6/30/12
ในสมัยก่อน...
เขาใช้ระดับของ LDL cholesterol ในเลือดที่สูง เป็นตัวบ่งบอก
ให้ทราบถึงความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด (heart attack)
แต่ ผู้เชียวชาญทางโรคหัวใจ ต่างรู้ดีว่า คนที่เป็นโรคหัวใจจากหลอดเลือด (CHD)
สามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง ๆ ที่ระดับ LDL cholesterol ในกระแสเลือดอยู่ในระดับปกติ
ซึ่งสามารถพบได้ถึง 50 %...
เขาใช้ระดับของ LDL cholesterol ในเลือดที่สูง เป็นตัวบ่งบอก
ให้ทราบถึงความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด (heart attack)
แต่ ผู้เชียวชาญทางโรคหัวใจ ต่างรู้ดีว่า คนที่เป็นโรคหัวใจจากหลอดเลือด (CHD)
สามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง ๆ ที่ระดับ LDL cholesterol ในกระแสเลือดอยู่ในระดับปกติ
ซึ่งสามารถพบได้ถึง 50 %...
ต่อมา Dr. Roger S Blumenthal, Director of the Johns Hopkins
Ciccarone Center for prevention of heart disease…
ได้อธิบายว่า C-reactive protein สามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้ถึงการเกิดโรคหัวใจได้...
ได้อธิบายว่า C-reactive protein สามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้ถึงการเกิดโรคหัวใจได้...
ถ้าไม่ใช้ LDL cholesterol เป็นตัวชี้…
อะไรเป็นตัวทำให้กล้ามเนื้อหัวใจของมนุษย์เราถูกทำลาย ?
อะไรเป็นตัวทำให้กล้ามเนื้อหัวใจของมนุษย์เราถูกทำลาย ?
ปรากฏว่า มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อย ได้พยายามศึกษาหาคำตอบ...
ซึ่งปัจจุบัน ได้ปรากฏเป็นที่เด่นชัดว่า ...
การอักเสบเรื้อรัง (chronic inflammation) ของผนังเส้นเลือดหัวใจ
การอักเสบเรื้อรัง (chronic inflammation) ของผนังเส้นเลือดหัวใจ
อาจมีบทบาทต่อการกระตุ้นให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อของหัวใจถูกทำลายได้
เมื่อท่านได้รับบาดเจ็บ ...
ระบบภูมิต้านทานของมนุษย์เรา จะเร่งให้มีการซ่อมแซมส่วนที่ถูกทำลายทันที
ระบบภูมิต้านทานของมนุษย์เรา จะเร่งให้มีการซ่อมแซมส่วนที่ถูกทำลายทันที
โดยกระบวนการที่เรียกว่า “การอักเสบ” (inflammation)
ซึ่งประกอบด้วย ความเจ็บปวด , บวม , อุณหภูมิเพิ่มขึ้น
เราเชื่อว่า การเกิดโรคหัวใจ ต่างก็มีปรากฏการณ์อักเสบเช่นเดียวกัน
เพื่อเป็นการหาหลักฐานที่ชี้บ่งว่า การอักเสบเป็นต้นเหตุของโรคหัวใจ (CVD)
ได้มีการตรวจพบว่า มีสารตัวหนึ่งชื่อ... C-Reactive Protein (CRP) ในกระแสเลือด
จะมีระดับสูงขึ้นในภาวะที่มีการอักเสบทุกชนิด ซึ่งเกิดในร่างกายของคนเรา
นอกจากนั้น ยังพบอีกว่า CRP ในคนที่เป็นโรคหัวใจ (CVD)
และ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย (heart attack) มีแนวโน้มจะสูงขึ้น
จะมีระดับสูงขึ้นในภาวะที่มีการอักเสบทุกชนิด ซึ่งเกิดในร่างกายของคนเรา
นอกจากนั้น ยังพบอีกว่า CRP ในคนที่เป็นโรคหัวใจ (CVD)
และ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย (heart attack) มีแนวโน้มจะสูงขึ้น
ภายใต้ภาวะ LDL cholesterol ในเลือดสูง...
LDL cholesterol ที่สูงขึ้น จะทำให้เกิดคราบไขมัน(plaques) เกาะตัวตามผนังของ
เส้นเลือดแดง...โดยคราบของมัน จะถูกแทรกซึมด้วยเซลล์จากระบบภูมิต้านทาน
เส้นเลือดแดง...โดยคราบของมัน จะถูกแทรกซึมด้วยเซลล์จากระบบภูมิต้านทาน
จึงเป็นเหตุให้คราบไขมันเกิดการแตกได้ง่าย...
