วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

: Getting down to basal- Balsals option (2)

Basal Insulin...

หมายถึง "อินซูลิน" ที่จำเป็นต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด

ตลอด 24  ชั่วโมง โดยไม่มีนำตาลจากอาหารเข้ามาเกี่ยวข้อง
แตละคนต่างต้องการ basal insulin ในระดับที่แตกต่างกัน

มีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องกับระดับของ basal insulin
เช่น  ขนาดของร่างกาย,  การออกกำลังกาย,  ภาวะการเจริญเติบโต,
ระดับของฮอร์โมน,.  และปริมาณของอิซูลิน  ที่ถูกสร้างขึ้น

ในช่วงที่คนเรากำลังเจริญเติบโต (จนกระทั้งถึงอายุ 21 ปี )...
จะมีระดับอินซูลินสูงตลอดทั้งคืน  ที่เป็นเช่นนั้น เป็นเพราะในช่วงเวลาดังกล่าว
มีฮอร์โมนหลายตัวถูกผลิตออกมา ( growth hormone & cortisol)
ซึ่งมันจะไปกระตุ้นตับให้ทำหน้าที่ ปลดปล่อยน้ำตาลออกสู่กระแสเลือด

พอผ่านช่วงเจริญวัยไปแล้ว (หลัง 21 ปี) พบว่า...
ฮอร์โมนทั้งสองจะลดลง  และจะจำกัดอยู่แต่เฉพาะในช่วงเวลาก่อนเวลาฟ้าสาง 
และจะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าสางขึ้น
ซึ่งเป็นผลจากตับผลิต และปล่อยน้ำตาลสู่กระแสเลือดมากขึ้น

ในคนเป็นโรคเบาหวาน...
ร่างกายของคนเรา สามารถรับ Basal insulin จากหลายทางด้วยกัน
ทางแรกได้จาก intermediate-acting insulin (NPH) รับวันละครั้ง
ซึ่งมันสามารถครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง

หลังจากที่คนไข้ได้รับ NPH ยาจะมีความเข็มข้นสูงสุดใน 4- 8 ชั่วโมง
และจะลดลงอย่างมากใน 16- 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับยา

สำหรับอินซูลิน Insulin Glargine (Lantus) และ insulin detemir (Levemir)
จะมีความเข้มขันในระดับคงที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
มีบางรายที่ความเข็มข้นของยาจะลดลงบ้างในสงสามชั่วโมงแรก

Insulin pumps เป็นอินซูลินชนิดออกฤทธิ์เร็ว...
โดยให้ในปริมาณน้อยทุกๆ สองสามนาที ตลอด 24ชั่วโมง
การให้อินซูลินแบบนี้ สามารถปรับขนาดให้เข้ากับระดับนำตาลที่ตับสร้างขึ้น
ถ้าระดับน้ำตาลน้อย ก็ลดขนาดลง และเพิ่มตามระดับน้ำตาลที่ตับปล่อยออกมา

Basals Option 1: NPH at bed time:

ประโยชน์ที่จะได้รับจากการเลือกใช้วิธีนี้
จะได้ระดับอินซูลินที่มีค่าสูงสุดตอนเวลาก่อนฟ้าสาง (predawn)
ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการอินซูลินในช่วงดังกล่าว (ระดับน้ำตาลสูงในช่วงเช้า)
แต่ผลเสียของมันเกิดขึ้นได้ โดยมีระดับความเข็มข้นของยาสูงขึ้นในช่วงกลางวัน
ส่วนในตอนเย็น ระดับยาจะลด จึงทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้น

Basals option 2: Glargine or Detemir once daily at bedtime:

ผลดีที่ได้จากการรักษาด้วยวิธีนี้ คือ ระดับของอนซูลินจะคงที่ ไมแกว่งขึ้นลง
อาจมีความเข็มข้นสูงเล็กน้อยในช่วง 6- 10 ชั่วโมงหลังฉีดยา
การดูดซึมของยาจะคงที่ จะไม่ถูกกระทบโดยการออกกำลังกย หรืออุณหภูมิของผิวหนัง

ผลเสียของ การรักษาด้วยวิธีนี้นี้ อาจมีระดับน้ำตาลสูงในตอนกลางคืน
อาจมีระดับน้ำตาลลดต่ำลงในตอนบ่าย และตอนเย็น
ซึ่งเป็นผลจากการรับประทานอาหารช้าไป
หรือระดับของยาที่อยู่ในกระแสเลือด สูงกว่าระดับของน้ำตาล ที่ตับปล่อยออกมา

ในบางราย ระดับของอินซูลิน glargine จะเริ่มลดก่อน 24 ชั่วโมง
เป็นเหตุให้มีระดับน้ำตาลสูงก่อนที่จะได้รับยาฉีดเข็มถัดไป

Baslals option 3: Insulin pump therapy:

Pump therapy เป็นวิธีการรักษา ที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก
สามารถปรับให้สอดคล้องกับความต้องการ (basal insulin) ของร่างกายได้
เนื่องจากอินซูลินที่คนไข้ได้รับ เป็นชนิด rapid-acting ในขนาดไม่มาก
สามารถให้ในระดับที่ร่างกายต้องการ

อัตราการให้ (basal rate) สามารถปรับได้ทุกชั่วโมงตามความการต้องการ
เพื่อให้สอดรับกับระดับน้ำตาลที่ตับปล่อยออกมาตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนั้น การรักษาด้วยวิธีนี้ ยังสามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์บางอย่างได้
เช่น ระยะที่คนไข้ไม่สบาย,  ออกแรงมากหรือน้อย,
ระยะที่มีความเครียด หรือระยะที่มีประจำเดือน
ซึ่งในระยะดังกล่าว   จะพบว่า  ความต้องการของอินซูลินย่อมแตกต่างกัน

Cont. > (3)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น