ในการรักษาคนไข้ที่มีความบกพร่องในระบบการทรงตัว
จะเรียกตามฝรั่ง...vestibular rehabilitation therapy(VRT) นั้น
ย่อมขึ้นกับอาการ, ประวัติความเจ็บป่วย และสุขภาพโดยรวมของคนไข้,
ผลที่ได้จากการตรวจร่างกาย และผลจากห้องปฏิบัติการณ์
ตลอดรวมไปถึงการรักษาโรคประจำตัวของคน
ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการสูญเสียการทรงตัวของคนไข้
การรักษาคนไข้ที่เสียการทรงตัว:
VRT เป็นโปรแกรมการบริหารร่างกาย ที่กำหนดขึ้นเพื่อช่วยระบบสมองส่วนกลาง
ให้ทำการชดเชย (compensation) ความบกพร่องของหูชั้นใน
ซึ่งสูญเสียการทรงตัวไป เช่น โรค Benign paroxysmal positional vertigo (BPPV),
Meniere’s dsease, labyrinthitis และ vestibular neuritis รวมไป
ถึงคนไข้ที่มีปัญหาของหูชั้นในซึ่งได้รับการรักษาด้วยยาแต่ไม่ประสบผล
ทำไมจึงต้องรักษาด้วยวิธีฟื้นฟูการทรงตัว?
วิธีการฟื้นฟูการทรงตัว หรือ VRT จะถูกนำมาใช้เมื่ออวัยวะการทรงตัวในหูชั้นใน
(vestibular organ) ถูกทำลายด้วยบาดเจ็บ หรืออักเสบติดเชื้อ พบว่า...
สมองไม่สามารถพึ่งพาข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว และการทรงตัวจากระบบการ
ทรงตัวในหูได้อีกต่อไป ทำให้เกิดอาการวิงเวียน, การวิงเวียนแบบหมุน,
และมีปัญหาเรื่องการทรงตัว และอื่น ๆ
มีคนไข้จำนวนจำนวนหนึ่งสามารถหายจากอาการดังกล่าวได้ภายในไม่กี่อาทิตย์
โดยคนไข้ไม่ได้ทำอะไร สามารถดำเนินชีวิตไปตามปกติได้
ที่เป็นเช่นนั้น เป็นเพราะสมองสามารถปรับตัวด้วยกระบวนการที่เราเรียกว่า
Vestibular compensation
อย่างไรก็ตามมีคนไข้บางคนที่มีปัญหาในหูชั้น สมองไม่สามารปรับตัวได้
ตามที่ได้กล่าวมา...เป็นเหตุให้คนไข้ต้องเคลื่อนไหวด้วยท่าทางที่ผิดปกติ
ด้วยการเคลื่อนไหวศีรษะ และลำตัวที่ผิดปกติในรูปแบบเฉพาะ โดยอาศัย
ข้อมูลที่ได้จากตา (vision) และข้อมูลที่ได้จากกล้ามเนื้อ และ
ข้อกระดูก (proprioception)
ยกตัวอย่าง....คนที่มีปัญหาในระบบการทรงตัวในหูชั้นใน...
เขาจะเดินด้วยท่าทางที่มีการโยกตัวไปทางซ้ายที และขวาที...
มากกว่าที่จะโยกย้ายศีรษะ บางที่ เราจะเห็นเขาเดินด้วยการก้มมองพื้นตลอดเวลา
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เห็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสับสนในขณะที่มีการเคลื่อนไว
เป้าหมายของ VRT คือการฝึกสมองให้จำสิ่งที่เคยรู้มาก่อน และสามารถ
บูรณาการข้อมูลต่างๆ จะอวัยวะการทรงตัวในหู (vestibular system)
ประสานกับข้อมูลที่ได้จากสายตา (vision) และที่ได้จากกล้ามเนื้อ และข้อ (proprioception)
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาจะเป็นการทำให้สมองลดความไว (desensitize)
ต่อการเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดอาการเกิดขึ้น
มีอะไรเกิดในขณะทำการบริหารด้วยวิธี VRT ?
นักกายภาพบำบัด (PT) หรือนักอาชีวะบำบัด (OT) จะประเมินคน
ไข้โดยอาศัยข้อมูลทางประวัติความเจ็บป่วย รวมถึงการบันทึกท่าทางการทรงตัว
และการชดเชยการทรงตัวที่สูญเสียไป ด้วยการอาศัย
eye-head coordination tests…ซึ่งเป็นการตรวจดูการเคลื่อนไหวของตา
ที่มองตามวัตถุที่เคลื่อนไหว ในขณะที่ศีรษะหยุดนิ่ง หรือศีรษะมีการเคลื่อนไหว
นอกจากนั้น สิ่งที่เขาต้องการรู้เพิ่มอีก คือ ความรุนแรง
และความถี่บ่อยของอาการที่เกิดขึ้นร่วมกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป
จากข้อมูลที่ได้จากคนไข้...
นักกายภาพบำบัดสามารถสร้างรูปแบบอออกกำลังกาย ที่เหมาะสมกับคนไข้
แต่ละราย ซึ่งประกอบด้วยการเคลื่อนไหวของศีรษะ, ลำตัว และบริหารลูกตา
เพื่อให้คนไข้นำไปปฏิบัติต่อไป...
การบริหารดังกล่าว เป็นการกระทำเพื่อฝึกให้สมองได้เรียนรู้ในสิ่งที่เคยเกิดขึ้น
รวมถึงการบูรณาการข้อมูลต่างๆ จากระบบการทรงตัว (vestibular system)
ที่ได้จากหูชั้นใน ประสานกับข้อมูลที่ได้จากตา (vision)
และข้อมูลที่ได้จากกล้ามเนื้อ และกระดูก-ข้อ
รูปแบบของการบริหารกาย (VRT) จะเป็นแบบใดนั้น
ย่อมขึ้นกับข้อวินิจฉัย และแพทย์ผู้มีส่วนร่วมกับการรักษา
เช่น คนไข้ที่เป็นโรค BPPV จะใช้วิธีการรักษาที่มีชื่อ Epley maneuver
ซึ่งเป็นกรรมวิธีทำให้ก้อนคริสตอลของ calcium carbonate ที่หลุดลอยใน
หลอดครึ่งวงกลม (semicircular canal) ให้กลับสู่ที่เดิม (utricle)
การสูญเสียการชดเชย (decompensation)
ภายหลังจากสมองของคนเราสามารถชดเชยตนเองต่อการสูญเสียการทำงาน
ของระบบการทรงตัวในหูชั้นใน (vestibular organs) แล้ว
แต่มีบางครั้ง เพียงแค่เกิดเป็นหวัด (bad cold) ไข้หวัดใหญ่ (flu) หรือได้
รับการผ่าตัดเล็กเท่านั้น ....ถึงกับทำให้สมอง “ลืม” สิ่งที่ได้เรียนมาหมดสิ้น
เป็นเหตุให้คนไข้เกิดมีอาการสูญเสียการทรงตัวกลับคืนมาอีก...
ภาวะเช่นนี้ เราเรียกว่า “decompensation”
VRT and surgery
ในคนไข้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบการทรงตัว (vestibular disorder)….
เมื่อจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด
VRT ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องถูกนำมาใช้ในการรักษา
ทั้งนี้เพราะคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัด มักจะเกิดมีอาการเพิ่มขึ้นได้ในระยะสั้น ๆ
ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการช่วยเหลือโดยนักกายภาพบำบัดด้วยวิธี VRT
1 2 NEXT >>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น