June 9,2014
เมื่อเพื่อนของเราเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่...
ปัญหาที่พวกเราชอบถามกัน คือ เมื่อเป็นโรคดังกล่าวแล้วจะมีอายุ
ยืนยาวเท่าไหร่ ?
คนที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ละคนจะตอบสนองต่อการรักษาต่างกัน
อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เร็ว และให้การรักษาอย่าง
ฉับพลัน เราจะพบว่าอายุของเขาย่อมยืนยาวอย่างแน่นอน
Credit: http://catchacure4cancer.org/
และความยืนยาวของชีวิตของคนที่เป็รมะเร็งลำไส้ใหญ่ ย่อมขึ้นกับขอบเขต
ของมะเร็ง และการตอบสนองต่อการรักษา
นอกเหนือจากนั้น เรายังพบว่า มีปัจจัยอีกหลายอย่างที่สามารถ ทำให้ผลการ
รักษา และการพยากรณ์โรค (outlook) ของมะเร็งลำไสใหญ่จะดีขึ้น:
ระยะของมะเร็ง (stage of the cancer):
ระยะของมะเร็ง (staging) เป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด โดยเราจะเห็นจากรายงาน
ของ The National Cancer Institute ได้รายงานเกี่ยวกับอัตราการมี
ชีวิตรอด (survival rate) ของคนเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ (colorectal cancer)
ดังนี้:
o Stage I ประมาณ 93 %
o Stage II ประมาณ 72 - 85 %
o Stage III ประมาณ 44- 83 % และจากการได้รับเคมีบำบัด
จะทำให้ชีวิตยืนยาวขึ้น
o Stage IV ประมาณ 8 % จะมีชีวิตรอดภายใน 5 ปี
จำนวนของต่อน้ำเหลืองที่ถูกแทรกซึมด้วยเซลล์มะเร็ง:
เนื่องจากระบบน้ำเหลืองจะทำงานร่วมกับการทำงานขอบระบบภูมิคุ้มกัน
ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องร่างกายให้รอดพ้นจากสิ่งแปลกปลอมที่รุกต่าง ๆ
ที่ล้ำร่างกาย
ในกรณีที่มีเซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง...
พบว่ามะเร็งมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้อีก (recurrence) และด้วยเหตุนี้เอง
การให้เคมีบำบัดจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันกรณีเช่นนี้
ถ้ามะเร็งได้รุกล้ำสู่อวัยอื่นๆ :
ในคนที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะสุดท้าย (advanced case) มะเร็งจะแพร่
กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ตับ (liver) หรือปอด. (lungs)
การให้เคมีบำบัด และรังสีรักษา อาจมีส่วนช่วยชะลอไม่ให้มะเร็งแพร่
กระจายต่อไปได้
คุณภาพชีวิตของคนไข้:
มีคนไข้โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่จำนวนไม่น้อยสามารถดำเนินชีวิตได้เป็นปกติ
เพราะปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่สามารถให้ผลที่ดีได้ โดยท่านจะด้รับการ
รักษาหลายอย่างร่วมกัน (รับการผ่าตัด, เคมีบำบัด และรังสีรักษา)
ซึ่งสามารถป้องกันไม่ให้มะเร็งเกิดขึ้นมาอีก (recurrence)
สิ่งสำคัญที่ท่านจะต้องจำ...
หากสุขภาพของท่านเกิดการเปลี่ยนแปลง ท่านจะต้องแจ้งให้แพทย์ได้ทราบ
เพื่อเธอ หรือ เขาจะได้พิจารณาตรวจค้น (screening)
หรือให้การรักษาเพิ่มแก่ท่าน
<< BACK
Sources:
o www.mayoclinic.org
o www.cancer.gov
o www. my.clevelandclinic.org
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น