วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

9/27/12

The Best Value for Hypertension Medications

เมื่อท่านเป็นโรความดันโลหิตสูง...
และท่านเป็นมีน้ำหนักเกินอีกด้วย  แพทย์จะแนะนำให้ท่านลดน้ำหนัก
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  เลิกดื่มแอลกอฮอลล์  และงดการสูบบุหรี่
หากความดันยังอยู่ในระดับสูง  ท่านก็ไม่จำเป็นต้อกังวลใจ  เพราะคนอื่น ๆ
ก็อาจเป็นเช่นเดียวกันกับท่าน


จากสถิติของสหรัฐฯ  ในคนอยู่ในวัยผู้ใหญ่จำนวนสี่คน  จะพบว่ามีหนึ่งคนที่เป็น
โรคความดันโลหิตสูง  และพวกนี้ส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่า  ตนเองเป็นโรความดันกัน
และสำหรับคนที่รู้ว่าเป็นโรคความดันสูง  มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถควบ
คุมความดันของเขาให้ลดลงสูระดับปกติได้

เพื่อให้ชีวิตของเราดำเนินไปอย่างมีคุณภาพที่ดี 
การควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ  ถือเป็นเป้าหมายหลักที่
ต้องทำให้ได้  เพราะถ้าหากเราปล่อยให้ความดันโลหิตสูงนานเท่าใด 
หัวใจ  และเส้นเลือดแดงของเราก็จะถูกทำลายมากเท่านั้น


คงไม่ต้องสงสัยว่า  อะไรจะเกิดขึ้น? 
แน่นอน  กล้ามเนื้อของหัวใจและสมองของท่านจะถูกทำลาย (heart attack
& stroke) เพราะการขาดเลือด และขาดออกซิเจน
ดังนั้น  จึงเป็นหน้าที่ของเท่าจะต้องควบคุมความดันโลหิตของท่านให้อยู่ใน
ระดับปกติ  โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งคัด


แล้วเราจะควบคุมอย่างไร ?
ขั้นตอนแรก  คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของท่านเอง
ถ้าท่านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว  ยังปรากฏว่า  ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
การเลือกยาลดความดันโลหิตก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับท่าน 
เพราะท่านจะต้องใช้มันไปตลอดชีวิต
นอกเหนือจากราคาที่ท่านต้องจ่าย  ท่านต้องรู้ด้วยว่า  ยามีผลข้างเคียง


มียากลุ่มต่างๆ ที่เราสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมดังนี้:


Thiazide Diuretics
ถ้าท่านเป็นโรคความดันโลหิตสูง  ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอย่างใด
ยาในกลุ่มขับปัสสาวะ (diuretics)  เป็นยาที่ดีสำหรับนำมาใช้ลดความ
ดันโลหิตสูงของท่าน  โดยมียา Hydrochlorothiazise และ chlorthlidone
ถูกนำไปใช้ในการรักษาโรคความดันนับเป็นหลายทศวรรษแล้ว
เป็นยาที่มีราคาถูก  และสามารถเริ่มใช้ด้วยขนาดน้อย ๆ
เพื่อลดผลข้างเคียงอันจะเกิดจากตัวยา

มีข้อยกเว้นน้อยมาก...
ไม่ปรากฏว่ามียาลดความดัน...กลุ่มใดมีค่าในด้านป้องกันผลข้างเคียงได้เหนือ
กว่ายาขับปัสสาวะ (diuretics) นอกจากนั้น  เมื่อนำไปใช้ร่วมกับยาลดความดัน
ตัวอื่นๆ จะทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น (เมื่อถึงคราวจำเป็น)


Beta-Blockers
Beta blockers. ยาตัวนี้จะลดปริมาณการทำงาน (workload) ของหัวใจลง 
และทำให้ขยายตัว  ทำให้หัวใจไม่ต้องออกแรงมาก  บีบตัวช้าลง
ยาในกลุ่มนี้  หากใช้เพียงตัวเดียวเราจะพบว่า  ใช้ในคนผิวดำ  หรือในผู้ใหญ่ 
จะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร  แต่หาใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ จะได้ผลดี
Beta blockers. ยาตัวนี้จะลดปริมาณการทำงาน (workload) ของหัวใจ  และทำ
ให้เส้นเลือดเปิด หรือขยายตัว  ทำให้หัวใจไม่ต้องออกแรงมาก  บีบตัวช้าลง
ยาในกลุ่มนี้  หากใช้เพียงตัวเดียวเราจะพบว่า  ถ้าใช้ในคนผิวดำ  หรือในผู้ใหญ่  จะไม่ได้
ผลดีเท่าที่ควร  แต่หาใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ (thiazide diuretics)  จะได้ผลดี


