วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

เมื่อกระดูกสันหลังระดับเอวของท่านเลื่อนไถล...(4): Spondylolithesis

Aug. 23, 2013
(Continued)

Can spondylolisthesis be prevented?

แม้ว่าเราจะไม่สามารถป้องกันไม่ให้กระดูกสันหลังเลื่อนไถลได้ก็ตาม
แต่เราัก็สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดังกล่าวได้ไม่มากก็น้อย  
ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:

See picture on: http://www.basicspine.com/

·        ท่านจะต้องทำให้กล้ามเนื้อท้อง และกล้ามเนื้อของหลังมีความ
แข็งแรง  เพื่อช่วยประคองกระดูกสันหลังให้อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง

·        เลือกกิจกรรม และการออกกำลังกายที่ไม่ทำให้กระดูกสันหลังมี
ความเสี่ยงต่อบาดเจ็บ  การออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับกระดูก
สันหลัง คือการว่ายน้ำ และการปั่นยักรยาน

·        อย่าให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น  เพราะการมีน้ำหนักเพิ่ม...จะเพิ่มแรงบน
กระดูกสันหลัง  และสุดท้าย

·        รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบทั้งห้าหมวด ซึ่งจะทำให้กระ
ดูกแข็งแรงด้วย

Back surgery: When is it a good idea ?

เด็นที่คนไข้กระดูกสันหลังเลื่อน.... มักมีความกังวลเสมอ คือ

จำเป็นต้องผ่าตัด้วยหรือ ?

เมื่อกระดูกสันหลังถูกทำลาย  และเลื่อนไปกดเส้นประสาททำให้
เกิดมีอาการปวดหลัง  และมีอาการอย่างอื่นๆ ร่วมด้วย 
เช่น ปวดร้าวไปยังขา  หากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไม่ยอมหายสักที  ไม่ว่่าท่านจะได้รับการรักษาอย่างไร (อนุรักษ์)
แำพทย์ที่ทำหน้าที่รักษาท่าน  อาจบอกท่่านให้เตรียมใจเผื่อว่า  
ท่านอาจจำเป็นต้องได้รับการการผ่าตัดก็ได้

โดยทั่วไป  คนที่ไปพบแพทย์ด้วยอาการปวดหลัง ด้วยสาเหตุของ
ดูกเลือนออกจากที่... มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด
ส่วนใหญ่สามารถทำให้หายได้  โดยการรักษาด้วยวิธีอนุรักษ์
เป็นต้นว่า  การให้ยาลดการอักเสบ,  ประคบด้วยความเย็น  หรือความร้อน, 
นวด  และกายภาพบำบัด

ถ้าการรักษาด้วยกรรมวิธีดังกล่าว (conservative Rx) ไม่ดีขึ้น
การผ่าตัดอาจช่วยท่านได้  แต่ไม่ได้หมายความว่า  การผ่าตัดสามารถช่วย
ได้ทุกรายไป

ภาวะต่างๆ ต่อไปนี้  อาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดกระดูกสันหลัง
ถ้าพยาธิสภาพเป็นมากขึ้น,  มีอาการปวดมากขึ้น  หรือเส้นประสาทถูกกดทับ
(See pictue on: :http://www.precisionneurosurgery.com.au/)

·        กระดูกสันหลังคด (Scoliosis)
·        กระดูกสันหลังโก่ง (Kyphosis)
·        กรดูกสันหลังเลื่อนออกจากที่ (Spondylolisthesis)
·        ช่องกระดูกสันหลังตีบแคบ (Spinal stenosis)
·        ปวดเส้นประสาท (Radiculopathy) จากเส้นประสาทถูระคาย
และอักเสบ  กระดูกสันหลังเสื่อมสภาพการสึกหรอ (Wear and tear)

โดยสรุป:


ในกรณีที่ท่านปวดขาจากโรคกระดูกสันหลังเลื่อนหลุด...
ก่อนตัดสินใจว่า  จะรับการผ่าตัดกระดูกสันหลังหรือไม่  ท่านมีสิทธิ์ปรึกษา
แพทย์ที่มีประสบการณ์หลายๆ นาย  เพราะแพทย์ดังกล่าวแต่ละคน
มีความเห็นแตกต่างกันว่า...  จะผ่าตัดกระดูกสันหลังเมื่อใด?  

