้ Insulin analogs ก่อนอาหารเช้า และก่อนอาหารเย็น
ถ้าผลของการรักษาตาวิธีที่สอง ยังไม่บรรลุเป้าหมาย...
เราต้องขยับเป็นการรักษาด้วยด้วยการฉีดยาเข็มที่สาม ด้วยการให้ short-
Acting insulin หรือ rapid-acting insulin analog สำหรับอาหารเทียงวัน
(lunchtime) เพิ่ม เป็นการฉีดอินซูลิน 3 ครั้ง
มีคนไข้บางรายเกิดมีระดับน้ำตาลลดต่ำในตอนกลางคืน (nocturnal hypo-glycemia)
หรือมีรับน้ำตาลขึ้นสูงในตอนเช้า (morning hyperglycemia)
อาจจำเป็นต้องให้อินซูลิน 3 ครั้ง (3 injecions)
นอกจากนั้น เราสามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดระดับน้ำตาลลดต่ำในตอนกลางคืน
( nocturnal hyperglycemia) โดยการลดยาฉีดในตอนก่อนนอน
(ทั้ง intermediate- หรือ long-acting insulin)
<< BACK NEXT
>> P. 6: Initiating
insulin : continued
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น