วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

Gout (โรคข้ออักเสบที่เราเข้าใจ)- (How is Gout Diagnosed?)

Sept.2, 2013


ในการวินิจฉัยโรคข้ออักเสบของท่านว่า เป็นโรคเก้าหรือไม่ ?
เป็นหน้าที่ของแพทย์ จะถามประวัติการเกิดโรค, ทำการตรวจข้อของท่าน 
พร้อมกับตรวจเลือดของท่าน
นอกจากนั้น แพทยเขายังจะถามท่านเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ  ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
กับการทำให้เกิดโรคเก้า เช่น

 อาการที่เกิดขึ้น
 ยาที่ท่านกำลังรับประทาน
 อาหารการกินของท่าน มีประไรบ้าง ?
 อาการปวดเกิดขึ้นเร็วแค่ใด ?
 รายละเอียดของอาการเจ็บปวด: ความรุนแรง, ระยะเวลา และ

ในการวินิจฉัยโรคดังกล่าว (gout)...
แพทย์จำเป็นต้องแยกโรคอย่างอื่น ซึ่งทำให้เกิดข้ออักเสบออกไป
เช่น ข้ออักเสบติดเชื้อ, บาดเจ็บ หรือข้ออักเสบชนิดอื่นๆ
แพทย์จะทำการตรวจเลือดดูระดับของกรดยูริค...

การมีระดับกรดยูริตในกระแสเลือดสูง ไม่ได้หมายความว่า ท่านจะต้องเป็น
โรคเก้าเสมอไป  นอกจากนั้น คนไข้จะได้รับการตรวจพิเศษอย่างอื่นอีก
เป็นต้นว่า ตรวจเอกซเรย์, อัลตร้าซาวด์หรือตรวจด้วยภาพ MRI scans
เพื่อดูความผิดปกติของเนื้อเยื่อ และกระดูก.



แพทย์อาจทำการเจาะเอาน้ำจากข้อมาทำการตรวจหาตะกอนผลีกของกรดยูริค 
ซึ่งมีลักษณะเหมือนเข็ม และการตรวจเพบผลึกของกรดยูริคในน้ำไขข้อ...
เป็นกรรมวิธีที่แน่นอนที่สุด สำหรับใช้วินิจฉัยโรคเก้า

อย่างไรก็ตาม ข้อผิดพลาด ซึ่งอาจเกิดขึ้นในการวินิจฉัยโรคเก้า ได้แก่:

Ø  โรคเก้าสามารถปรากฏในรูปแบบของข้ออักเสบจำนวนหลายข้อ
    โดยเฉพาะคนไข้ที่มีอายุมาก
Ø  คนเป็นโรเก้า อาจมีระดับของกรดยูริคในเลือดในระดับปกติ
   โดยเฉพาะในขณะทีมีการอักเสบ (gout attack)
Ø  มีโรคอย่างอื่น ที่ตอบสนองต่อการรักษาด้วย colchicine
Ø  ผู้หญิงสามารถเป็นโรคเก้าได้เช่นกัน
Ø  โรคเก้าสามารถทำให้เกิดมีลักษณะเหมือนกับโรคข้ออักเสบทั่วไป
Ø  (osteoarthritis) เช่น เกิดมี Heberden’s Nodes


http://www.arthritistoday.org/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น