จะผ่าตัดแบบใหน ?  หรือควรทำอย่างไรจึงจะดีที่สุดสำหรับท่าน


หลังจากนั้น  ท่านค่อยมาพิจารณาว่า  จะรับการผ่าตัดหรือไม่

แต่มีข้อแม้ว่า...ท่านจะต้องผ่านการรักษาด้วยวิธีอนุรักษ์อย่างเต็มที่เสียก่อน

มีกรณีเดียวเท่านั้น  ที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดทันที...

นั้นคือ เส้นประสาทสันหลังถูกกดทับ และเกิดอัมพาติของขา  
หรือไม่สามารถบังคับการขับถ่ายปัสสาวะ  ถ้ามัวแต่ีรีรีอไม่ยอมผ่าตัดซะที
มีหวังอัมพาติตลอดชีวิต หรือฉีราดตลอดชีวิต  
ซึ่งไม่มีใครอยากให้เป็นเช่นนั้น

<<Prev.

 

Sources:

 

Ø Mayoclinic

Ø Clevelandclinic

Ø Orthospineinst.


เมื่อกระดูกสันหลังระดับเอวเลื่อนไถล...(3): Spondylolithesis


Aug. 23, 2013
Continued

How is spondylolisthesis treated?

คนไข้ที่เป็นโรคกระดูกสันหลังเลื่อนไถล..  
ส่วนใหญ่จะได้รับการรักษาแบบอนุรักษ์  \(conservative  treatment)  
ซึ่งประกอบด้วยการพักผ่อน(rest),  รับยารักษา (medications)  
และบริหารร่างกาย (exercise)


ถ้ากระดูกสันของท่านเกิดการเลื่อนไถลจากที่...ในระดับ  III-IV
ท่านอาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดก็ได้ ?

Ø Conservative treatment :

ถ้าท่านเป็นนักกีฬา  ท่านควรหยุดพัก  งดกิจกรรมอื่นๆ จนกว่าอาการ
ของท่านจะเบาลง  ท่านสามารถใช้ยาซื้อหาได้เอง เช่น ยากลุ่ม NSAIDs 
อันได้แก่ ibuprofen, naproxen สามารถช่วยบรรเทาอาการปวด 
และการอักเสบของท่านลงได้

หากทานจำเป็นต้องใช้ยาสูงกว่านั้น.. ย่อมเป็นหน้าที่ของแพทย์จะต้อง
ให้ความช่วยเหลือท่านต่อไป  เช่น การฉีดยา steroids เข้าหลัง
ซึ่งสามารถช่วยลดอาการอักเสบ และบรรเทาอาการปวดลงได้

ท่านอาจจำเป็นต้องใช้ brace หรือ back support เพื่อช่วยประคอง
หลังของท่านในขณะที่มีอาการ  และสามารถลดอาการปวดลงได้
แต่เป็นการใช้ในระยะสั้น ๆ เท่านั้น

โปรแกรมการออกกำลังกาย  และกายภาพบำบัดสามารถเพิ่มให้ท่าน
เคลื่อนไหวกระดูกสันลังได้ดีขึ้น  ลดความเจ็บปวดลง  และเพิ่มความ
แข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อของกระดํกสันหลัง

สุดท้าย การตรวจเอกซเรย์  ของกระดูกสันหลังเป็นระยะ...สามารถตรวจ
สอบดูว่า  กระดูกสันหลังของท่านมีการเลื่อนไถลเพิ่มมากขึ้นหรือไม่

Ø Physical therapy :