เมื่อคราบไขมันเกิดแตก (rupture)…
ทันทีนั้นเอง จะมีเกล็กเลือดเร่มจับตัวเป็นก้อนเลือด ภายในเส้นเลือด
เมื่อมีขนาดโตขึ้น จำมีการอุดตันหลอดเลือดของหัวใจ หรือ สมอง
ทำให้เกิดภาวะหัวใจ และ สมองถูกทำลาย (heart attack & stroke)
เมื่อมีขนาดโตขึ้น จำมีการอุดตันหลอดเลือดของหัวใจ หรือ สมอง
ทำให้เกิดภาวะหัวใจ และ สมองถูกทำลาย (heart attack & stroke)
นักวิจัยคิดว่า CRP อาจเกิดร่วมกับปัจจัยเสี่ยงอย่างอื่นๆ ที่ทำให้เกิด CVD
เช่น สูบบุหรี่, ความดันโลหิตสูง, ระดับ LDL cholesterol สูง,
ซึ่งเราเชื่อว่า มันเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค CVD เท่านั้น
ไม่ใช้สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคโดยตรง
แต่จากการวิจัยในระยะหลัง พบว่า...
การที่มีระดับ CRP ในเลือดสูงขึ้น อาจมีส่วนโดยตรงต่อการทำลายผนังเส้นเลือด
ทำให้เกิดมีการสร้างก้อนเลือด ก่อให้เกิดการอุดตันกระแสเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ...
ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย (heart attack) ในเวลาต่อมา
จากการศึกษา CRP เป็นตัวบ่งชี้อิสระ...
ที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิด CVD ได้จริง
ในปัจจุบัน เราเชื่อว่า...
การมีระดับ CRP สูง ร่วมกับ LDL cholesterol สูง...
จะเป็นตัวอันตรายต่อการเพิ่มความเสี่ยงต่อการทำให้เกิดภาวะหัวใจ
และ สมองถูกทำลาย(heart attack & stroke)
CRP คือ อะไร ?
เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้น...
ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นที่ไหนในร่างกาย... ตับ (liver) จะทำหน้าที่สร้าง CRP ขึ้น
ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นที่ไหนในร่างกาย... ตับ (liver) จะทำหน้าที่สร้าง CRP ขึ้น
ในระยะหลังนี้ นักวิจัยพบว่า ในคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจจากหลอดเลือด (CVD)
เขาพบหลักฐาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า CRP ถูกสร้างขึ้นในผนังของหลอดเลือด
แต่จะไม่พบในผนังของเส้นเลือดของคนที่ไม่เป็นโรค CVD
และ ทำให้เราไม่สามารถอธิบายได้ชัดแจ้งว่า...
อะไร คือ สาเหตุแท้จริง ที่ทำให้เกิดการอักเสบในเส้นเลือดแดงของหัวใจ
ในสมัยก่อน นักวิจัยคิดว่า...
การที่เส้นเลือดแดงเกิดแคบลง ถูกคิดว่า
เป็นผลมาจากการมี LDL cholesterol ในกระแสเลือดสูงเกินไปนั่นเอง
แต่ในขณะนี้ เราคิดว่า เมื่อ LDL cholesterol ถูกเปลี่ยนเป็น oxide (oxidizing LDL)
และ oxidizing LDL ที่เกิดขึ้น จะเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับระบบภูมิต้านทาน
ซึ่งมันจะตอบสนอง ด้วยการปล่อยเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดพิเศษ (T cells และ Monocytes)
เข้าไปจัดการกับ oxidizing cholesterol และ มีการดึงเอา LDL cholesterol
ออกจากผนังของเส้นเลือดแดง
การที่เส้นเลือดแดงเกิดแคบลง ถูกคิดว่า
เป็นผลมาจากการมี LDL cholesterol ในกระแสเลือดสูงเกินไปนั่นเอง
แต่ในขณะนี้ เราคิดว่า เมื่อ LDL cholesterol ถูกเปลี่ยนเป็น oxide (oxidizing LDL)
และ oxidizing LDL ที่เกิดขึ้น จะเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับระบบภูมิต้านทาน
ซึ่งมันจะตอบสนอง ด้วยการปล่อยเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดพิเศษ (T cells และ Monocytes)
เข้าไปจัดการกับ oxidizing cholesterol และ มีการดึงเอา LDL cholesterol
ออกจากผนังของเส้นเลือดแดง
จากปรากฏการณ์ดังกล่าว...
สามารถทำให้ผนังของเส้นเลือดแดงบางลง
และ เพี่มความเหนียวต่อเกล็ดเลือด และเม็ดเลือด...
เป็นเหตุให้คราบของไขมัน ที่เกาะตามผนังเส้นเลือดไม่เสถียร (unstable)
เกิดแตกได้ง่าย เป็นเหตุให้มีการสร้างก้อนเลือด เกิดขึ้น
ซึ่งสามารถทำให้เกิดการอุดตันการไหลเวียนของเลือดสู่หัวใจ
ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจ ถูกทำลาย (heart attack) ในที่สุด
สามารถทำให้ผนังของเส้นเลือดแดงบางลง
และ เพี่มความเหนียวต่อเกล็ดเลือด และเม็ดเลือด...
เป็นเหตุให้คราบของไขมัน ที่เกาะตามผนังเส้นเลือดไม่เสถียร (unstable)
เกิดแตกได้ง่าย เป็นเหตุให้มีการสร้างก้อนเลือด เกิดขึ้น
ซึ่งสามารถทำให้เกิดการอุดตันการไหลเวียนของเลือดสู่หัวใจ
ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจ ถูกทำลาย (heart attack) ในที่สุด
johnshopkinshealthalerts.com
