วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

Stem cell therapy for Rheumatoid Arthritis

9/6/12


โรคไขข้อรูมาตอยด์...
จัดเป็นโรคที่มีความบกพร่องในระบบภูมิคุ้มกัน (autoimmune disease)
ซึ่งเราไม่ทราบเหตุผลเลยว่า  ทำไมระบบภูมิคุ้มกันของตัวเองแท้ ๆ
ดันไปเข้าใจว่าข้อของตัวเอง  เป็นสิ่งแปลกปลอม  และจากความ
เข้าใจผิดดังกล่าว  มันเลยทำการทำลายข้อของตัวเองซะเลย
จึงป็นเหตุให้เกิดการอักเสบของข้อขึ้น...

ในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์  ได้แก่การใช้ยาต่าง ๆ (medications)
ซึ่งสามารถทำหน้าที่ปรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน (DMARDs)
หรือยาต่าง ๆ  ที่ใช้สกัดการทำงานของสารเคมี  cytokines (biologics)

ในยุดปัจจุบัน...
เราอยู่ในยุคของการปลูกถ่ายอวัยวะกัน  ซึ่งงเราทุกคนต่างได้ยินมาแล้วว่า 

มีการปลูกถ่าย "ไต" จากผู้บริจาคให้แก่คนที่มีไตวายกันมาแล้ว

ประเด็นที่มีการกล่าวถึงมากที่สุด  คือ  เรื่องการปลูกถ่ายภูมิคุ้นกัน (immunity
Transplant)  ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้พยายามหันมาพิจารณา  ทำการรักษาโรค
ไขข้อรูมาตอยด์ด้วย   Stem cell therapy  ด้วยเหตุผลที่ว่า  โรคดังกล่าว  เป็น
โรคที่เกิดจากบกพร่องของภูมิคุ้นกันนั่นเอง

เมื่อเราหันมาพิจารณาระภูมิคุ้มกัน...
จะพบว่า  มันไม่เหมือนกับอวัยวะ “ไต”  เลย  ไม่มีรูปร่างเป็นอวัยวะให้จับต้องได้ 
ไม่สามารถผ่าตัดเอาออกทิ้งได้  แต่จากการใช้ “สารเคมีรักษา” สามารถทำลาย
อวัยวะ (ไขกระดูก)  ซึ่งเป็นแหล่งที่เซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นได้
หลังจากเซลล์ในไขกระดูกถูกทำลายไปแล้ว  ก็มีการฉีดเซลล์ต้นกำเนิด (stem cells)

ให้แก่คนไข้  และเซลล์ต้นกำเริดดังกล่าว   จะกลายเป็นเซลล์ของระบบภูมคุ้มกัน 

ซึ่งจะไม่ทำลายไขข้ออีกต่อไป

Geoff McColl  ได้เป็นคนแรก  ที่ได้รายงานการใช้ stem cell รักษาคนไข้ไขข้อ
รูมาตอยด์  ซึ่งต่อต้านการรักษาตามมาตรฐาน  ได้เป็นผลสำเร็จ 

และตีพิมพ์ในวารสาร  Annal Internal Medicine (October 1999)   

โดยมีสาระสำคัญดังนี้:

เป็นคนไข้ชายอายุ 39  เป็นโรค RA  ซึ่งไมสามารถตอบสนองต่อการรักษาด้วย
วิธีการมาตรฐาน  ได้รับการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิด  ที่ได้จากพี่น้องฝาแฝด
ปรากฏว่า  ผลที่ได้รับเป็นที่ประทับใจ...  คนไข้สามารถว่ายน้ำได้,  ปั่นจักรยานได้,
ไม่มีอาการของโรคไขข้อ RA เป็นเวลานานถึงสองปี

รายที่สอง:  Richard K. Burt  ได้รายงานความสำเร็จในการใช้เซลล์ต้นกำเนิด
รักษาสุภาพสตรีนางหนึ่ง  ซึ่งเป็นโรครูมาตอยด์  ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาตาม
มาตรฐานเช่นกัน   โดยได้รับเซลล์ต้นกำเนิดจากน้องสาว  ปรากฏว่า 


ผลจากการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิด  หรือ stem cells  ได้รับผลเป็นที่พอใจ 

คนไข้  ไม่มีอาการนานเป็นเวลาถึง 1 ปี   ซึ่งนอกจากอาการปวดข้อจะหายไปแล้ว 

rheumatoid factor ก็หายไปจากกระแสเลือด,   rheumatoid nodule  และ อาการ

อักเสบของข้อหายไป,  ESR  ลดลงสู่ระดับปกติ,   และ

อาการของข้อแข็งตึงในตอนเช้า (morning stiffness) ก็ไม่มี


จากเรื่องราวที่นำเสนอ  นับเป็นเรื่องที่เหลือเชื้อจริง...
ต่อมา  ได้มีการศึกษาต่อไปอีก  ซึ่งเป็นการศึกษาจาก Netherlands  โดยทำการศึกษา

ในคนไข้โรครูมาตอยด์จำนวน 14  ราย    โดยได้รับการรักษาด้วย  Stem cell therapy 
แต่ มีเพียง  12  รายเท่านั้น  ที่ได้รับการศึกษาจนจบ  ปรากฏว่า 

มีเพียง  8  รายเทานั้น  ที่ตอบสนองต่อการรักษา  คนไข้ไม่มีอการนานถึงหนึ่งปี 

ส่วนอีก 4  ราย   ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวเลย

สำหรับ 8 รายที่ตอบสนองต่อการรักษา....
ปรากฏว่า  อาการของโรคไขข้อกลับฟื้นคืนมาอีกครั้งภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี
ซึ่งจำต้องได้รับการรักษาด้วยยากลุ่ม DMARDs ต่อไป

นาย Snowden &  colleagues ได้ทำการศึกษาข้อมูลจากคนไข้จำนวน  76  ราย
ซึ่งได้รับการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิด  จากการศึกษาหลายแห่ง  พบว่า
คนไข้ส่วนใหญ่ที่ได้รับการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิด  จะต้องได้รับยา DMARDs
เพราะอาการของโรคยังคงมีอยู่ (persistent)   หรือ 

มีอาการกลับฟื้นคืนมาใหม่ภายในระยะเวลาเพียง  6  เดือน

Zhand-Huo  และทีมงานจาก Peking University People Hospital…
ได้ทำการศึกษาด้วยวิธีการใหม่   ด้วยการใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากสายสะดือ(umbilical cord
mesenchymal)  เขารายงานว่า  เซลล์ต้นกำเนิดที่ได้นั้น  สามารถยับยั้งผลที่เกิดจาก
การอักเสบของโรครูมาตอยด์ ได้

โดยสรุป...การรักษาโรครูมาตอยด์ด้วยการใช้เซลล์ต้นกำเนิด...
ปรากฏว่า  มันยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นที่กำลังพัฒนา (developing phase ) เท่านั้นเอง

ซึ่งจำเป็นต้องรอผลการศึกษาต่อไป 

http://doctorakerkar.wordpress.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น