วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

เมื่อท่านถูกวินิจฉัยเป็นโรครูมาตอยด์ : Study Explores Best Treatment for Recently Diagnosed RA

Aug. 16, 2013

ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา...
คนที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค” ข้ออักเสบรูมาตอยด์” (RA) และได้รับยา
ที่ถูกต้องเหมาะสม มีแนวโน้มที่จะรอดพ้นจากการผ่าตัดข้อได้

ผลจากการวิจัย ซึ่งมีการตีพิมพ์ใน  The Journal of Rheumatology
นักวิจัยได้ชี้แนะว่า   การรักษาด้วยยาตามมาตรฐาน ด้วยการใช้ยากลุ่ม disease-
Modifying antirheumatic drugs  เช่น  methotrexate  และยาที่ผลิตออกมาใหม่
ซึ่งมีชื่อให้เรียกว่า  Biologic agents  ปรากฏว่า ผลที่ได้รับจะดีกว่าคนไข้สมัยก่อน
ซึ่งไม่ได้รับยาในกลุ่มดังกล่าว

ผลของการวิจัยชิ้นแรกๆ   ซึ่งได้จากการศึกษาเปรียบเทียบการรักษาคน
ไข้ที่เป็นโรครูมาตอยด์  ที่มีอาการรุนแรง  หรือรายที่ได้รับการวินิจฉัยได้  ซึ่งได้
รับการรักษาทันทีด้วยยากลุ่ม DMARDs (methotrexate และ Biologics...
ทำให้ทั้งแพทย์  และคนไข้  เกิดความมั่นใจต่อการรักษามากขึ้น

ผลของการศึกษาโดย  Treatment of Early Aggressive Rheumatoid
Athritis (TEAR)  พบว่า  ถ้าคนไข้ได้เริ่มการรักษาด้วยาชนิดหนึง  และเพิ่มการ
บำบัดต่างๆ ภายใน 6 เดือน   หรือได้รับการรักษาทันทีด้วยยาหลายชนิด
ปรากฏว่า...

ผลที่เกิดจากการใช้ยาเดิม (older-drug combination) จะเทียบเท่า
กับการใช้ยาทีผลิตขึ้นใหม่ (biologic drugs)

ผลที่ได้จากการศึกษาชิ้นก่อน ๆ แสดงให้เห็นว่าการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA)
เชิงรุก (aggressive treatment)  ด้วยการให้ยากลุ่ม DMARDs ทันทีหลังการการวินิจฉัย...
สามารถทำให้แพทย์ควบคุมโรคได้   ข้อถูกทำลายน้อย
 และคนไข้สามารถทำงานตามปกติได้ดีขึ้น

ในปัจจุบัน แพทย์ส่วนมากจะทำการรักษาจากน้อยไปหามาก (step up )
ดังตัวอย่าง  ท่านจะได้รับการรักษา  ด้วยการเริ่มต้นด้วยยากลุ่ม DMARDs เช่น methotrexate
หลังจากนั้น  หากปรากฏว่า อาการของท่านยังมีความรุนแรง...
แพทย์จะเพิ่มยาตัวอื่นเข้าไปตามต้องการ

แต่คำถามมีว่า...
การให้ยาหลายตัวทันที...จะไม่ดีกว่าการให้ยาตัวเดียว   แล้วค่อยเพิ่มยาทีหลัง 
หรืออย่างไร ?   และหากจะให้ยาหลายขนานร่วมกัน  เราควรใช้ยาชนิดใดจึงจะดีที่สุด ?

ผลจากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ ใน Arthitis & Rheumatism
ได้พยายามที่จะตอบปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับคำถามทั้งสอง
ซึ่งปรากฏใน The TEAR study...

