9/3/12
Symptoms
Symptoms
อาการต่าง ๆ ของคนเป็นโรค scleroderma มีความแตกต่าง
บางคนมีอาการมาก บางคนมีอาการน้อp ซึ่งได้แก่อาการต่อไปนี้
บางคนมีอาการมาก บางคนมีอาการน้อp ซึ่งได้แก่อาการต่อไปนี้
§ Raynaud’s phenomenon.
ในคนที่เป็นโรค scleroderma พบวาเส้นเลือดที่บริเวณจมูก, นิ้วมือ, หรือนิ้วเท้า
และ ที่ใบหู เกิดหดเกร็ง (constrict) อย่างฉับพลัน ทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าว
เปลี่ยนเป็นสีซีดขาว หรือ สีคล้ำ และเกิดมีอาการชา, อุณหภูมิลดลง
อาการดังกล่าว จะตามด้วยการร้อนวูบวาบ เกิดร่วมกับมีความเจ็บปวด
อาการดังกล่าว ซึ่งเราเรียกว่า Raynaud’s phenomenon
ซึ่งจะถูกกระตุ้นด้วยความเย็น หรือ ความสั่นสะเทือน หรือ แม้กระทั้งอารมณ์ที่
แปรปรวน เช่น ความเครียด
§ Skin symptoms:
อาการทางผิวหนัง โรค scleroderma สามารถทำให้เกิดอาการบวมที่นิ้วมือ, มือ,
แขน, ใบหน้า และ บางครั้งจะพบอาการบวมที่บริเวณเท้า และ ขาส่วนล่าง
เมื่อเวลาผ่านไป หนังของคนไข้ จะหนาขึ้น และ แข็งตึง
เป็นเหตุให้การเคลื่อนไหวลำบาก นอกจากนั้น ยังทำให้เกิด:
o มีแผลที่ผิวหนัง (skin ulcers)
o ผิวหนังคล้ำ และตึงผิดธรรมดา (tighter or darker)
o ผมล่วง (loss of hair)
ผิวหนังแห้ง (dry skin) รวมถึงช่องคลอดด้วย (vaginal dryness)
มีสารแคลเซี่ยมเกาะตามผิวหนัง (subcutaneous calcinosis) มีจุดแดง ๆ
บนผิวหนัง ซึ่งเกิดจากเส้นเลือดเส้นเล็กที่พองตัวขึ้น เรียก telangiectasias
ในคนที่เป็นโรค scleroderma พบวาเส้นเลือดที่บริเวณจมูก, นิ้วมือ, หรือนิ้วเท้า
และ ที่ใบหู เกิดหดเกร็ง (constrict) อย่างฉับพลัน ทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าว
เปลี่ยนเป็นสีซีดขาว หรือ สีคล้ำ และเกิดมีอาการชา, อุณหภูมิลดลง
อาการดังกล่าว จะตามด้วยการร้อนวูบวาบ เกิดร่วมกับมีความเจ็บปวด
อาการดังกล่าว ซึ่งเราเรียกว่า Raynaud’s phenomenon
ซึ่งจะถูกกระตุ้นด้วยความเย็น หรือ ความสั่นสะเทือน หรือ แม้กระทั้งอารมณ์ที่
แปรปรวน เช่น ความเครียด
§ Skin symptoms:
อาการทางผิวหนัง โรค scleroderma สามารถทำให้เกิดอาการบวมที่นิ้วมือ, มือ,
แขน, ใบหน้า และ บางครั้งจะพบอาการบวมที่บริเวณเท้า และ ขาส่วนล่าง
เมื่อเวลาผ่านไป หนังของคนไข้ จะหนาขึ้น และ แข็งตึง
เป็นเหตุให้การเคลื่อนไหวลำบาก นอกจากนั้น ยังทำให้เกิด:
o มีแผลที่ผิวหนัง (skin ulcers)
o ผิวหนังคล้ำ และตึงผิดธรรมดา (tighter or darker)
o ผมล่วง (loss of hair)
ผิวหนังแห้ง (dry skin) รวมถึงช่องคลอดด้วย (vaginal dryness)
มีสารแคลเซี่ยมเกาะตามผิวหนัง (subcutaneous calcinosis) มีจุดแดง ๆ
บนผิวหนัง ซึ่งเกิดจากเส้นเลือดเส้นเล็กที่พองตัวขึ้น เรียก telangiectasias
§ Joints (ข้อต่าง ๆ) โรคสามารถทำให้เกิดข้อบวม มีอาการเจ็บปวดได้
§ Muscles (กล้ามเนื้อ) โรคสามารถทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง, เอ็นต่าง ๆ
