วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

Alzheimer’s Disease: Alternative Treatment 1

เนื่องจากเราไม่สามารถรักษาโรค “อัลไซเมอร์” ให้หาย...
หลายท่านจึงหันไปเลือกใช้วิธีการอย่างอื่นเพื่อรักษาโรคของตนเอง 
ที่เราพบได้บ่อยที่สุด  คือการใช้สมุนไพรและอาหารเสริม

ไม่ว่าท่านจะเลือกใช้วิธีการใดก็ตามทีเถิด...
แต่ก่อนที่ท่านจะใช้อะไร....ท่านต้องพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ให้ดีเสียก่อน: 

§   Effectiveness and Safety:
ปกติยาทุกชนิดที่แพทย์สั่งให้คนไข้  ยานั้นต้องผ่านการพิสูจน์แล้ว  เป็น
ยาที่มีประสิทธิภาพจริง และปลอดภัยไร้อันตราย....
ซึ่งถ้าเป็นในต่างประเทศ  เช่นในสหรัฐฯ จะต้องได้รับการรับรองจากองค์การ
อาหารและยา (FDA) เสียก่อน
นั่นเป็นเรืองเกี่ยวกับยาที่แพทย์ใช้กับคนไข้...
ส่วนอาหารเสริม (dietary supplement) องค์การณ์อาหารและยา (FDA)
จะไม่เข้าไปมีบทบาทในการควบคุมเลย
ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมดังกล่าว  ไม่จำเป็นต้องแจ็งข้อมูลให้ FDA
ให้ทราบถึงประสิทธิภาพ หรือความปลอดภัยของอาหารเสริม...
ผู้ใช้ต้องรับผิดชอยตนเอง...
จะกล่าวว่า  ”ตัวใคร...ตัวมัน.” น่าจะถูกต้อง...

§  Purity is unknown:
องค์การอาหาร และยา (FDA ของสหรัฐ) ไม่มีอำนาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวเกี่ยว
กับสารที่ใช้ในคนไข้เช่นกัน
คนรับผิดชอบกับสารที่ใช้กับคน...คือผู้ผลิตยาเอง
แต่เขาจะรับผิดชอบแค่ใหน...ไม่มีใครรบประกัน ?
สุดท้ายจะเข้าอีหรอบเดิม  นั่นคือ 
เมื่อเกิดความผิดพลาดใด ๆ ผู้ใช้ต้องรับไปเต็ม ๆ 100 %

§  Bad reaction:
ยาทุกชนิดเมื่อคนเรารับประทานเข้าไป   สามารถรู้ถึงผลข้างเคียง 
เพราะมีการทดลอง  มีการบันทึกและเตือนให้ผู้ใช้ได้ระมัดระวัง
ส่วนอาหารเสริม หรือสมุนไพร  ไม่มีการบันทึก 
ไม่มีการบอกกล่าวเตือนให้ผู้ใช้ระมัดระวัง...
ข้อสำคัญไม่มีใครรับผิดชอบในกรณีดังกล่าว   

§  Interactions with prescribed medication:
ความจริงมีว่า  ยาที่คนไข้รับประทานเข้าไป จะถูกกำหนดขนาดของยาเอาไว้ว่า
เมื่อรับทานมากไปจะก่อให้เกิดอันตราย
ในทางตรงกันข้าม  หากรับทานน้อยไปจะไร้ประโยชน์

นอกจากยาแต่ละขนานต่างมีผลข้างเคียง  และทำปฏิกิริยาต่อกันและกันได้ 
สามารถทำให้เกิดอันตรายกับคนไข้ได้

ส่วนอาหารเสริม หรือสมุนไพรก็คงเป็นเช่นเดียวกัน 
เราไม่ทราบขนาดที่เป็นประโยชน์ที่แน่ชัดได้เลย
หากรับประทานมากไปอาจก่อให้เกิดอันตราย 
และมันสามารถทำปฏิกิริยากับยาที่เรารับประทานเข้าไปได้
ดังนั้น  ก่อนใช้อาหารเสริม หรือสมุนไพรเมื่อใด...
อย่าลืมบอกให้แพทย์ทราบ