การทำให้กระดูกสันหลังมีความมั่นคงแข็งแรงด้วยการบริหารกาย  ถือเป็น
หัวใจของการรักษา  ซึ่งท่านสามารถกระทำได้ด้วยการทำให้กล้ามเนื้อ
ของช่วงท้อง และบั้นเอวมีความแข็งแรง  ซึ่งสามารถทำให้กระดูกสันหลัง
ของท่านแข็งแรง  ลดโอกาสที่จะเลื่อนออกไปได้อีก

การบริหารกายเพื่อก่อให้เกิดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ท่านจำเป็นต้อง
ทำอย่างเต็มที่เป็นเวลา 12 อาทิตย์  โดยทั่วไปจะทำให้อาการดีขึ้นได้ 

Ø Surgery :
การรักษาด้วยการผ่าตัดอาจมีความจำเป็น...
ถ้ากระดูกสันหลังมีการเลื่อนไภลออกไปมากกว่าเดิม  หรือไม่สามารถ
รักษาอาการปวดให้ลดลงได้  และกระทบกับวิถีชีวิตในแต่ละวันของท่าน

เป้าหมายของการผ่าตัดกระดูกสันหลังชนิดเลือนไถลจากที่...
คือลดอาการเจ็บปวดจากเส้นประสาทจากการถูกระคาย (irritated)  และ
ทำให้กระดูกสันหลังมีความเสถียร (stabilization) ไม่ให้มันเลือนไถล...
และเพิ่มความสามารถให้คนสามารถทำงานได้ดีขึ้น

What is the outlook for people with spondylolisthesis?

ในรายที่กระดูกสันหลังเลื่อนไถลไม่มาก (mild case)  กระดูกสันหลัง
ไม่กดเส้นประสาทเลย  คนไข้อาจไม่มี่อาการใด ๆ

โดยทั่วไป  การรักษาด้วยวิธีอนุรักษ์...
สำหรับรายที่ไม่รุนแรงจะได้รับผลดีประมาณ 80 %
ส่วนรายที่มีกระดูกเลื่อนไถลออกไปมาก (severe case)  ผลที่ได้รับจาก
การผ่าตัด  สามารถบรรเทาอาการลงได้ประมาณ  80 – 90 %



เมื่อกระดูกสันหลังของท่านเลื่อนไถล...(2): Spondylolithesis

Aug. 22, 2013
(continued)

เมื่อท่านเป็นโรคกระดูกสันหลังส่วนล่างเลื่อนไถลจากที่เดิมของมัน..
ท่านสามารถเรียนรู้แง่มุมต่างๆ จากคำถาม - คำตอบต่อไปนี้:

How common is spondylolisthesis?

โดยทั่วไป  โรคกระดูกสันหลังส่วนล่างเลื่อนได้บ่อยที่สุด  เราจะพบเห็น
ในช่วงวัยรุ่น   สำหรับคนสูงอายุจะพบได้บ่อยในคนช่วงอายุหลัง 40


See picture on: : www. phioquestions.. com

What are the symptoms of spondylolisthesis?

มีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่เป็นโรคกระดูกสันหลังเลื่อน...
โดยไม่มีอาการ  และไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า  ตัวเองมีความผิดปกติดังกล่าว
เมื่ออาการของโรคเกิดขึ้น  อาการที่เกิดบ่อยได้แก่  
อาการปวดหลังส่วนล่าง  เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด  
และอาจมีอาการเหมือนกล้ามเนื้อเคล็ดยอก...

นอกจากนั้น  ภายใต้ภาวะโรคกระดูกสันหลังเลื่อนออกจากที่ี 
อาจทำให้เกิดมีอาการกล้ามเนื้อปั้นตรงบริเวณของน่องปั้น  หากกระดูก
สันหลังเลื่อนไปกดเส้นประสาทเข้า  จะทำให้เกิดอาการปวดร้าวไปยังขา...
ร้าวลงสู่เท้าได้  และอาจมีอาการชา  หรือมีอาการเหมือนเข็มทิ่มตำก็ได้


How is spondylolisthesis graded ?


