December 22, 2012
มีเหตุผลมากกว่าหนึ่ง...
ว่า เราควรเลิกสูบบุหรี่กันเสียที
ผลจากการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้รายงานว่า
การสูบบุหรี่ได้เพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรค “อัลไซเมอร์” (Alzeimer’s disease )
และโรคสมองเสื่อมชนิดอื่น ๆ..... แต่ตามเป็นจริงแล้ว โรค “อัลไซเมอร์” และ
โรคสมองเสื่อมชนิดอื่นๆ ต่างพบเห็นในคนแก่ชรา
โดยเป็นผลมาจากความเสื่อมของสมอง(degenerative process) เอง
โดยเป็นผลมาจากความเสื่อมของสมอง(degenerative process) เอง
ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลานานนับเป็นปีกว่าจะเกิดโรคดังกล่าวได้
มีปัจจัยหลายอย่าง ที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้
ซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้คนเราเกิดภาวะสมองเสื่อมได้
เช่น อายุที่เพิ่ม (แก่) และปัจจัยทางพันธุกรรม
มีปัจจัยอย่างอื่นที่คนเราสามารถควบคุมได้
เช่น การสูบบุหรี่ ซึ่งนักวิจัยได้พบว่าการเลิกสูบบุหรี่
สามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคสมองเสื่อมได้
เช่น การสูบบุหรี่ ซึ่งนักวิจัยได้พบว่าการเลิกสูบบุหรี่
สามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคสมองเสื่อมได้
นักวิจัยเขาพบอะไร ?
มีการศึกษาในระยะยาวในกลุ่มคนที่มีอายุวัยกลางคนสองกลุ่ม...
พบว่า การสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อเกิดโรคอัลไซเมอร (Alzheimer’s…)
ซึ่งเป็นโรคมองเสื่อมที่พบได้บ่อยทีสุด
นักวิจัยได้ทำการศึกษาในรัฐ California และใน Finland
ซึ่งทำการศึกษาทุกเชื้อชาติ
โดยทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากกลุ่มทดลองจำนวนหลายพันคน:
9 % เป็น Asian Americans, 23 % เป็น AfricanAmericans, และอีก 63 %
เป็น white Americans (ซึ่งเป็นพวก Caucasians และพวก Hispanics)
ในการศึกษาได้ใช้เวลาตั้งแต่ปี 1978 ถึง 1985
ซึ่งกลุ่มที่เข้าร่วมทดลองมีอายุระหว่าง 50 – 60 และผู้เข้าร่วมทดลอง
ได้รับการตรวจวัดความดันโลหิต, ระดับไขมัน cholesterol , น้ำหนักตัว,
และปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
ผู้เข้าร่วมโครงการได้ตอบคำถามหลายข้อเกี่ยวกับอุปนิสัย
เช่น สูบบุหรี่วันละกี่ซอง
มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 21,123 คน ยังมีชีวิตถึงปี 1994 – 2008
เป็นเวลา 23 ปี หลังจากได้รับการประเมินจากครั้งแรก
ซึ่งถูกพิจารณาว่า มีใครบ้างที่เกิดเป็น Alzeimer’s disease
หรือโรคสมองเสื่อม (dementia) ชนิดอื่น
ผลจากการศึกษาพบว่า คนจำนวน 5,367
ประมาณ 25% ของกลุ่มทดลอง ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อม
โดยมีคนเป็นจำนวน 1,136 คนเป็นโรค”อัลไซเมอร์” ( Alzeimer’s disease)
ภายหลังการปรับเรื่องอายุ, เพศ , เชื้อชาติ , การศึกษา และปัจจัยเสี่ยงต่อ
การเกิดโรคหัวใจแล้ว พบว่า:
§ คนที่สูบบุหรี่มากว่าสองซองต่อวันในช่วงอายุวัยกลางคน มีความเสี่ยง
ต่อการเกิดสมองเสื่อม (dementia) ในวัยชะรา (old age) ได้ถึงสอง
เท่าของคนที่ไม่สูบบุหรี่เลย
§ สำหรับคนเลิกสูบบุหรี่ในช่วงวัยกลางคน และคนที่สูบบุหรี่น้อยกว่าครึ่ง
ซองต่อวัน มีความเสี่ยงต่อการเกิดสมองเสื่อมได้เท่ากับคนที่ไม่เคย
สูบบุหรี่มาก่อนเลย
จำนวนคนที่ได้รับอันตรายจากบุหรี่
ผลวิเคราะห์จากการศึกษา...
ได้สนับสนุนให้เราได้ทราบว่า การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ
สมองเสื่อมอย่างแน่นอน แต่ไม่ได้บอกว่า
บุหรี่มันทำอันตรายสมองไดอย่างไร ?
ทฤษฎีหนึ่งได้อธิบายว่า...
การสูบบุหรี่มีผลโดยตรงต่อการทำลายเส้นเลือด และหัวใจ ซึ่งเป็นปัจจัย
เสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อม (dementia)
ทั้งนี้เพราะ การสูบบุหรี่สามารถทำให้เกิดมีการสร้างก้อนเลือด (blood clot)
ในเส้นเลือดได้ ซึ่งเป็นไปได้ว่า คนวัยกลางคนทีสูบบุหรี่จัดได้เกิดภาวะ
สมองจนวนน้อยถูกทำลายหลายครั้ง (multi - infarct dementia)
ซึ่งเป็นผลมาจากสมองสมองขาดเลือด และถูกทำลายหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภายหลังการควบคุมภาวะสมองถูกทำลาย (stroke)
เขาพบว่า การสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมจากเส้น
เลือด (vascular dementia) ได้อย่างมีนัย...ซึ่งบ่งบอกให้เราได้ทราบว่า
มีอะไรบางอย่างในบุหรี่อาจเป็นอันตรายได้
จากการศึกษาไม่ได้ออกแบบให้เราได้เรียนรู้ว่า คนเลิกสูบบุหรี่จะลด
ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อม ทั้งนี้เพราะนักวิจัยรวบรวมข้อมูลของ
คนวัยกลางคนที่สูบบุหรี่เท่านั้น
นอกจากนั้น ยังมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้คนเราหยุดการสูบบุหรี่ เช่น:
จากสถิติจากสหรัฐฯ รายงานว่า บุหรี่เป็นสาเหตุของการตายที่เราสามารถ
ป้องกันได้ โดยทุกหนึ่งรายในคนไข้ที่เสียชีวิตจำนวนห้าราย
บางคนสามารถเลิกบุหรี่ได้ด้วยพลังจิตเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นเพียงจำนวนน้อยมาก...
คนสูบบุหรี่ส่วนใหญ่ต้องการความช่วยเหลือในรูปแบบ “คำแนะนำ”,
ทดแทนNicotine (nicotine replacemet therapy) และยารักษา
คนส่วนใหญ่ได้พยายามหลายครั้งจึงบรรลุเป้าหมาย
ซึ่งคนที่หยุดการสูบบุหรี่ได้ จะได้รับรางวัลที่คุ้มค่า....
เช่น หายใจดีขึ้น, โอกาสเป็นโรคหัวใจลดลง.
และสุดท้าย สมองมีโอกาสรอดพ้นจากการเกิดโรคสมองเสื่อมได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น