อาจหนาตัวขึ้น เป็นเหตุให้เกิดอาการเจ็บปวด และทำให้ข้อเคลื่อนไหวได้จำกัด
§ Digestive system. เมื่อโรค scleroderma เกิดทำลายทางเดินอาหาร
สามารถทำให้เกิดความรู้สึกแน่นท้อง, แสบยอดอก(heartburn)
ร่วมกับการกลืนอาหารลำบาก นอกจากนั้น ยังทำให้เกิดอาการอื่น ๆ
เช่น แน่นท้อง, ท้องผูก, ปวดท้อง, ควบคุมการการขับถ่ายด้วยความยากลำบาก
§ Lungs. เมื่อเกิดขึ้นกับปอด จะทำให้การหายใจลำบาก
โดยเฉพาะในขณะออกกำลังกาย, ไอแห้ง ๆ ไม่มีเสมหะ
§ Heart. สามารุถทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก การเต้นของหัวใจผิดปกติ
และเกิดภาวะหัวใจวายได้
§ Kidneys. เมื่อไตถูกทำลาย สามารถทำให้เกิดความดันโลหิตสูง, ปวดศีรษะ,
ชักกระตุก และ มีปัสสาวะออกน้อย
§ Other symptoms. อาการอย่างอื่น ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น ตาแห้ง, ปากแห้ง,
เจ็บใบหน้าจากโรคเส้นประสาท (facial neuralgia) และ ไร้สมรรถภาพทางเพศ
คนไข้ที่เป็น limited scleroderma...
มีอาการของ Raynaud’s phenomenon และผิวหนังแข้งได้ถึง 95 %
(มีชื่อเรียก sclerodcatyly เมื่อมีนิ้วมือเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย)มีโอกาสเกิดภาวะที่เรียก
telangiectasias ได้ 85 % มีปัญหาทางหลอดอาหาร (oesophagus) ได้ 80 %
และภาวะ calcinosis 50 % เราเรียกคนที่มีภาวะดังกล่าวว่า CREST syndrome
สำหรับคนที่เป็น diffused scleroderma...นอกจากมี Raynaud’s phenomenon
และ ผิวหนังแข็งแล้ว คนไข้ที่เป็น diffuse form สามารถมีปัญหาในทางเดินอาหารได้
โดยมีปัญหาของหลอดอาหาร 80 %, มีปัญหาของข้อ 70 %, กล้ามเนื้ออ่อนแรง 50 %,
อาการทางปอด 40 %, และ อาการทางหัวใจ-หัวใจวาย 30 %
§ Muscles (กล้ามเนื้อ) โรคสามารถทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง, เอ็นต่าง ๆ
อาจหนาตัวขึ้น เป็นเหตุให้เกิดอาการเจ็บปวด และทำให้ข้อเคลื่อนไหวได้จำกัด
§ Digestive system. เมื่อโรค scleroderma เกิดทำลายทางเดินอาหาร
สามารถทำให้เกิดความรู้สึกแน่นท้อง, แสบยอดอก(heartburn)
ร่วมกับการกลืนอาหารลำบาก นอกจากนั้น ยังทำให้เกิดอาการอื่น ๆ
เช่น แน่นท้อง, ท้องผูก, ปวดท้อง, ควบคุมการการขับถ่ายด้วยความยากลำบาก
§ Lungs. เมื่อเกิดขึ้นกับปอด จะทำให้การหายใจลำบาก
โดยเฉพาะในขณะออกกำลังกาย, ไอแห้ง ๆ ไม่มีเสมหะ
§ Heart. สามารุถทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก การเต้นของหัวใจผิดปกติ
และเกิดภาวะหัวใจวายได้
§ Kidneys. เมื่อไตถูกทำลาย สามารถทำให้เกิดความดันโลหิตสูง, ปวดศีรษะ,
ชักกระตุก และ มีปัสสาวะออกน้อย
§ Other symptoms. อาการอย่างอื่น ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น ตาแห้ง, ปากแห้ง,
เจ็บใบหน้าจากโรคเส้นประสาท (facial neuralgia) และ ไร้สมรรถภาพทางเพศ
คนไข้ที่เป็น limited scleroderma...
