วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) (1 ) : มันเป็นโรคผิวหนัง หรือโรคไขข้อ... ?

Aug. 29, 2013

Psoriatic Arthritis: Disease of Skin or Joints?

คนส่วนใหญ่เมื่อได้ยินเรื่องโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)...
จะทำให้นึกถึงคนที่เป็นโรคผิวหนังแทบทั้งนั้น ซึ่งจะก่อให้เกิดความรำคาญ
ด้วยอาการคันตามผิวหนัง ที่เป็นผื่นมีลักษณะเฉพาะเป็นเกล็ด เป็นขุย 
และมีเล็บมือเล็บเท้าไม่เรียบเหมือนคนปกติเขา
See picture on: http://psoriasis-remedies.com/

ใน Annals Rheumatic Disease ได้รายงานว่า
คนที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) จะเป็นโรคไขข้ออักเสบถึง  6 – 42 %
เรียกข้ออักเสบสะเก็ดเงิน ( psoriatic arthritis)

ในคนที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน...
พวกเขาจะมีผื่นตามผิวหนังทั่วไป มีการเปลี่ยนแปลงที่เล็บมือแล็บเท้า
และมีอาการปวดจากข้อในส่วนต่างๆ ของร่างกายเกิดมีอาการบวม, อักเสบเกิดขึ้น 
โดยเฉพาะที่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนล่าง, นิ้วมือ, นิ้วเท้า และข้อเข่า

ในคนไข้ที่เป็นโรคอักเสบสะเก็ดเงิน (PsA) ...
อาจสังเกตุพบอาการปวดข้อ (joint pain), เคลื่อไหวข้อลำบาก (stiffness),
มีอาการข้อบวม (jont swelling) ก่อนที่จะมีอาการทางผิวหนัง (rashes)
ปรากฏขึ้น หรืออาจมีผื่น (rashes) เกิดขึ้นก่อนที่จะมีโรคไขข้ออักสเบเกิดขึ้น

การมีอาการสองอย่าง (ผิวหนัง & ข้อ) และถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน PsA
อาจทำให้คนไข้เกิดความสงสัยขึ้นว่า...ตัวของเขา เขาเป็นโรคไขข้ออักเสบ (arthritis) 
หรือเป็นโรคผิวหนัง(skin disease)กันแน่ ?
และเขาอาจแปลกใจเพิ่มขึ้นอีก เมื่อได้รับทราบว่า “ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง”

Understanding Autoimmune Response

โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน (PsA) เป็นโรคในระบบภูมิคุมกัน...
ซึ่งหมายความว่า ระบบภูมิคุ้มกันของท่านเกิดทำงานผิดเพี้ยนไปจากปกติ
ในขณะที่ระบบภูมิคุ้มกันของท่านยังปกติ มันจะสร้าง และปล่อยภูมิต้านทานออกมา 
เพื่อทำหน้าที่ปกป้องร่างกายของท่านจากโรคที่รุกรานต่อท่าน หรือ
บาดเจ็บที่เกิดขึ้น...และทำให้ร่างกายหายเป็นปกติจากความเครียด

นั่นเป็นเรื่องของระบบภูมิคุ้มกัน...
เมื่อมันเป็นโรค มันจะหันอายุธเข้าโจมตีเนื้อเยื่อของตนเอง
ซึ่งมักจะทำให้เกิดการอักเสบ และถ้าไม่ทำการรักษาในระยะเริ่มต้นที่เป็นโรค 
และอย่างมุงมั่นแล้ว จะทำให้เนื้อเยื่อ และไขข้อถูกทำลาย
และถูกแปรสภาพให้กลายเป็นข้อที่ถูกทำลายชนิดถาวรได้

ลองมาดูซิว่า...
อะไรเกิดขึ้นภายในของคนที่เป็นโรคระบบภูมิคุ้มกันอย่าง
“ไขข้ออักเสบรูมาตอยด์” หรือ “โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน”

เราจะพบกระบวนการอักเสบเกิดขึ้นภายในข้อของโรคดังกล่าว...
โดยเม็ดเลือดขาวจะเดินทางสู่เยื่อบุข้อ (synovium) ซึ่งทำหน้าที่
สร้างน้ำไขข้อ เพื่อหล่อลื่น และช่วยทำให้ข้อเคลื่อนไหวได้สดวกขึ้น

เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้น...
กระบวนการอักเสบจะทำให้เยื่อบุข้อหนาตัวขึ้น ทำให้ข้อบวมขึ้น
เป็นเหตุให้ท่านมีความรู้สึกเคลื่อนไหวข้อผิดปกติไป

เมื่อโรคได้พัฒนาไป เยื่อบุข้อที่เกิดการอกเสบจะรุกรานเข้าสู่กระ
ดูกอ่อน (cartilage), เนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ ข้อกระดูก และเมื่อเวลา
ผ่านไป กระดูกอ่อนจะถูกทำลาย และทำให้เกิดการผุกร่อน
เป็นเหตุให้กระดูกของข้อไม่มีกะรดูกอ่อนปกคลุ่ม เกิดการเสียดสีกัน
เป็นเหตุให้มีอาการปวดเพิ่มขึ้น

จากการอักเสบที่เกิดขึ้น จะทำให้ข้ออ่อนแอ...
ไม่แต่เท่านั้น เนื้อเยื่อต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อ, เอ็น,และพังผืดต่าง ๆ 
ที่อยู่รอบข้อเข่าต่างอ่อนแอตามไปด้วย

ในอดิต แพทย์คิดว่า การทำลายของอวัยวะดังกล่าว จะเกิดขึ้นตามเวลา
ที่ผ่านไป แต่ในขณะนี้ เขาเชื่อว่า มันเกิดขึ้นภายในไม่กี่ปีหลังจากการเกิด
โรค นั่นคือเหตุผลที่ว่า การวินิจฉัยโรคได้เร็วที่สุดพร้อมกับการรักษาที่หมาะสม 
จึงจะสามารถป้องกันไม่ให้ข้อถูกทำลายได้

และเนื่องจากสาเหตุทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดเพี้ยนไป ยังไม่เป็นทีทราบแน่ชัด 
แต่มีผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะเกิด
โรคภูมิต้านทานเหมือนกับคนที่เป็นโรคไขข้อสะเกิดเงิน (PsA)...

ความจริงมีว่า...
ผลจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า คนที่เป็นโรคไขข้อสะเก็ดเงิน (PsA) มี
ความผิดปกติทางพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หรือมีสมาชิกในครอบ
ครัวของคนที่เป็นโรคไขข้อสะเก็ดเงิน มีส่วนสัมพันธ์กับดรคดังกล่าว
ได้มากกว่าคนที่เป็นโรคภูมิต้านทานชนิดอื่น

คนที่เป็นโรคดัวกล่าว (PsA) อาจไม่แสดงอาการ จนกว่ามันจะถูกกระตุ้น
จากปัจจัยภายนอก เช่น เป็นหวัด คออักเสบ
อีกทฤษฎีหนึ่ง ชี้แนะว่า เชื้้อแบคทีเรียที่อยู่ตามผิวหนัง จะกระตุ้นให้
ระบบภูมิคุมกันให้เกิดการอักเสบภายในข้อ ซึ่งยังไม่ได้รับการพิสูจน์

>> Next

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น