เมื่อเป็นโรคกรดูกสันหลัเลือนไถล... 
แพทย์ทางเอกซเรย์สามารถแบ่งภาวะกระดูกสันหลังเลื่อนไถลออกได้เป็น
เป็น  4 ระดับ (grade)  ดังนี้:
See picture on:   www.physio-pedia.com

Ø Grade I -  กระดูกสันหลังเลื่อนจากที่ได้ตังแต่ 1 – 2 5 %
Ø Grade II  - กระดูกสันหลังเลื่อนตั้งแต่ 25 – 50 %
Ø Grade III - กระดูกสันหลังเลื่อนตั้งแต่ 51 – 75 %
Ø Grade IV –  กระดูกสันหลังเลื่อนตั้งแต่  76 – 100 %

โดยทั่วไป  เมื่อกระดูกสันหลังเลื่อน grade I และ grade II จะไม่ทำ
การผ่าตัด  และรักษาด้วยยา และกายภาพบำบัด
ส่วนคนไข้ที่อยู่ใน grade III และ grade IV  อาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัด
ถ้าท่านมีอาการปวดมากอย่างต่อเนื่อง  และกระดูกสันหลังยังเลื่อนออก
จากตำแหน่งที่มันควรเป็น...

How is spondylolisthesis diagnosed?

เราสามารถทำการวินิจฉัยโรคกระดูกสันหลังเลือน  โดยอาศัยภาพที่ได้
จากการตรวจเอกซรเย์,  ตรวจภาพด้วย computed tomography (CT)
หรือตรวจด้วยภาพ  magnetic resonance imaging (MRI)
ซึ่งจากพภาพที่ได้  สามารถเห็นรายละเอียดของกระดูก  
และเส้นประสาทที่ถูกกดได้


See picture on......>  http://www.spinalsurgeon.com/

How is spondylolisthesis treated?

ในการรักษาคนไข้โรคกระดูกสันหลังเลื่อน  (spondylolithesis) 
แพทยืจะให้การรักษาแบบใดย่อมขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างด้วยก้น เป็นต้น
ว่า อายุ,  สุขภาพโดย รวมของท่าน, ระดับ (grade) ของกระดูกสันหลัง
ที่เลือนไป, และความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้นกับท่าน

อย่างไรก็ตาม  คนไข้ส่วนใหญ่ที่เป็นโรคดังกล่าว จะได้รับการรักษาแบบ
อนุรักษ์  (conservative  treatment)  ซึ่งประกอบด้วยการพักผ่อน (rest)
รับยารักษา (medications) และบริหารร่างกาย (exercise)

ถ้าบังเอิญกระดูกสันหลังของท่าน  มีการเลื่อนไถลออกจากที่ได้มาก ๆ 
เช่น grade III-IV  อาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดก็ได้



วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

เมื่อกระดูกสันหลังระดับเอวเลื่อนไถล...(1) : Spondylolithesis

Aug. 22, 2013

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสพบสตรีสูงวัยท่านหนึ่ง
เธอเล่าให้ฟังด้วยความไม่สบายใจว่า...
เธอมีอาการปวดขา มาได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ซึ่งเกิดหลังจากเดินทางโดยรถยนต์
ติดต่อกันทุกวัน   ทุกครั้งที่เธอยืนตรง เธอจะมีอาการปวดร้าวที่บริเวณขาด้าน
หนึ่งเสมอ   จึงทำให้เธอเดินตัวเอียง   เป็นสาเหตุให้คนรอบข้างสังเกตุเห็น

แพทย์ที่เธอไปพบบอกกับเธอว่า

กระดูกสันหลังระดับเอวเลื่อน... (spondylolithesis) ...
“ต้องผ่าตัดสถานเดียว...”
See picture on: http://www.spinesurgery-wecareindia.com/
               
คำถามที่เธอต้องการคำตอบจากผู้เขียน  มีว่า...
“...จำเป็นต้องผ่าตัวด้วยหรือ...ขณะนี้อีฉัน 78 แล้วนะ!”