เราจะพบว่า  ยาในกลุ่มนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านคำแนะนำในการใช้ 
ถึงกระนั้นก็ตาม ถ้าเป็นทหาร  เขาจะไม่ถูกนำไปใช้เป็นแนวหน้า 
ต้องรอให้ใช้ยาตัวอื่นไม่ผลเสียก่อน จึงจัดเป็นยาในกลุ่ม second line drugs
อย่างไรก็ตาม  ในปัจจุบัน  แม้กระทั้ง second line drugs ก็พบว่า  ยากลุ่ม
Beta–blocker ก็ไม่อยู่ในกลุ่ม second line drugs  ไปเสียแล้ว


อย่างไรก็ตาม  ยากลุ่มดังกล่าวยังสามารถลดความดันโลหิตได้ 
แต่ไม่ได้ผลดีเท่ายาในกลุ่มอื่นเท่านั้นเอง (อาจเป็นเพราะเหตุนี้กระมัง 
มันจึงถูกกำจัดออกจากกลุ่ม second line drugs)
ยากลุ่มนี้  จะมีประโยชน์ในคนที่ประวัติว่า  มี heart attack, migraine,
และ  benign essential tremor.


Angiotensin-Converting Enyzme Inhibitors
Angiotension-converting enzyme (ACE)inhibitors.  ยาในกลุ่มนี้ 
จะช่วยทำให้เส้นเลือดคลายตัว (relax) โดยการสกัดการสร้างสารเคมีที่
เกิดตามธรรมชาติ  ซึ่งทำให้เส้นเลือดหดตัวแคบลง

Angiotensin-converting enzyme Inhibitors (ACE inhibitors)
จัดเป็นยาที่ดีสำหรับคนไข้ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในรายที่ประสบผลข้างเคียง
จากยาขับปัสสาวะ และกลุ่ม beta blockers

เมื่อท่านตัดสินใจใช้ยาในกลุ่ม ACE inhibitors สิ่งที่ท่านต้องรู้ คือ

·         ยา ACE inhibitors เป็นยาที่คนส่วนใหญ่ทนทานต่อการใช้  มีผล
ข้างเคียงที่พบบ่อย คือ  ไอแห้ง
·         ไม่ปรากฏว่า  ยา ACE inhibitors ดีกว่ายาลดความดันกลุ่มอื่นๆ เลย


Angiotensin-Receptor Blockers

Angiotensin II receptorblockers (ARBs). ยากลุ่มนี้ทำหน้าที่ช่วยให้เส้นเลือด
เกิดการคลายตัว (relax) โดยสกัดกั้นการทำงานของสาร (ไม่ใช่สกัดกั้นการสร้าง
สารเคมี)  ซึ่งทำหน้าที่ทำให้เส้นหดตัวตีบแคบลง

มีคนไข้โรคความดันหิตสุงบางราย  เกิดมีปัญหากับการใช้ยา ACE inhibitors
ซึ่งปรากฏว่า  มีประมาณ 10 % จะเกิดปัญหาเรื่องอาการไอแห้ง  และเรียก
ร้องขอเปลี่ยนยาตัวใหม่  โดยยาในกลุ่ม Angiotensin-Receptor blocker
จะออกฤทธิ์เหมือนกับยาในกลุ่ม ACE inhibitors 
แต่ไม่ทำให้เกิดอาการไอแห้งๆ


สิ่งที่เราต้องทราบ:

·         ยาในกลุ่ม ARB  ได้แสดงให้เห็นว่า  ไม่ดีกว่ายาตัวอื่นด้านลดความ
·         ดันโลหิต
·         ราคาพอๆ กับ ACE inhibitors  อาจแพงนิดหน่อย
·         ARBs ไม่เหนือกว่ายาในกลุ่ม ACE inhibitos


Calcium Channel Blockers
Calcium channel blockers.  ยาในกลุ่มนี้  ทำหน้าทีช่วยทำให้กล้ามเนื้อของ
เส้นเลือดเกิดการผ่อนคลาย (relax) บางตัวทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง 
เป็นยาใช้ได้ผลดีในคนชาติผิวดำ  และคนวัยผู้ใหญ่ 
โดยทำงานได้ดีกว่าการใช้ยา ACEIหรือ beta blocker อย่างเดียว