นักวิจัยจะมองไปยังปัญหาทั้งสอง ...
ปัญหาแรก  ถ้าเริ่มให้การรักษาด้วยการใช้ยาหลายตัวร่วมกัน  จะได้ผลดีเท่ากับการ
ใช้ยา methotrexate เพี่ยงตัวเดียวก่อน   แล้วค่อยเสริมด้วยยาตัวที่สองเมื่อจำเป็นเท่านั้น ? 
ปัญหาที่ที่สอง เราควรใช้สูตรผสมของยาชนิดใด จึงจะได้ผลดีกว่า ระหว่างการใช้ยา:

methotrexate plus etanercept, or Enbrel กับ การรักษาแบบดั้งเดิม
ซึ่งมีชื่อเรียก “triple therapy” โดยมีการใช้ยาสามาขนานร่วมกัน:
 methotrexate + sulfasalazine + hydrochloroquine

โดยทั่วไปแพทย์สาขาโรคตข้ออักเสบ (rheumatologist) เมือเขาจะใช้ยา methotrexate
เพียงตัวเดียวแล้วไม่ได้ผล  เขาจะเปลี่ยนเป็นการใช้ยาสองตัว หรือใช้ยาสามตัว
(tripple therapy)

เพือจัดการกับปัญหาทั้งสอง...
นักวิทยาศาสตร์จำนวนหลายนาย ทำการศึกษาคนไข้จำนวน  755 คน จาก
ศูนย์การแพทย์ 44 แห่งทั่วสหรัฐฯ  เป็นเวลา 2  ปี  และทุกรายต่างได้รับการวินิจฉัยว่า
 เป็นโรครูมาตอยด์ (RA)

คนไข้จะได้รับการพิจารณาว่ามีความรุนแรง  เมื่อเขาถูกตรวจพบว่า
มีภูมิต้านทานในเลือด (RA-related Antibodies),   ข้อถูกทำลาย  ซึ่งพบเห็นได้จาก
ภาพเอกซเรย์, และมีคะแนนความรุนแรงของโรค โดยวัดค่า DAS28 (disease activity score) 
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอาการบวม (swelling)  และจุดกดเจ็บ (tenderness)
ใน 28 จุด (ข้อ) ตลอดทั้งร่างกาย

ค่าโดยเฉลี่ย DAS28 score ณ จุดเริ่มต้นของการศึกษา จะมีค่า 5.8
คนไข้จะถูกแบ่งเป็นกลุ่มด้วยการสุ่ม...

• กลุ่มหนึ่งเริ่มให้การรักษาทันที  โดยการให้ยา  methotrexate  +  etanercept
• กลุ่มที่สองเริ่มรักษาทันทีด้วยการให้ยาสามตัว “triple therapy”
   (methotrexate+sulfasalazine +hydrochloroquine)

• กลุ่มที่สาม และสี่ ได้รับ methotrexate เพียงอย่างเดียวเป็นเวลา  24 อาทิตย์
  ในระหว่างนั้น  หากตรวจพบว่าคะแนนของ DAS28  มีค่า ≥ 3.2   คนไข้จะได้รับการ
   ปรับเปลี่ยนการรักษา  ด้วยการได้รับยาแบบใด แบบหนึ่งในกลุ่มหนึ่ง และกลุ่มที่สอง

ผลของการศึกษาเป็นเวลา 6 เดือนหลังการรักษา พบว่า
คนไข้ในกลุ่มที่หนึ่ง  และกลุ่มที่สอง  ซึ่งได้รับยา (combination) ทันที ค่าของ DAS28
จะลดลงมากว่า กลุ่มที่สาม และสี่   ซึ่งได้รับยา methotrexate เพียงอย่างเดียว

ตามความเห็นของ Larry W. Moreland, MD, Chief of rheumatology
At the University of Pittsburgh สรุปความเห็นว่า

“คนไข้โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) ส่วนใหญ่จะตอบสนองต่อยยา
methotrexate เพียงตัวเดียว....แต่ปัญหา คือ เราไม่มีวิธีตรวจที่ทำให้
เราได้ทราบว่า คนไข้รายใด (RA) ควรได้รับยารักษามากกว่าหนึ่งตัว

จากการติดตามผลจนครบ 48 อาทิตย์ ถึง 108 อาทิตย์ โดยการใช้คะแนนของ DAS28
เป็นตัวชี้วัด  ปรากฏว่า ทุกกลุ่มไม่มีความแตกต่างกันเลย

จึงสรุปได้ว่า  การรักษาโรครูมาตอยด์ด้วยยาทั้งสาม (triple therapy)
จะได้ผลดีเท่าๆ กับการรักษาด้วย methotrexate + etanercept
(says Dr. Moreland)

http://www.arthritistoday.org/news/best-rheumatoid-arthritis-treatment196-2.php

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น