เพื่อตอบคำถามของสตรีท่านนี้   ผู้เขียนจึงถือโอกาสเล่าเรื่องกระดูกสันหลัง

เลื่อนไถลออกจากที่ ๆ มันควรอยู่  (spondylolithesis)ให้เธอได้ทราบเป็นเบื้องต้น
เพื่อพิจารณาว่า  เธอควรรับการผ่าตัดหรือไม่ ?


สภาวะกระดูกสันหลังเลื่อนไถลจากที่   หรือเรียกทับศัพท์ว่า spondylolithesis...
ซุ่งหมายถึงกระดูกสันหลังชิ้นบนเลือนออกไปทางด้านหนั่าของกระดูกสันหลังหลังอันล่าง
ถ้าหากกระดูกมีการเลื่อนมากไป  มันอาจไปกดเส้นประสาท
ทำให้เกิดความเจ็บปวดขึ้นได้

ภาวะกระดุกสันหลังเลื่อนไถลไปทางด้านหน้าดังกล่าว...

เราจะพบเห็นในกระดูกสันหลังระดับบั้นเอวเสียเป็นส่วนใหญ่

คำ Spondylolithesis...

เป็นคำที่มาจากภาษากรีกสมัยโบราณ... spondylos เป็นคำ สื่อให้ทราบว่า
เป็นกระดูกสันหลัง หรือ   Spine หรือ vertebrae
 ส่วนคำ listhesis หมายถึงการเลื่อนนไถล 

Types of spondylolisthesis

ภาวะกระดูกสันหลังเลื่อนจากที่ ที่พบได่บ่อยได้แก่:

o Congenital spondylolisthesis :

เป็นความผิดปกติที่มีมาแต่กำเนิด โดยเป็นผลมาจากความบกพร่องในการเจริญ
เติบโตของกระดูกสันหลังเอง ซึ่งความผิดปกติชนิดนี้ ทำให้เกิดมีการเลื่อนไถล
ของกระดูกสันหลังได้สูงมาก

o Isthmic spondylolisthesis:

เป็นผลเนื่องมาจากความผิดปกติในกระดูกสันหลัง ตรงส่วนที่เป็น 
Pars interarticularis  มีความอ่อนแอ  มีโอกาสแตกหักได้ง่าย  และ 
นำไปสู่การเลื่อนไถลของกระดูกสันลังได้

o Degenerative spondylolisthesis :

จัดเป็นรูปแบบของกระดูกสันหลังเลื่อนไถล  ซึ่งพบได้บ่อยที่สุด 
โดยเราจะพบเห็นในคนสูงอายุ   ซึ่งหมอนกระดูกเสื่อมสภาพตามเวลาที่ผานไป  
ทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่ของมันได้ตามปกติ    
และมีการเลื่อนไถลของกระดูกสันหลังตามมาในที่สุด

กระดูกสันหลังที่เลือนหลุดออกจากที่ (spondylolithesis) 

ทีพบได้ไม่บ่อย ได้แก่:

o Traumatic spondylolisthesis:

เกิดจากการได้รับบาดเจ็บของกระดูกสันหลังเอง   ซึ่งนำไปสู่การแตกหักของ
กระดูกสันหลัง และทำให้กระดูกเลื่อนไถลเกิดขึ้น

o Pathological spondylolisthesis:

เกิดจากโรคที่ทำให้กระดูกสันหลังเกิดการอ่อนแอ   เช่น โรคกระดูกพรุน 
(osteoporosis),  หลังการอักเสบติดเชื้อ  หรือเนื้องอก

o Post-surgical spondylolisthesis:

กระดูกสันหลังเลื่อนไถลออกจากที่ ซึ่งเกิดภายหลังการผ่าตัดกระดูกสันหลัง

>> Next


วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

เมื่อท่านถูกวินิจฉัยเป็นโรครูมาตอยด์ : Study Explores Best Treatment for Recently Diagnosed RA

Aug. 16, 2013

ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา...
คนที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค” ข้ออักเสบรูมาตอยด์” (RA) และได้รับยา
ที่ถูกต้องเหมาะสม มีแนวโน้มที่จะรอดพ้นจากการผ่าตัดข้อได้