ยาในกลุ่มนี้ได้แก่  amlodipine, diltiazem, nifedipine  และ Verapamil 
ยาเหล่านี้  จะมีฤทธิ์ต่อคนอเมริกัน-นิโกร ได้ไม่เท่ากัน
ในกรณีที่ใช้ยาขับปัสสาวะตัวเดียวไม่ได้ผล  อาจเปลี่ยนเป็นพวก calcium Channel
blockers แทนน่าจะเหมาะกว่า   ควรหลีกเลี่ยงใช้ยา nefedipine  ออกฤทธิ์สั้น 
ให้ใช้ยาที่ออกฤทธิ์ยาวดีกว่า 


Renin inhibitors. ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Aliskiren (Tekturna) สามารถลดการ
สร้างสาร rennin ลง  ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ถูกสร้างโดยไตทั้งสอง  ทำหน้าที่เป็นกระ
บวนการทางเคมีหลายขั้นตอน ทำให้เพิ่มความดันโลหิตสูงขึ้น

เนื่องจากการใช้ยาตัวดังกล่าว  สามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้หลายอย่าง
รวมทั้งภาวะสมองถูกทำลาย (stroke)  จึงไม่ควรใช้ยาตัวนี้รวมกับยากลุ่ม ACE inhibitors
และ ARBs


Alpha blockers. ยากลุ่มนี้จะทำหน้าที่ลดคลื่นประสาทที่ส่งไปยังเส้นเลือด  ทำ
หน้าที่ลดผลที่เกิดจากฤทธิ์ของสารเคมีต่างๆ ที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว


Alpha-beta blockers. นอกเหนือจากลดคลื่นประสารทไปยังเส้นเลือดแล้ว  มันยัง
ทำทำให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลงด้วย   เป็นเหตุให้ลดปริมาณของเลือดที่ต้องปั้มผ่าน
เส้นเลือด


Central-acting agents.  ยาในกลุ่มนี้ จะทำหน้าที่โดยตรงต่อสมอง  โดยป้องกัน
ไม่ให้สมองส่งคลื่นไปทำให้หัวใจเต้นเร็ว  และทำให้เส้นเลือดตัวแคบลง


Vasodilators. ยาในกลุ่มนี้  จะทำหน้าที่โดยตรงที่กล้ามเนื้อของผนังเส้นเลือดแดง
ป้องกันไมให้มันหดตัว  เมื่อท่านสามารถควบคุมระดับความด้นได้  แพทย์มักจะสั่งให้ท่าน
รับประทาน aspirin  เพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางระบบเส้นเลือดและหัวใจ


เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้ยาในขนาดสูง ๆ  แพทย์อาจสั่งยาหลายตัวร่วมกัน 
โดยใช้ขนาดของยาน้อยลง  แทนที่จะใช้ยาตัวเดียวแต่มีขนาดสูง
ความจริงมีว่า  การใช้ยาสองตัวหรือมากตัว  มักจะได้ผลดีกว่าการใช้ยาตัวเดียว


การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อการรักษาความดันโลหิตสูง
ไม่ว่าท่านจะรับประทานยาลดความดันโลหิตชนิดใด  ท่านจำเป็นต้องดำเนินพฤติกรรม
เพื่อลดความดันไปพร้อมกัน  ซึ่งประกอบด้วยการรับทานอาหารสุขภาพ  ลดเค็มลง, 
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, เลิกสบบุหรี่  และลดน้ำหนัก...


ความดันโลหิตที่ต้านการรักษา (Resistant hypertension).
เมื่อความดันโลหิตของท่านยังคงสูงทั้งๆ ที่ได้รับยาต่างกลุ่มอย่างน้อยสามขนาน 
และหนึ่งในยาลดความดันเป็นยาขับปัสสาวะ ท่านอาจเป็นโรค resistant hypertension 
และใครก็ตามที่รับทานยาลดความดันโลหิต 4 ขนาน  พร้อมๆ กัน  
เราเรียกได้ว่า  คนๆ นั้นเป็นโรคความดันที่ต้านการรักษา (resistant hypertension)


การที่ท่านเป็น resistant hypertension  ไม่ได้หมายความว่าความดันโลหิตจะไม่
ลดลงสู่ระดับต่ำได้    ความเป็นจริงมีว่า  แพทย์สามารถตรวจหาสาเหตุที่อยู่เบื้องหลัง
ของการทำให้เกิดภาวะ resistant hypertension ได้
ซึ่งอาจเป็นโอกาสดีสำหรับให้ท่านได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพได้


หน้าที่ของแพทย์สามารถประเมินผลการใช้ยา  ว่าท่านควรใช้ยาชนิดใดจึงจะเหมาะ
สม  ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนยา “ร่วม”  และขนาดของยา  เพื่อให้ได้รับผลดีที่สุด

www.intelihealth.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น