9/13/12
ขึ้นชื่อว่ามะเร็งแล้ว...
ขึ้นชื่อว่ามะเร็งแล้ว...
ไม่ว่ามันจะเป็นชนิดใด เราก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น
มะเร็งของเลือดอีกชนิดหนึ่ง ที่เราได้เห็นประปราย คือ multiple myeloma
Multiple myeloma เป็นมะเร็งของไขกระดูก
Multiple myeloma เป็นมะเร็งของไขกระดูก
ซึ่งเกิดจากเซลล์ที่มีชื่อว่า “plasma cell” จัดเป็นเซลล์ชนิดหนึ่งของเม็ดเลือดขาว
มันจะเจริญเติบ แบ่งตัวกันมากมากจนไม่สามารถควบคุมมันได้
ในโรค Multiple myeloma เซลล์มะเร็งจะอยู่ในไขกระดูก
จะมีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทำลายขอบด้านนอกกระดูกทั้งหลาย
นอกจากนั้น มันยังสร้างสารที่เป็นภูมิคุ้มกันซึ่งเป็นโปรตีน มีชื่อว่า
immunoglobulin ในปริมาณที่มากเกิน
และเมื่อมันอยู่ในกระแสเลือด ย่อมทำให้เลือดค้น และเหนียว
ซึ่งจะนำไปสู่การทำให้เม็ดเลือดจับตัวเป็นก้อนเลือดขึ้น
immunoglobulin ในปริมาณที่มากเกิน
และเมื่อมันอยู่ในกระแสเลือด ย่อมทำให้เลือดค้น และเหนียว
ซึ่งจะนำไปสู่การทำให้เม็ดเลือดจับตัวเป็นก้อนเลือดขึ้น
ใน multiple myeloma...
มันยังทำให้ภูมิคุ้มกันตัวอื่น ๆ ในร่างกายของคนเราลดลง
เป็นเหตุให้คนไข้คนนั้น ๆ มีโอกาสเผชิญกับการเกิดอักเสบติดเชื้อได้ง่าย
เพราะไม่มีภูมิคุ้มกันเหมือนคนปกติเขา
เป็นเหตุให้คนไข้คนนั้น ๆ มีโอกาสเผชิญกับการเกิดอักเสบติดเชื้อได้ง่าย
เพราะไม่มีภูมิคุ้มกันเหมือนคนปกติเขา
ปัญหาอื่น ๆ ซึ่งอาจเกิดกับคนเป็นโรค multiple myeloma ได้แก่:
§ มีระดับ calcium ในกระแสเลือดสูง ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะร่างกายขาดน้ำ
ท้องผูก
§ และก่อให้เกิดภาวะสับสนได้
§ ทำให้การทำงานของไตเสียไป และ
§ เม็ดเลือดแดงต่ำลง (anemia)
มี multiple myeloma ที่มีรูปแบบที่แตกต่างออกไป เรียก plasmacytoma…
Plasmacytoma เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดของ “เซลล์พลาสมา”
ซึ่งมันจำกัดตัวของมันเองอยู่ในกระดูกชิ้นเดียว ไม่เหมือน multiple myeloma
มันจะก่อให้เกิดอาการปวดกระดูกเท่านั้น โดยไม่ทำให้เกิดอาการอยางอื่น ๆ
อย่างที่ได้เกริ่นไว้ในตอนต้นแล้วว่า...
Multiple myeloma เป็นมะเร็งของเลือดที่พบได้ไม่บ่อย นาน ๆ จะพบที...
เรมักจะพบในคนสูงอายุ ซึ่งมีวัยระหว่าง 60s
เรายังพบว่า ปัจจัยเสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคดังกล่าว เช่น
§ สัมผัสกับ “กัมมันภาพรังสี”
§ สัมผัสกับสารพิษ เช่น benzene
§ สัมผัสกับยาฆ่าแมลง
อาการ (Symptoms)
ในระยะแรก ๆ ของโรค multiple myeloma...