ผลจากการวิจัย ซึ่งมีการตีพิมพ์ใน  The Journal of Rheumatology
นักวิจัยได้ชี้แนะว่า   การรักษาด้วยยาตามมาตรฐาน ด้วยการใช้ยากลุ่ม disease-
Modifying antirheumatic drugs  เช่น  methotrexate  และยาที่ผลิตออกมาใหม่
ซึ่งมีชื่อให้เรียกว่า  Biologic agents  ปรากฏว่า ผลที่ได้รับจะดีกว่าคนไข้สมัยก่อน
ซึ่งไม่ได้รับยาในกลุ่มดังกล่าว

ผลของการวิจัยชิ้นแรกๆ   ซึ่งได้จากการศึกษาเปรียบเทียบการรักษาคน
ไข้ที่เป็นโรครูมาตอยด์  ที่มีอาการรุนแรง  หรือรายที่ได้รับการวินิจฉัยได้  ซึ่งได้
รับการรักษาทันทีด้วยยากลุ่ม DMARDs (methotrexate และ Biologics...
ทำให้ทั้งแพทย์  และคนไข้  เกิดความมั่นใจต่อการรักษามากขึ้น

ผลของการศึกษาโดย  Treatment of Early Aggressive Rheumatoid
Athritis (TEAR)  พบว่า  ถ้าคนไข้ได้เริ่มการรักษาด้วยาชนิดหนึง  และเพิ่มการ
บำบัดต่างๆ ภายใน 6 เดือน   หรือได้รับการรักษาทันทีด้วยยาหลายชนิด
ปรากฏว่า...

ผลที่เกิดจากการใช้ยาเดิม (older-drug combination) จะเทียบเท่า
กับการใช้ยาทีผลิตขึ้นใหม่ (biologic drugs)

ผลที่ได้จากการศึกษาชิ้นก่อน ๆ แสดงให้เห็นว่าการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA)
เชิงรุก (aggressive treatment)  ด้วยการให้ยากลุ่ม DMARDs ทันทีหลังการการวินิจฉัย...
สามารถทำให้แพทย์ควบคุมโรคได้   ข้อถูกทำลายน้อย
 และคนไข้สามารถทำงานตามปกติได้ดีขึ้น

ในปัจจุบัน แพทย์ส่วนมากจะทำการรักษาจากน้อยไปหามาก (step up )
ดังตัวอย่าง  ท่านจะได้รับการรักษา  ด้วยการเริ่มต้นด้วยยากลุ่ม DMARDs เช่น methotrexate
หลังจากนั้น  หากปรากฏว่า อาการของท่านยังมีความรุนแรง...
แพทย์จะเพิ่มยาตัวอื่นเข้าไปตามต้องการ

แต่คำถามมีว่า...
การให้ยาหลายตัวทันที...จะไม่ดีกว่าการให้ยาตัวเดียว   แล้วค่อยเพิ่มยาทีหลัง 
หรืออย่างไร ?   และหากจะให้ยาหลายขนานร่วมกัน  เราควรใช้ยาชนิดใดจึงจะดีที่สุด ?

ผลจากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ ใน Arthitis & Rheumatism
ได้พยายามที่จะตอบปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับคำถามทั้งสอง
ซึ่งปรากฏใน The TEAR study...

นักวิจัยจะมองไปยังปัญหาทั้งสอง ...
ปัญหาแรก  ถ้าเริ่มให้การรักษาด้วยการใช้ยาหลายตัวร่วมกัน  จะได้ผลดีเท่ากับการ
ใช้ยา methotrexate เพี่ยงตัวเดียวก่อน   แล้วค่อยเสริมด้วยยาตัวที่สองเมื่อจำเป็นเท่านั้น ? 
ปัญหาที่ที่สอง เราควรใช้สูตรผสมของยาชนิดใด จึงจะได้ผลดีกว่า ระหว่างการใช้ยา:

methotrexate plus etanercept, or Enbrel กับ การรักษาแบบดั้งเดิม
ซึ่งมีชื่อเรียก “triple therapy” โดยมีการใช้ยาสามาขนานร่วมกัน:
 methotrexate + sulfasalazine + hydrochloroquine

