วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

What is New in Parkinson’s Disease? 2

การรักษาโรค "พาร์กินสัน (Is there any treatment?)

ในปัจจุบัน...
เรายังไม่สามารถรักษาโรค “พาร์กินสัน” ให้หายได้
แต่เราสามารถบรรเทาอาการของโรคได้


โดยทั่วไป แพทย์จะใช้ยา levodopa ร่วมกับ carbidopa
โดยยา carbidopa จะทำหน้าที่ชะลอไม่ให้สาร levodopa เปลี่ยนเป็นสาร
dopamine ก่อนที่มันจะเดินทางถึงสมอง

เซลล์ประสาทสมอง สามารถใช้สาร Levodopa ให้เปลี่ยนให้เป็นสาร  dopamine 
เพื่อเป็นการชดเชยส่วนที่สมองไม่สามารถผลิตได้

ผลจากการใช้ยา Levodopa
เพื่อรักษาคนเป็นโรค “พาร์กินสัน”
ปรากฏว่า  มีเพียงสามในสี่ของคนที่เป็นโรคเท่านั้น 
ที่ตอบสนองต่อยารักษา
แต่ละคนก็ตอบสนองต่อยาได้ไม่เท่ากันอีกต่างหาก
และการตอบสนองดีที่สุดคือ  การเคลื่อนไหวช้า (bradykinesia)
และภาวะแข็งเกร็ง (rigidity) ของแขน-ขา และลำตัว

ส่วนอาการสั่น (tremor)  อาจลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
และปัญหาด้านการทรงตัว (balance) และอื่น ๆ อาจไม่ได้ผลเลย

นอกจาก Levodopa …
ยังมียาในกลุ่มอื่นที่นำมาใช้  เช่น anticholinergics
ซึ่งอาจช่วยควบควบคุมอาการ “สั่น” (tremor)
และอาการแข็งเกร็ง (rigidity) ของแขน-ขา และลำตัวได้

นอกจากนั้น  ยังมียาอย่างอื่นที่ถูกนำมาใช้ โดยการออกฤทธิ์คล้ายกับ
ฤทธิ์ของ dopamine ในสมอง เช่น bromocriptine, pramipexole
และ ropirole

ยาต้านไวรัส (antivirus),  amantadine  สามารลดอาการของคน
เป็นโรคพาร์กินสันได้

เมื่อปี 2006   FDA ได้ยอมรับให้ใช้ยา “rasagiline” ร่วมกับ levodopa
ในคนไข้พาร์กินสัน  ซึ่งได้พัฒนาไปถึงขั้นสุดท้าย (advanced PD)
หรืออาจใช้รักษาคนที่เป็นโรคดังกล่าวในช่วงแรก ๆ
โดยการใช้เพียงตัวเดียวก็พอ

ในคนไข้ PD บางราย...
ที่ไม่ตอบนองต่อยารักษา  กรรมวิธีการรักษาทางศัลยกรรม
อาจเป็นเรื่องที่เหมาะสมก็ได้....

มีการรักษาอย่างหนึ่งเรียก deep brain stimulation (DBS)
เป็นวิธีรักษาที่ได้รับการยอมรับจาก FDA
(U.S. Food and Drug administration)


ในการรักษาด้วย DBS…
แพทย์จะวางขั้วไฟฟ้า (electrodes)…
โดยฝังไว้ภายในสมอง  และมีสายติดต่อกับเครื่องมือไฟฟ้าเครื่องเล็ก ๆ เรียกว่า pulse generator
ซึ่งสามารถโปรกแกรมทางด้านนอกร่างกายได้

เครื่องกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้า (BBS)…
สามารถลดความต้องการ levodopa
และยาในกลุ่มเดียวกันได้
ซึ่งสมารถลดการเคลื่อนไหวชนิดที่เกิดขึ้นเอง (involuntary movement) เรียก dyskinesias


  
ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยา levodopa

นอกจากนั้น เรายังพบอีกว่า...
DBS  สามารถลดอาการต่าง ๆ อาการสั่น (tremor), การเคลื่อนไหวช้า
และปัญหาการทรงตัวได้

What is the prognosis?


“พาร์กินสัน” เป็นทั้งโรคเรื้อรัง (chronic)
ซึ่งหมายความว่า  เป็นยาวนาน  และมีอาการเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อเวลาผ่านไปอาการจะเลวลงเรื่อย ๆ

แม้ว่าคนไข้โรค “พาร์กินสัน” บางรายเป็นมากถึงขั้นพิการ
แต่ก็มีบางรายที่มีอาการไม่มากนัก
อาการสั่น (tremor) เป็นอาการสำคัญของคนไข้บางคน
สำหรับรายอื่น ๆ อาการสั่น (tremor) กลับเป็นน้อย
แต่มีอาการอย่างอื่นที่เกิดขึ้นแทน  ซึ่งรบกวนคนไข้มากกว่าอาการสั่นของร่างกาย

เราพอจะกล่าวได้ว่า...
ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่า  อาการของโรคพาร์กินสันชนิดใด
จะกระทบกับคนไข้ในแต่ละราย  และความรุนแรงของโรคที่เกิด
จะแตกต่างกันไป  แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน

What research is being done?


The National Institute of Neurological Disorders and Stroke (NINDS)
ได้ทำการวิจัยในห้องปฏิบัติการของ The National Institutes of Health
พร้อมกับสนับสนุนให้มีการวิจัย ให้ทุนทั่วประเทศ

การวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก NINDS…
ซึ่งได้ทำการทดลองในสัตว์ทดลอง  เพื่อศึกษาการพัฒนาของโรค “พาร์กินสัน”
พร้อมกับการผลิตยาใหม่เพื่อการรักษา

มีนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค “พารกินสัน”
และมองหาปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคดังกล่าวขึ้น
เช่น สารพิษ (toxin), มีการศึกษาปัจจัยทางพันธุกรรมว่า  มีความผิดปกติ
ของพันธุกรรมอย่างใด  ที่อาจมีบทบาทต่อการทำให้เกิดโรค
นอกจากนั้น  ได้มีนักวิจัยคนอื่น ๆ ได้ทำการพัฒนายาตัวใหม่ ๆ 
เพื่อนำมาใช้ในการป้องกัน (protective) หรือชะลอ หรือทำให้โรคหาย


http://www.ninds.nih.gov

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น