Feb. 27,2013
สาเหตุ (Causes)
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางชนิด AI/ACD มีมากมายด้วยเหตุผลต่างกัน เช่น Infectious and inflammatory diseases:
คนที่เกิดอักเสบติดเชื้อ (infections) หรือเป็นการอักเสบชนิดไร้เชื้อ(inflammatory conditions) จะได้รับการตอบสนองจากระบบภูมิคุ้มกัน โดยเซลล์ของระบบดังกล่าวจะปล่อยโปรตีนตัวหนึ่งออกมา ชื่อ cytokines
ซึ่งโปรตีนตัวนี้จะทำให้ร่างกายหายจากโรค
พร้อมๆ กับช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรค
นอกจากนั้น ยังกระทบกับการทำงานตามปกติของร่างกายได้อีกด้วย
ในคนที่เป็นโรคโลหิตจางกลุ่ม AI/ACD ....
พบว่า สารโปรตีนcytokines ที่เกิดจากเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน จะมีผลกระทบกับดูดซึมของาตุเหล็กจากลำไส้ และทำให้ร่างกายไม่สามารถนำเอาธาตุเหล็กที่สะสมไว้ไปใช้เพื่อการสร้างเม็ดเลือดแดงได้.
นอกจากนั้น cytokines ยังกระทบกับการสร้าง และการทำงานของฮอร์โมน erythropoietin (EPO)
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ถูกสร้างโดยไต เพื่อทำหน้าที่กระ
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ถูกสร้างโดยไต เพื่อทำหน้าที่กระ
ตุ้นไขกระดูก (bone marrow) ให้ทำการสร้าเม็ดเลือดแดง (RBCs)
การอักเสบติดเชื้อ ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลหิตจางกลุ่ม AI/ACD
เช่น วัฒโรค, เอดซ์ (HIV), กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (endocarditis), กระดูกอักเสบ (osteomyelitis)
และแม้กระทั้งการอักเสบอบ่างเฉียบพลัน ก็ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางกลุ่ม AI/ACD ได้
และแม้กระทั้งการอักเสบอบ่างเฉียบพลัน ก็ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางกลุ่ม AI/ACD ได้
กลุ่มการอักเสบไร้เชื้อ (inflammatory diseases) เช่น Lupus, diabetes,
Rheumatoid arthritis, heart failure, degenerative arthritis และ Inflammatory bowel diseae (IBD)
เช่น Crohn’s disease สามารถทำให้ร่างงกายขาดธาตุเหล็ก
โดยการดูดซึมเอาธาตุเหล็กในลำไส้เสียไป และเกิดจากการตกเลือดในกระเพาะ และลำไส้
เช่น Crohn’s disease สามารถทำให้ร่างงกายขาดธาตุเหล็ก
โดยการดูดซึมเอาธาตุเหล็กในลำไส้เสียไป และเกิดจากการตกเลือดในกระเพาะ และลำไส้
Kidney disease:
คนเป็นโรคไตสามารถเกิดโรคโลหิตจากได้ด้วยสาเหตุหลายอย่าง
ประการแรก....โรคไตไม่สามารถสร้างฮอร์โมน EPO ได้เพียงพอ
นอกจากนั้นมันยังทำให้เกิดการดูดซึมเอาธาตุเหล็กได้ไม่ดี
ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่เกิดในกลุ่ม AI/ACD และคนเป็นโรคไตระยะสุดท้าย
(end-stage kidney disease) เกือบทุกคนจะเป็นโรคโลหิตจาง
Cancer:
ภาวะโลหิตจางจากกลุ่ม AI/ACD สามารถเกิดขึ้นในคนที่เป็นมะเร็งบางชนิด
เช่น Hodgkin’s disease, non-hodgkin’s lymphoma และมะเร็งของเต้านม.
โดยมะเร็งเหล่านี้ สามารถทำให้ร่างกายปล่อยสาร kytolines จากภูมิคุ้มกัน
ได้เช่นเดียวกับโรคเรื้อรัง และโรคติตเชื้อ
นอกจากนั้น ภาวะโลหิตจางกลุ่ม AI/ACD เมื่อได้รับการรักษาด้วยสารต้านมะเร็ง (chemotherapy)
และ การฉายแสง (radiation) ซึ่งสามารถทำลายไขกระดูกได้
จึงเป็นเหตุให้การสร้างเม็ดเลือดแดงเสียไป
และ การฉายแสง (radiation) ซึ่งสามารถทำลายไขกระดูกได้
จึงเป็นเหตุให้การสร้างเม็ดเลือดแดงเสียไป
อาการของคนเป็น AI/ACD…?
