Non-drug treatments for sleep changes
คนสูงอายุที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งมีปัญหาเรื่องการนอน...
เป้าหมายของการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา
เป้าหมายของการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา
เพื่อช่วยทำให้คนสูงอายุสามารถนอนหลับได้เป็นปกติ
พร้อมกับช่วยสร้างบรรยากาศให้เขานอนหลับได้ง่ายขึ้น
ถือว่า เป็นวิธีที่ควรกระทำ (non-drug measures) ก่อนที่จะมีการใช้ยา
ถือว่า เป็นวิธีที่ควรกระทำ (non-drug measures) ก่อนที่จะมีการใช้ยา
เพราะยานอนหลับสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
เพื่อสร้างบรรยากาศให้มีการนอนหลับดีขึ้น พร้อมกับส่งเสริมให้คนเป็น
โรค “อัลไซเมอร์” ได้รับการพักผ่อน มีดังนี้:
§ รักษาเวลาในการรับประทานอาการ, เวลานอน และเวลาตื่นนอน
ให้เป็นปกติ
§ หาโอกาสสัมผัสแสงแดดในตอนเช้าทุกวัน
§ พยายามออกกำลังกายเป็นประจำ และควรกระทำก่อนเวลา
นอน 4 ชั่วโมง
§ งดเว้นจากการดื่มแอลกอฮอล, กาแฟ นิโคตีน
§ อย่าให้มีอาการปวด ถ้ามีอาการปวด (กาย) ...รักษาให้หาย
§ ถ้าคนไข้รับประทานยากลุ่ม cholinesterase inhibitors (tacrine,
donepezil, rivastigmnine หรือ galantamine) ….
อย่ารับทานยากลุ่มดังกล่าวก่อนเวลานอนเป็นอันขาด
§ ถ้าหากมีการตื่นในตอนกลางคืน...อย่านอนบนเตียง
ให้ใช้เตียงนอนเพื่อการนอนหลับเท่านั้น
หลีกเลี่ยงการดูทีวีในระหว่างการตื่น
ในกรณีทที่ไม่ต้องใช้ยา (non-drug measures) ไม่ประสบผล
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการนอนหลับได้
คนกลุ่มนี้จำเป็นต้องใช้ยา
และสิ่งที่ควรยึดเป็นหลักปฏิบัติ คือ ให้เริ่มขนาดน้อยๆ และเพิ่มอย่าง ช้า ๆ
อันตรายจากการใช้ยาเพื่อให้หลับในคนสูงอายุที่มีปัญหาการรับรู้ และ
ความเข้าใจปรากฏว่ามีมากพอสมควร
ซึ่งได้แก่: เพิ่มโอกาสให้เกิดการหกล้ม กระดูกหัก, เกิดอาการสับสน
และลดความสามารถในการช่วยเหลือตนเองลดลง
ถ้าเกิดมีการใช้ยานอนหลับเมื่อใด พยายามหยุดยาเมือการนอนหลับ
กลับสู่ปกติแล้ว...อย่ายืดเยื้อกับการใช้ยานอนหลับเป็นอันข่าด
ชนิดของยานอนหลับ...
ในการสั่งยานอนหลับให้คนไข้โรค “อัลไซเมอร์”
แพทย์จะคำนึงถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของคนไข้เป็นหลัก
การใช้ยา antipsychotic drug ให้แก่คนไข้จำเป็นต้องระมัดระวังให้มาก
เพราะผลจากการวิจัยบอกว่า
ยากลุ่มดังกล่าว ทำให้เกิดมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองถูกทำลาย (stroke)
และความตาย (death) ในคนแก่ที่มีสมองเสื่อมเพิ่มขึ้น
ตัวอย่างของยาที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาความผิดปกติในการนอนของคนไข้ AD
ได้แก่:
§ Tricyclic antidepressants เช่น nortriptyline และ trazodone
§ Benzodiazepines เช่น lorazepam, oxazepam และ temazepam
§ Sleeping pills เช่น zolpidem, zaelplon และ choral hydrate
§ Atypical antpsychotics เช่น risperidone, onlanzapine
§ และ quetiapine
สำหรับท่านที่ชอบใช้ยาใหม่ๆ...โดยเฉพาะจากคำแนะนำของเพื่อนๆ ...
ก่อนใช้ท่านจะต้องแน่ใจก่อนว่า:
§ ประโยชน์ที่พึงได้รับจากยา ?
§ มีความเสียง หรืออันตรายจากการใช้ยา...หรือเปล่า ? และ
§ มีทางเลือกอย่างอื่น ที่ดีกว่าไหม ?
§ ควรปรึกษาแพทย์...น่าจะปลอดภัยกว่า
สุดท้าย แต่คงไม่ใช่ท้ายสุด !
เป้าหมายของการรักษาอัลไซเมอร์...
ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีใด มักมีแนวโน้มเกิดการเปลี่ยนแปลงในขณะที่ทำการรักษา
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย และประโยชน์สูงสุด
การศึกษาทำความเข้าใจกับวิธีการรักษาวิธีการต่างๆ ให้มากที่สุด
น่าจะเป็นการดีสำหรับการต่อสู่กับโรคดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น