วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

สิ่งควรรู้ในโรคข้ออักเสลรูมาตอยด์ 1 (WHAT YOU NEED TO KNOW ABOUT RA)

AUG. 13, 2013

เมื่อท่านปวดข้อขึ้นมา นอกจากจะทำให้ท่านมีอาการเจ็บปวดแล้ว 

ยังทำให้ท่านเกิดความสงสัยว่า  มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ท่านอาจคิดว่า อาการปวดที่ที่เกิดขึ้นกับท่าน คงไม่มีอะไรมากมั้ง...
อาจเป็นเพียงโรคข้อเสื่อมตามสภาพที่เปลี่ยนแปลงเท่านั้นเองมั้ง 
แตบังเอิญแพทย์ที่ท่านไปพบ บอกท่านว่า  ท่านอาจเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอย์ด...
ยิ่งทำให้ท่านเกิดความสงสัยใคร่รู้ต่อไปอีกว่า...
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์นั้น มันเป็นโรคอะไร  และทำไมมันถึงเกิดขึ้นกับตัวท่านได้... 
และตามด้วยความสงสัยอื่นๆ อีกมากมาย

แม้ว่า โรครูมาตอยด์ (RA) จะกระทบกับข้อต่าง ๆ ก็ตาม

แต่โรคดังกล่าว มันเป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกัน  ที่ทำงานผิดเพี้ยนไป
โดยปกติมันจะทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองร่างกายของท่านให้พ้นจากการรุกราน
ของเชื้อโรค เช่น เชื้อไวรัส แลแบคทีเรีย เป็นต้น

ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริงหรอกว่า  ทำไมระบบภูมิคุ้มกันในคนที่ เป็นโรครูมาตอยด์

ไม่ทำหน้าที่ตามที่ควรจะเป็น  แต่หันอาวุธเข้าโจมตีเซลล์ต่าง ๆ ของตัวเอง
เช่นเยื่อบุข้อ (SYNOVIUM) และผลที่ตามมา คือ ทำให้น้ำไขข้อเพิ่มขึ้น 
เป็นเหตุให้มีการอักเสบ และก่อให้เกิดอาการเจ็บขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไป 
จะทำให้กระดูกอ่อนที่คุมกระดูกข้อถูกทำลายไปเป็นเหตุให้กระดูกข้อไร้การปกคลุม 
ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดแล้ว  ยังทำให้การเคลื่อนไหวของข้อติดขัดด้วย

ในคนส่วนใหญ่ จะพบว่า โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์  จะกระทบกับร่างกายโดยรวม

เช่น กระทบกับอวัยวะต่าง ๆ  เช่น ผิวหนัง,  หัวใจ  และปอด เป็นต้น

โรค RA ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับข้อมือ, เท้า, ข้อมือ, ข้อศอก, เข่า, และข้อเท้า 

ข้ออักเสบที่เกิดขึ้นสองข้างมักจะเหมือน ๆ กัน
ซึ่งหมายความว่า  เมื่อข้อหนึ่งเกิดอักเสบขึ้น 
ข้อที่อยู่ตรงข้ามก็จะเกิดการอักเสบ  จะมีลักษณะเหมือน ๆ กัน

ในขณะที่โรคดังกล่าว ซึ่งเป็นโรคเรื้อรัง  และไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้นั้น 

เราจะพบว่า  อาการของมันมักปรากฏขึ้น  แล้วก็หายไป  เป็น ๆ หาย ๆ 
ในรายที่เป็นไม่รุนแรง  อาจมีอาการรุนแรงได้เป็นบางครั้ง 
และในบางราย ถ้าได้รับการรักษาเหมาะสมโรคจะดีขึ้น
และอาการจะดีขึ้น ๆ ตามลำดับ

ถ้าบังเอิญท่านได้รับการวินิจฉัยเป็นโรค RA ท่านควรรู้ว่า 

ท่านไม่ใช่คนเดียวหรอทที่เป็นโรคดังกล่าว

มีสถิติของสหรัฐฯ รายงานเอาไว้ว่า มีคนเป็นโรครูมาตอยด์ถึง 1.5 ล้าน 
โดยเกิดในสตรีเพศได้มากกว่าชายถึงสามเท่าตัว  และช่วงอายุที่พบได้มากสุด 
คือ อายุระหว่าง 40 – 60  แต่ก็สามารถเกิดได้ในคนทุกอายุขัย แม้กระทั้งในวัยเด็ก

>> NEXT

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น