โดยทั่วไป คนที่เป็นโรค AI/ACD อาการที่เกิดจะเริ่มขึ้นอย่างช้า ๆ อย่างต่อเนื่อง
และเนื่องจากโรคที่เกิดจะไม่รุนแรง (mild) อาจทำให้เกิดอาการน้อยมาก
หรือไม่แสดงอาการแต่อย่างใด หรืออาการของโรคอาจบดบังโดยโรคที่เป็น
ต้นเหตุทำให้เกิดภาวะ AI/ACD ก็ได้
ในระหว่างที่คนไข้ไปพบแพทย์เพื่อรักษาโรคเรื้อรัง ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิด
ภาวะ AI/ACD นั้น การตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการณ์ (CBC) สามารถตรวจ
พบภาวะเลือดจางได้โดยบังเอิญ ด้วยการตรวจระดับของ Hematocrit (Hct)
ซึ่งบอกให้เราทราบถึงจำนวนของเม็ดเลือดแดงในเลือด
นอกจากนั้น การตรวจเลือดยังสามารถตรวจวัดระดับของ hemoglobin
การตรวจระดับ hematocrit และ hemoglobin ซึ่งต่างมีค่าต่ำ
จะบ่งบอกให้ทราบว่าเกิดภาวะโลหิตจาง
นอกจากนั้น การตรวจเลือดยังสามารถตรวจระดับของธาตุเหล็กในเลือดได้
จะบ่งบอกให้ทราบว่าเกิดภาวะโลหิตจาง
นอกจากนั้น การตรวจเลือดยังสามารถตรวจระดับของธาตุเหล็กในเลือดได้
แต่การวัดระดับของธาตุเหล็ก (iron level) ในในคนที่เป็นโรค AI/ACD
จะมีค่าอยู่ระดับปกติ....นั่นคือจุดสำคัญสำหรับแยกจากภาวะเลือดจาง
จากภาวะอย่างอื่น (iron deficiency anemia)
เราจะรักษาภาวะโลหิตจางจากภาวะ AI/ACD ได้อย่างไร ?
ในการรักษาภาวะโลหิตจางจากโรค AI/ACD จะไม่แยกจากการรักษาโรคที่เป็น
ต้นเหตุทำให้เกิดภาวะโลหิตจางเลย...
โดยทั่วไป แพทย์จะพุ่งประเด็นการรักษาไปยังโรคที่เป็นต้นเหตุให้เกิดโลหิตจาง
เมื่อการรักษาโรคที่เป็นเหตุประสบความสำเร็จ (หาย)
ภาวะโลหิตจางจะดีขึ้นเองโดยไม่ต้องทำอะไร
โดยทั่วไป แพทย์จะพุ่งประเด็นการรักษาไปยังโรคที่เป็นต้นเหตุให้เกิดโลหิตจาง
เมื่อการรักษาโรคที่เป็นเหตุประสบความสำเร็จ (หาย)
ภาวะโลหิตจางจะดีขึ้นเองโดยไม่ต้องทำอะไร
ยกตัวอย่าง การให้ยาปฏิชีวนะรักษาอักเสบติดเชื้อ และยาต้านการอักเสบ
(anti-inflammatory drugs) สำหรับรักษาโรค “รูมาตอยดื” ประความสำเร็จ
จำทำให้ภาวะโลหิตจาง (AI/ACD) หายไป
สำหรับคนที่เป็นโรคมะเร็ง (cancer) และโรคไต(kidney disease)…
ผู้ซึ่งมีระดับของฮอร์โมน EPO ในกระแสเลือดต่ำ อาจจะได้รับยากระตุ้นไข
กระดูกให้ทำการสร้างเม็ดเลือด
ในคนไข้ที่เป็นโรคไต และโรค AI/ACD อาจแนะนำให้รับประทาน B12 และ folic acid
และหากพบว่ามีระดับของธาตุเหล็กต่ำ คนไข้อาจได้รับธาตุเหล็กจากอาหารเสริมด้วย
และหากพบว่ามีระดับของธาตุเหล็กต่ำ คนไข้อาจได้รับธาตุเหล็กจากอาหารเสริมด้วย
โดยสรุป...
Ø โลหิตจางจัดเป็นโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งภายในเลือดจะมีเม็ดเลือดแดงน้อยกว่า
ปกติ ซึ่งมันจะทำหน้าที่นำออกซิเจนจากปอดกลับสู่ร่างกาย
ไปเลี้ยงเนื้อเยื้อ และอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกายได้ไม่เพียงพอ
Ø โลหิตจางของการอักเสบ และจากโรคเรื้อรัง (AI/ACD) มัก
จะเกิดจากภาวะเรื้อรังต่างๆ , อักเสบติดเชื้อ, อักเสบไร้เชื้อ ,
และมะเร็ง
Ø โลหิตจาง AI/ACD ส่วนมากจะไม่รุนแรง และอาจไม่แสดง
อาการใด ๆ อาจแค่ทำให้เกิดมีอาการเมื่อยล้า, ไม่มีแรง, กล้ามเนื้ออ่อนแรง,
หายใจไม่อิ่ม และเหนื่อยเร็วเมือออกกำลัง
หายใจไม่อิ่ม และเหนื่อยเร็วเมือออกกำลัง
Ø โลหิตจาง AI/ACD สามารถวินิจฉัยได้ด้วยการตรวจเลือด
Ø ในการรักษาคนเป็นโลหิตจาง AI/ACD จะไม่แยกการรักษาจาก
โรคที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิด AI/ACD โดยทั่วไปแพทย์จะมุ่งการรักษา
ไปที่โรคที่เป็นต้นเหตุ เมื่อต้นเหตุหาย ภาวะโลหิตจางส่วนใหญ่
จะดีขึ้น หรือจะได้รับการรักษาในตอนหลัง
http://hematologic.niddk.nih.gov/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น