เราอาจไม่พบอาการใด ๆ แต่เนื่องจากโรคไม่หยุดนิ่ง มันจะดำเนินไปอย่างช้า ๆ
อาการของโรค จะประกอบด้วย
· ปวดหลัง และปวดกระดูกทรวงอก (Bone pain, often in the back and ribs)
· เหนื่อยเพลีย (Fatigue)
· ผิวหนังฟกซ้ำ (Easy bruising)
· เบื่ออาหาร (Loss of appetite
· คลื่นไส้ และ อาจเยน (Nausea and vomiting)
· เกิดความสับสน(Confusion)
การวินิจฉัย (Diagnosis)
ในการวินิจฉัยโรค แพทย์จำเป็นต้องพึ่งพาข้อมูลจากการตรวจเลือด
ดูว่ามีเม็ดเลือดแดงต่ำลงหรือไม่ (anemia) ทั้งนี้เพราะมะเร็งของ
เซลล์พลาสมาจะกระจุกตัวอยู่ในไขกระดูก เป็นเหตุทำให้ไขกระดูก
ไม่สามารถสร้างเม็ดแดงได้ตามปกติ
ไม่สามารถสร้างเม็ดแดงได้ตามปกติ
ในการตรวจเลือด ยังต้องตรวจดูระดับ protein
ซึ่ง มะเร็งชนิดนี้ จะมีระดับของ immunoglobulin ถูกสร้างในปริมาณสูง
และ จะถูกขับออกทางปัสสาวะในปริมาณที่สูงอีกด้วย
แพทย์จะสั่งตรวจเอซเรย์ของกระดูกส่วนต่างของร่างกาย รวมทั้งกะโหลกศีรษะ
และ ปอด เพื่อยืนยันคำวินิจฉัย ว่ามีรอยโรคในบริเวณที่ตรวงหรือไม่
สุดท้าย แพทย์จะสั่งทำการตรวจ ไขกระดูกด้วยการใช้เข็มเจาะ
เอาไขกระดูกมาทำการตรวจดูระดับของ “พลาสมา” เซลล์ ที่มีมากผิดปกติ
สุดท้าย แพทย์จะสั่งทำการตรวจ ไขกระดูกด้วยการใช้เข็มเจาะ
เอาไขกระดูกมาทำการตรวจดูระดับของ “พลาสมา” เซลล์ ที่มีมากผิดปกติ
ซึ่งโดยปกติแล้ว เราจะพบ “พลาสมา" เซลล์ในไขกระดูกจำนวนไม่มาก
สำหรับคนที่เป็นโรค multiple myeloma จะพบเซลล์ดังกล่าวมากกว่า30 %
เมื่อแพทย์วินิจฉัยได้ว่า คนเป็น multiple myeloma
จากนั้น แพทย์เขาจะทำการตรวจดูระดับของมะเร็งต่อไปว่า มันอยู่ในระดับใด
หรือจะเรียกวา stage ก็ได้ โดยคำนงถึงระดับของโปรตีน, ระดับแคลเซี่ยม,
การทำงานของไต, และ การมีมะเร็งที่ตัวกระดูก:
§ Stage I. มีเซลล์มะเร็งในปริมาณน้อย ที่กระจายไปทั่วร่าง
ซึ่งอาจไม่มีอาการแสดงใด ๆ ปรากฏให้เห็น
§ Stage II. มีเซลล์ของมะเร็งจำนวนพอประมาณ ที่กระจายไปทั่วร่างกาย
§ Stage III. มีเซลล์ของมะเร็งเป็นจำนวนมาก กระจายไปทั่วร่างกาย
ในระยะนี้ คนไข้จะมีภาวะเลือดจาง มีสารแคลเซี่ยม และ โปรตีนใน
กระแสเลือดเป็นจำนวนมาก และมีมะเร็งกระจายไปทำลายกระดูกมากกว่า สามแห่ง
อ่านต่อ กด 2 Multiple myeloma: Prevention & Treatment
ขอบพระคุณที่ให้ความรู้ ขอรบกวนถามต่อว่าผู้เป็นโรคนี้ควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง เพิ่อจะได้มีผลดีต่อการรักษา ขอบพระคุณล่วงหน้าอย่างสูงครับผม
ตอบลบthaatch@yahoo.com