สารที่เป็นอาหารเสริมมีมากมาย  ที่ได้คุ้นตาบ่อย ๆ ได้แก่:

Caprylic acid & Coconut oil:


Caprylic acid (สารสกัดจากน้ำมันมะพร้าว) 

เป็นกรดที่สกัดจากน้ำมันมะพร้าว

ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหาร  และที่ใช้เป็นอาหารเสริม (medical food)

ชื่อ Axona 

 

Caprylic acid เป็นไขมัน triglyceride (medium chain) ที่สกัดจาก

น้ำมันมะพร้าว  หรือน้ำมันพาล์ม (palm kernel oil)

 

เมื่อคนเรารับประทานสารดังกล่าว...

ร่างกายจะทำให้ caprylic acid แตกตัวเป็น “ketones bodies”

 

ทฤษฎีทีอยู่เบื้องหลังหาอาหารเสริมตัวนี้ (Axona) 

เขาเชื่อว่าสาร ketone bodies ที่ได้จาก caprylic acid 

จะเป็นพลังงานเลือกให้แก่เซลล์ของสมอง

ซึ่งสูญเสียความสามารถในการใช้น้ำตาล(glucose)

อันเป็นผลมาจากการเกิดโรคอัลไซเมอร์

 

ปกติน้ำตาล (glucose) เป็นต้นตอของพลังที่สำคัญของสมอง  ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร 

การตรวจด้วยภาพ (imaging) ของคนเป็นโรคอัลไซเมอร์พบว่า 

การใช้น้ำตาลของสมองของส่วนที่เป็นโรคจะลดน้อยลง

 

อาหารเสริม (Axona) ที่ใช้ในวงการแพทย์นั้น

ปรากฏว่า มีอาหารเสริมที่มีลักษณะคล้ายๆ กันมีชื่อเรียก Ketasyn (AC-1202)

ซึ่งได้รับทางทดลองใน Phase II โดยมีผู้เข้าร่วมเป็นผู้ถูกทดลอง 152 ราย

ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ที่อยู่ในระยะแรก ๆ ถึงระยะพอประมาณ (moderate)

ปรากฏว่า  เมื่อได้รับอาหารเสริม(ketasyn)  จะมีมีความจำ

และการทำงานโดยรวมดีกว่าผู้ไม่ได้รับอาหารเสริม (placebo)

 

เป้าหมายของการทำลองใน Phase II clinical studies

เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย  และขนาดของสารที่ให้ผลดีที่สุด

และให้ได้ประโยชน์สูงสุดแก่คนไข้ 

FDA ต้องการให้มีการทดลอง  โดยใช้กลุ่มทดลองมากกว่าที่ใช้ใน Phase II clinical studies 

โดยกำหนดให้มีผู้ถูกทดลอง (volunteer) มีจำนวนเพิ่มขึ้นหลายร้อย ถึงหลายพันคน

ซึ่งนั้นถือเป็น Phase III clinical studies

 

แต่บริษัทผู้ผลิตสารอาการ Axona ไมยอมทำการทดลองต่อ

ยุติการทดลองที่ Phase II clinica studiesเท่านั้น 

ไม่ได้ทดลองเพื่อยืนผลประโยชน์ที่พึงได้จากสาร acrylic acid

เพราะไม่มีผลประโยชน์ทาการค้าแต่อย่างใด

 

และจากข้อมูลที่ได้ ทำให้ Alzheimer’s Association Medical and Scientific

Advisory Council  ได้ให้ความเห็นว่า  จากข้อมูลที่ได้รับจาก Phase II ...

ไม่เพียงพอที่จะยืนยันได้ว่า  มันมีประโยชน์ต่อคนที่เป็นโรค “อัลไซเมอร์” เลย

 

อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า มีคนเป็นโรค”อัลไซเมอร์” บางคนได้ใช้น้ำมันมะพร้าว

ซึ่งมีขายในท้องตลาด  มีราคาถูก  นำมาใช้รักษาโรคของพวกเขา

โดยมีบางคนบอกว่า น้ำมันมะพร้าวได้ผลดี  

 

 

>> NEXT

 


.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น