วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

HEART DISEASE IN ELDERLY: Heart Valve Disorders (continued)


HEART VALVE DISORDERS

หัวใจของมนุษย์เรา มีลิ้นหัวใจอยู่ 4 อัน มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของหัวใจ
โดยการทำให้เลือดจากหัวใจทั้งสี่ห้อง ไหลผ่านลิ้นหัวใจไปทิศทางเดียวนั้น
ซึ่ง มีโอกาสเกิดความผิดปกติได้หลายอย่าง
ความผิดปกติบางอย่างเท่านั้น ที่จะพบเห็นในคนสูงอายุเสียเป็นส่วนใหญ่

คนไข้บางราย สามารถรักษาได้ด้วยยา (medications)
ส่วนรายอื่น ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด
เพราะมันมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเขา

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับลิ้นหัวใจของคนสูงอายุ ได้แก่โรคที่เกิดขึ้น aortic valve
ซึ่ง ลิ้นหัวใจตัวนี้ จะทำหน้าที่เป็นประตู ให้เลือดที่ถูกหัวใจห้องล่างซ้ายปั้ม
ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

โรคที่เกิดขึ้น ได้แก่ aortic sclerosis และ aortic stenosis

ใน Aortic sclerosis หมายถึงภาวะที่ลิ้นหัวใจ “aortic” เกิดการแข็งตัว และ
หนาตัวขึ้น (เป็นผลเนื่องมาจากเกิดพังผืดขึ้น) ซึ่งจะเกิดขึ้นประมาณหนึ่งใน
สามของคนสูงอายุทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม ลิ้นหัวใจที่เป็นโรคดังกล่าว อาจ
ทำงานได้เป็นปกติเป็นเวลาหลายปี โดยไม่มีอาการ ยกเว้นเฉพาะเสียงผิด
ปกติ (murmur) ที่แพทย์ฟังได้จากการเต้นของหัวใจเท่านั้น (stethoscope)
เป็นเสียที่เกิดจากกระแสเลือด ที่วิ่งผ่านความผิดปกติของลิ้นหัวใจ

สำหรับ aortic stenosis (ลิ้นหัวใจ...ตีบแคบ) ซึ่งเป็นผลมาจากการมีหินปูน
มาเกาะ (calcified deposits) เกิดได้แค่ 4 % ของคนสูงอายุ
ในรายที่เป็นมาก ๆ (รุนแรง)อาจทำให้คนไข้มีอาการเป็นลม (fainting)หมดสติ
เพราะมีเลือดผ่านลิ้นหัวใจที่แคบได้ลำบาก เป็นเหตุให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอกับความต้องการ
นอกจากนั้น ยังทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว (heart failure)
เพราะหัวใจต้องทำงานหนัก ไม่สามารถปั้มเลือดผ่านลิ้นหัวใจที่ตีบแคบได้

นอกจากนั้น มันยังทำให้เกิดมีอาการเจ็บหน้าอก ด้วยเหตุที่หัวใจขาดออกซิเจน
จากการออกแรง เพื่อปั้มเลือดให้ไหลผ่านลิ้นหัวใจที่ตีบแคบ
ซึ่งภายใต้ภาวะดังกล่าว กล้าเนื้อหัวใจย่อมต้องการออกซิเจนมากกว่าปกตินั่นเอง

ในการวินิจฉัยลิ้นหัวใจเอ-ออร์-ติค ตีบแคบ (Aortic stenosis)
เราสามารถวินิจฉัยจากกาตรวจร่างกายได้ แต่การตรวจหัวใจด้วยเครื่อง electrocardiogram

ซึ่งเครื่องมือดังกล่าว ถูกนำมาใช้ประเมินความรุนแรง และ ความผิดปกติของลิ้นหัวใจชนิดอื่นได้
จากรายงานกล่าวว่า การรักษาด้วยการใส่ลิ้นหัวใจเทียมแก่คนไข้สูงอายุ
จะได้ผลดี ไม่แตกต่างจากการรักษาในคนหนุ่ม

ในคนไข้ที่มีสุขภาพดี ยกเว้นโรคลิ้นหัวใจ เอ-ออร์-ติค ที่เกิดการตีบแคบ
การรักษาด้วยการใช้ลิ้นหัวใจที่ได้จากหมู (pig) หรือ ลิ้นหัวใจที่ทำด้วยโลหะ (artificial)
อาจทำให้หัวใจของคนไข้สามารถกลับสู่สภาพปกติ หรือเกือบเหมือนปกติได้

นอกเหนือจากการผ่าตัดใส่ลิ้นหัวใจ (valve replacement) แล้ว
เขามีมีวิธีการโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นแต่เพียงทำให้ลิ้นหัวใจที่ตีบแคบเปิดออกเท่านั้น
เรียกวิธีการนี้ว่า valvuloplasty ซึ่งใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยที่ปลายของอุปกรณ์มีบอลลูน
เมือสอดใส่เข้าสู่หัวใจ และปล่อยให้บอลลูนขยายตัวตรงบริเวณลิ้นหัวใจตีบแคบ จะทำให้ลิ้นหัวใจเปิดกว้างขึ้น
วิธีการดังกล่าว ถูกนำมาใชในรายที่คนไม่สามารถรับการผ่าตัดได้(high risk)
แต่ปัจจุบัน พบว่าผลที่ได้รับไม่ค่อยดีเท่าที่ควร จึงไม่ได้รับความนิยมเท่าใด
เพราะผลที่ได้เป็นผลดีในระยะสั้น เท่านั้น

ในการรักษาด้วยการผาตัดใส่ลิ้นหัวใจเทียม ปรากฏว่าไดผลดีในระยะยาว
ถ้าคนไข้ไม่มี ภาวะแทรกซ้อนทางกายอย่างอื่น การเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม

โดยเฉพาะลิ้นหัวใจ “เอ-ออร์-ติค” จัดเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมกันแพร่หลาย
แม้ว่าจะมีอันตรายจากการผ่าตัดมากกว่าคนหนุ่มก็ตาม
ก่อนใช้วิธีการดังกล่าว สุขภาพโดยรวมของคนไข้
จำเป็นต้องนำมาพิจารณาร่วมกับการตัดสินใจด้วย

สำหรับโรค (ปัญหา)ลิ้นหัวใจชนิดอื่น ๆ สามารถตัดออกจากคนสูงอายุได้ เช่น
“mitral annular calcification” ผลของความผิดปกติของลิ้นหัวใจ ชนิดนี้
มักจะทำให้เกิดการอุดตัน หรือทำให้เลือดไหลย้อนกลบ (regurgitate) จากหัวใจห้องล่างกลับสู่
หัวใจห้องบน ซึ่งภาวะเช่นนี้ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรุนแรง และ ไม่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขทางการผ่าตัดเลย

ในคนสูงอายุ ที่เป็นโรคลิ้นหัวใจ เช่น aortic stenosis หรือ mitral valve prolapsed
ต่างมีแนวโน้มเกิดการอักเสบของลิ้นหัวใจ (endocarditis)
ซึ่ง อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือด โดยมีการอักเสบจากทื่อื่น
เช่น ทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือ จากกระเพาะ และลำไส้หรือเกิดจากการทำฟัน (dental work)
ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างรีบด่วน หรือ ให้ยาปฏิชีวินะก่อนที่จะทำการรักษาเรื่องฟัน
โดยเฉพาะในคนที่มีความเสี่ยงต่อการอักเสบ และ มีโรคเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ

Continued: Rhythm Disorders and Pacemakers

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น