เมื่อคนเป็นโรคหืดต้องใช้ยา...
ความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้
โดยที่แพทย์บางท่านอาจไม่ได้สนใจที่จะบอกให้คนไข้ว่า
ต้องใช้ยาอย่างไร? ซึ่งอาจมีคนไข้บางราย โดยเฉพาะคนสูงอายุ
อาจจำไม่ได้ว่า จะใช้ยาตัวใด และเมื่อใดระหว่างยาตัวที่ทำหน้าที่ควบคุม
โดยที่แพทย์บางท่านอาจไม่ได้สนใจที่จะบอกให้คนไข้ว่า
ต้องใช้ยาอย่างไร? ซึ่งอาจมีคนไข้บางราย โดยเฉพาะคนสูงอายุ
อาจจำไม่ได้ว่า จะใช้ยาตัวใด และเมื่อใดระหว่างยาตัวที่ทำหน้าที่ควบคุม
( controllers) และตัวทีทำหน้าที่บรรเทาอาการหืดหอบ (relievers)
การเรียนรู้ว่าจะใช้ยาทั้งสองชนิด (controllers & relievers) ได้ถูกต้องตลอด
รวมถึงหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลข้างเคียง ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคน
ที่เป็นโรคหืดหอบทุกคน
รวมถึงหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลข้างเคียง ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคน
ที่เป็นโรคหืดหอบทุกคน
ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่ ปัญหาต่างๆ ดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ง่าย
และสามารถทำให้อาการหืดหอบดีขึ้นได้
ข้อผิดพลาด และวิธีแก้ไข ที่พบเห็นดังต่อไปนี้
<!--[if !supportLists]-->1. <!--[endif]-->ท่านจะต้องแน่ใจว่า ยารักษาตัวใดทำหน้าที่ควบคุม (controller)
และยาตัวใดทำหน้าที่สำหรับบรรเทาอาการ (reliever)
ถ้าท่านเกิดความสับสน ให้ทำเครื่องหมายติดแปะไว้ที่เครื่องพ่น (inhaler)
การใช้ยา controller ในขณะมีอาการจะไม่ช่วยให้ท่านบรรเทาจากอาการได้ทันที
และทำนองเดียวกัน การใช้ยาบรรเทา (reliever) ทุกวัน
และทำนองเดียวกัน การใช้ยาบรรเทา (reliever) ทุกวัน
จะไม่ทำให้การอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุพื้นฐานของโรคหืดลดได้ลง
ถ้าท่านมีตัวนำที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการหืดหอบ เช่น สัตว์เลี้ยง,
การออกกำลังกาย, หรืออากาศเย็น...
การออกกำลังกาย, หรืออากาศเย็น...
ยาที่ท่านต้องใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการหืดหอบ คือ ยา albuterol
ซึ่งเป็นยาในกลุ่มของ reliever นั่นเอง โดยทำการพ่นยาก่อนที่จะเผชิญกับปัจจัยดังกล่าว
<!--[if !supportLists]-->2. <!--[endif]-->อย่าหยุดการใช้ยาควบคุม (controller) เพราะท่านหายใจสะดวก
ท่านจะต้องเข้าใจว่า การที่ท่านหายใจเป็นปกติเป็นเพราะยาควบคุม (controller)
ทำให้การอักเสบหายไป ทำให้หลอดลมหายใจเปิด อากาศผ่านได้สะดวก
ทำให้การอักเสบหายไป ทำให้หลอดลมหายใจเปิด อากาศผ่านได้สะดวก
ถ้าท่านไม่ใช้ยาควบคุม (controller) เมื่อใด มันก็เหมือนกับท่าน
ได้เปิดประตูเชื้อเชิญให้การอักเสบของหลอดเกิดขึ้น และเมื่อนั้น
ปัญหาด้านการหายใจก็จะกลับคืนมา
เมื่อมีอาการกลับคืนมา ท่านจะต้องเสียเวลาหลายวันถึงหลายอาทิตย์
จึงจะสามารถควบคุมอาการได้ ไม่แต่เท่านั้น ท่านอาจจำเป็นต้องใช้ยาควบคุม
(controller) มากกว่าเดิม
จึงจะสามารถควบคุมอาการได้ ไม่แต่เท่านั้น ท่านอาจจำเป็นต้องใช้ยาควบคุม
(controller) มากกว่าเดิม
ถ้าอาการของท่านหายไปได้สักระยะ (symptom-free) ท่านควรปรึกษาแพทย์
เพื่อพิจารณาลดขนาดของยา หรือหยุดยาเสียเลย
เพื่อพิจารณาลดขนาดของยา หรือหยุดยาเสียเลย
ซึ่งท่านจำเป็นต้องเรียนรู้ว่า จะค่อยๆ ลดขนาดยาอย่างไร และ
เรียนรู้วิธีจัดการกับโรคที่เปลี่ยนแปลงไป
<!--[if !supportLists]-->3. <!--[endif]-->ตรวจสอบการใช้เครื่องพ่นยา...
ถ้าท่านมีความสงสัยในการใช้เครื่องพ่นยาว่า ท่านทำถูกต้องหรือไม่?
ท่านควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา ด้วยการแสดงวิธีการใช้เครื่องพ่นยาให้แพทย์ดูว่า
ท่านควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา ด้วยการแสดงวิธีการใช้เครื่องพ่นยาให้แพทย์ดูว่า
ท่านทำถูกต้องหรือไม่ ? อย่าอายที่จะทำเช่นนั้น
มีความผิดพลาดที่ไม่น่าเกิด เช่นหาย “ใจออกในขณะที่พ่นยาเข้าปอด”
ที่ถูกต้องท่านจะต้องหายใจเข้าพร้อมกับพ่นยาเข้าปอด
หากไม่ทำเช่นที่แนะนำ ยาจะไม่เข้าสู่ปอด แต่จะกระจายอยู่ที่หลังลำ
คอ (throat) เป็นเหตุให้การพ่นยาไม่ได้ผลเท่าที่ควร
http://www.intelihealth.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น