9/20/12
ในปัจจุบันได้มีการตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการณ์หลายตัว
โดยถูกนำมาประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ... กล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย
และเพื่อสุขภาพของตนเอง เราจะถูกเตือนให้รู้ และระวังเรื่องความดันโลหิตของตนเอง
และระดับของไขมันในกระแสเลือด ต่อมาในปัจจุบันนี้ ท่านอาจจำเป็นต้องรู้ว่า
ระดับ C-Reactive Protein ของท่านสูงเท่าใด ?
การตรวจหาค่าขอ C-Reactive Protein
ถูกจัดเป็นตัวบ่งบอกให้ทราบถึงปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งมันสะท้อนให้ทราบถึง
“การอักเสบ” (inflammation) ที่ปรากฏ ในร่างกายของเราเอง
นักวิจัยจำนวนไม่น้อยต่างมีความมั่นใจมานานนับทศวรรษแล้วว่า
เส้นเลือดแดงไม่ใช้ทำหน้าที่เป็นแต่เพียง “ท่อ”ให้เลือดไหลผ่านเท่านั้น แต่มันเป็น “ระบบ”
ที่มีชีวิต ที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคเส้นเลือดตีบแข็ง (atherosclerosis)
โดยเป็นผลพวงมาจากกระบวนการ ที่เกิดตามหลังเซลล์บุผิวของเส้นเลือดแดง
มีการถูกทำลาย และมีการซ่อมแซม
กระบวนการดังกล่าว ทำให้เกิดมีการอักเสบขึ้น
จากกระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นในเซลล์บุผิวภายในของเส้นเลือดดังกล่าว ย่อมทำให้
ระดับของ C-Reactive protein ในกระแสเลือดสูงขึ้นด้วย
เกิดมีคำถามขึ้นว่า...
ก็ในเมื่อเราสามารถตรวจหาค่าไขมันชนิดต่าง ๆ ได้ ทำไมจะต้องตรวจหา CRP เล่า ?
การตรวจหาค่า LDL cholesterol และ HDL cholesterol เป็นการตรวจที่มีประโยชน์
สำหรับนำมาพิจารณาว่า สมควรให้ยาลดไขมันแก่คนไข้เหรือไม่
แต่ความจริงมีว่า มีคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจถูกทำลาย (heart attack) จำนวนครึ่งหนึ่ง
มีระดับ ไขมันดังกล่าวข้างต้นอยู่ในระดับปกติ
จากความจริงดังกล่าว ทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางโรคหัวใจ มีความคาดหวังว่า
การตรวจหาค่า C-Reactive protein จะช่วยให้แพทย์สามารถตัดสินได้ว่า
ใครที่มีไขมันLDL cholesterol ระดับปกติ มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้
มีการศึกษาจำนวนไม่น้อย ได้แสดงให้เห็นว่า...
ในกลุ่มคนที่มะดับไขมันอยู่ในระดับปกติ และมีค่า CRP สูงกว่าปกติจะมีความเสี่ยง
ต่อการเกิดโรคหัวใจได้หลายเท่าตัว ไม่แต่เพียงเท่านั้น อย่างน้อยมีการศึกชิ้น
หนึ่ง รายงานการรักษาคนไข้ที่มีระดับ LDL cholesterol ปกติ แต่มี CRP ในระดับสูง
ทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิด heart attack ลดลง
สำหรับคนไข้ที่มีระดับ LDL-C และ CRP ต่างมีค่าเป็นปกติ...
การให้ยาในกลุ่ม statins ( ซึ่งเป็นยาลดระดับไขมันในเลือด) จะไม่มีประโยชน์ใดๆ
ต่อคนไข้เลย....ไม่ควรให้ยาลดไขมัน
เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ...กลยุทธิต่อไปนี้น่าจะเป็นแนวทางที่ดี:
1. ทำการตรวจหาคา cholesterol ตามปกติ
2. ถ้าพบว่า ระดับ cholesterol สูง...ให้การรักษาได้เลย
3. ถ้าระดับ cholesterol อยู่ระดับปกติ ให้พิจารณาตรวจ CRP
4. ถ้าผลการตรวจ CRP ของท่านปกติ...ไม่ต้องทำอะไร
5. ถ้าผล CRP ของท่านมีระดับสูง ให้พิจารณาให้ statin โดยเฉพาะถ้าท่านมีปัจจัยเสี่ยง
ต่อการเกิดโรคหัวใจ
ถ้าสิ่งที่กล่าวมาถูกนำไปปฏิบัติในด้านการดูแลรักษา....อะไรจะเกิดขึ้น ?
จะพบว่า ต้องมีคนเป็นจำนวนไม่น้อย ที่ต้องได้รับยาลดไขมัน (statin) เพิ่มขึ้น
จากสถิติของสหรัฐฯ รายงานว่า จะมีคนอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จำนวนสามในสี่ ต้องได้รับยา Statin
ซึ่ง จะทำให้มีการใช้จ่ายในด้านดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากทีเดีย
และเนื่องจากเป็นการเสียค่าใช้จาย (ค่ายา)เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จึงทำให้แพทย์จำนวนไม่น้อยไม่เห็น
ด้วยกับกลยุทธดังกล่าว ที่จะให้คนได้รับการตรวจหาค่า CRP กัน
โดยสรุป ยาในกลุ่ม statin เป็นยาที่มีประโยชน์ และปลอดภัยก็จริง แต่มันยังมีผลข้างเคียงที่ซ่อนอยู่
ในขณะที่ CRP อาจนำมาช่วยตัดสินใจในคนบางคนว่า เขาควรได้รับการรักษาด้วย statin หรือไม่ ?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น