โดยทั่วไปแพทย์สาขาโรคตข้ออักเสบ (rheumatologist) เมือเขาจะใช้ยา methotrexate
เพียงตัวเดียวแล้วไม่ได้ผล  เขาจะเปลี่ยนเป็นการใช้ยาสองตัว หรือใช้ยาสามตัว
(tripple therapy)

เพือจัดการกับปัญหาทั้งสอง...
นักวิทยาศาสตร์จำนวนหลายนาย ทำการศึกษาคนไข้จำนวน  755 คน จาก
ศูนย์การแพทย์ 44 แห่งทั่วสหรัฐฯ  เป็นเวลา 2  ปี  และทุกรายต่างได้รับการวินิจฉัยว่า
 เป็นโรครูมาตอยด์ (RA)

คนไข้จะได้รับการพิจารณาว่ามีความรุนแรง  เมื่อเขาถูกตรวจพบว่า
มีภูมิต้านทานในเลือด (RA-related Antibodies),   ข้อถูกทำลาย  ซึ่งพบเห็นได้จาก
ภาพเอกซเรย์, และมีคะแนนความรุนแรงของโรค โดยวัดค่า DAS28 (disease activity score) 
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอาการบวม (swelling)  และจุดกดเจ็บ (tenderness)
ใน 28 จุด (ข้อ) ตลอดทั้งร่างกาย

ค่าโดยเฉลี่ย DAS28 score ณ จุดเริ่มต้นของการศึกษา จะมีค่า 5.8
คนไข้จะถูกแบ่งเป็นกลุ่มด้วยการสุ่ม...

• กลุ่มหนึ่งเริ่มให้การรักษาทันที  โดยการให้ยา  methotrexate  +  etanercept
• กลุ่มที่สองเริ่มรักษาทันทีด้วยการให้ยาสามตัว “triple therapy”
   (methotrexate+sulfasalazine +hydrochloroquine)

• กลุ่มที่สาม และสี่ ได้รับ methotrexate เพียงอย่างเดียวเป็นเวลา  24 อาทิตย์
  ในระหว่างนั้น  หากตรวจพบว่าคะแนนของ DAS28  มีค่า ≥ 3.2   คนไข้จะได้รับการ
   ปรับเปลี่ยนการรักษา  ด้วยการได้รับยาแบบใด แบบหนึ่งในกลุ่มหนึ่ง และกลุ่มที่สอง

ผลของการศึกษาเป็นเวลา 6 เดือนหลังการรักษา พบว่า
คนไข้ในกลุ่มที่หนึ่ง  และกลุ่มที่สอง  ซึ่งได้รับยา (combination) ทันที ค่าของ DAS28
จะลดลงมากว่า กลุ่มที่สาม และสี่   ซึ่งได้รับยา methotrexate เพียงอย่างเดียว

ตามความเห็นของ Larry W. Moreland, MD, Chief of rheumatology
At the University of Pittsburgh สรุปความเห็นว่า

“คนไข้โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) ส่วนใหญ่จะตอบสนองต่อยยา
methotrexate เพียงตัวเดียว....แต่ปัญหา คือ เราไม่มีวิธีตรวจที่ทำให้
เราได้ทราบว่า คนไข้รายใด (RA) ควรได้รับยารักษามากกว่าหนึ่งตัว

จากการติดตามผลจนครบ 48 อาทิตย์ ถึง 108 อาทิตย์ โดยการใช้คะแนนของ DAS28
เป็นตัวชี้วัด  ปรากฏว่า ทุกกลุ่มไม่มีความแตกต่างกันเลย

จึงสรุปได้ว่า  การรักษาโรครูมาตอยด์ด้วยยาทั้งสาม (triple therapy)
จะได้ผลดีเท่าๆ กับการรักษาด้วย methotrexate + etanercept
(says Dr. Moreland)

http://www.arthritistoday.org/news/best-rheumatoid-arthritis-treatment196-2.php