มีอาการของ Raynaud’s phenomenon และผิวหนังแข้งได้ถึง 95 %
(มีชื่อเรียก sclerodcatyly เมื่อมีนิ้วมือเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย)มีโอกาสเกิดภาวะที่เรียก
telangiectasias ได้ 85 % มีปัญหาทางหลอดอาหาร (oesophagus) ได้ 80 %
และภาวะ calcinosis 50 % เราเรียกคนที่มีภาวะดังกล่าวว่า CREST syndrome
สำหรับคนที่เป็น diffused scleroderma...นอกจากมี Raynaud’s phenomenon
และ ผิวหนังแข็งแล้ว คนไข้ที่เป็น diffuse form สามารถมีปัญหาในทางเดินอาหารได้
โดยมีปัญหาของหลอดอาหาร 80 %, มีปัญหาของข้อ 70 %, กล้ามเนื้ออ่อนแรง 50 %,
อาการทางปอด 40 %, และ อาการทางหัวใจ-หัวใจวาย 30 %
การวินิจฉัย (Diagnosis)
ในการวินิจฉัยโรค แพทย์จะถามประวัติ และการตรวจผมหนัง โดยเฉาะนิ้วมือ
มือ และ ใบหน้า ถ้าแพทย์สงสัยว่า คนไข้เป็นโรคscleroderma….
แพทย์อาจจำเป็นต้องสั่งตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และบ้างครั้ง อาจตัดเอาผิวหนังไปตรวจ
และ ถ้าโรคทำลายอะวัยวะภายใน เช่น ปอด, หัวใจ, กระเพาะลำไส้
การตรวจเอกซเรย์ปอด และตรวจอย่างอื่น ๆ อาจจำเป็นต้องกระทำ
คาดว่า โรคจะดำเนินไปอย่างไร ?
โรค scleroderma เป็นโรคเรื้อรัง ซึ่งบางครั้ง อาการของคนไข้จะมีลักษณะบางครั้งดี
บางครั้ง อาการเลวตามเวลาท่านไป และโรคที่เกิดส่วนใหญ่เป็นโรคที่ไม่หายขาด
จะอยู่กับคนไข้ไปตลอดชีวิต
อาการบวมของผิวหนัง จะเกิดขึ้นก่อน และสามารถเป็นนานสองสามอาทิตย์
ถึงหลายเดือน ซึ่งจะตามด้วยผิวหนังค่อย ๆ หนาขึ้น
พร้อมกับมีการเปลี่ยนแปลงทางผิวหนัง
ในรายที่เป็น diffuse form….
อาการทางผิวหนังจะมีอาการมากสุดภายในระยะเวลาสามปี
จากนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง หรือ บางทีดีขึ้น ถ้าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
มักจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดการทำลายอวัยวะภายใน
ส่วนกรณีที่เป็น limited scleroderma….
เราจะพบว่า อาการที่เกิดมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ในเวลาหลายปี
การป้องกัน (Prevention
มือ และ ใบหน้า ถ้าแพทย์สงสัยว่า คนไข้เป็นโรคscleroderma….
แพทย์อาจจำเป็นต้องสั่งตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และบ้างครั้ง อาจตัดเอาผิวหนังไปตรวจ
และ ถ้าโรคทำลายอะวัยวะภายใน เช่น ปอด, หัวใจ, กระเพาะลำไส้
การตรวจเอกซเรย์ปอด และตรวจอย่างอื่น ๆ อาจจำเป็นต้องกระทำ
คาดว่า โรคจะดำเนินไปอย่างไร ?
โรค scleroderma เป็นโรคเรื้อรัง ซึ่งบางครั้ง อาการของคนไข้จะมีลักษณะบางครั้งดี
บางครั้ง อาการเลวตามเวลาท่านไป และโรคที่เกิดส่วนใหญ่เป็นโรคที่ไม่หายขาด
จะอยู่กับคนไข้ไปตลอดชีวิต
อาการบวมของผิวหนัง จะเกิดขึ้นก่อน และสามารถเป็นนานสองสามอาทิตย์
ถึงหลายเดือน ซึ่งจะตามด้วยผิวหนังค่อย ๆ หนาขึ้น
พร้อมกับมีการเปลี่ยนแปลงทางผิวหนัง
ในรายที่เป็น diffuse form….
อาการทางผิวหนังจะมีอาการมากสุดภายในระยะเวลาสามปี
จากนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง หรือ บางทีดีขึ้น ถ้าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
มักจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดการทำลายอวัยวะภายใน
ส่วนกรณีที่เป็น limited scleroderma….
เราจะพบว่า อาการที่เกิดมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ในเวลาหลายปี
การป้องกัน (Prevention
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น