วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Cervical spondylosis: Manangement options 1


July 28,20

สุขภาพที่สมบูรณ์จะต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ...
หากปล่อยให้ร่างกายหยุดนิ่งนานเกินไป...
อันตรายจะเกิดขึ้นกับท่านได้         
Go to link:http://www.webmd.com/


คนเป็นโรคข้อกระดูกคอเสื่อม (cervical spondylosis)
สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มแบบตามพยาธิสภาพ และอาการที่เกิดขึ้น ดังนี้:

 กลุ่มที่ I Axial Neck Pain
 กลุ่มที่ II Cervical radiculopathy
 กลุ่มที่ III cervical myelopathy

ในแต่ละกลุ่มมีแนทางในการรักษา ที่เราควรทราบดังต่อไปนี้
(Management Options)

Cervical Sponylosis alone (Axial NecK Pain ):

ถ้าท่านเป็นโรคกระดุกคอเสื่อมเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเส้นประสาท
ถูกกด (cervical radiculopathy) หรือไม่มีไขประสาท (spinal cord)
ถูกทำลาย สิ่งที่ท่านจะไดรับมีดังนี้:

o บริหารกล้ามเนื้อคอ และทำตนให้เคลื่อนไหวอยู่เสมอ
 (Exercise your neck and keep active).
ท่านจะต้องทำให้คอของท่านมีการเคลื่อนไหวเหมือนปกติให้ได้

ในระหว่างที่ท่านมีความเจ็บปวดอย่างมาก ท่านอาจจำเป็นต้องนอนพักสักวัน หรือสองวัน 
หลังจากนั้น ท่านจะต้องเริ่มทำการบริหารกล้ามเนื้อคอ
อย่างนุ่มนวลให้เร็วที่สุด โดยไม่ปล่อยให้คอของท่านแข็งเกร็ง (stiffness)
ซึ่งท่านสามารถกระทำได้โดยให้คอมีการเคลื่อนไหวได้มากที่สุดที่จะมากได้

ทุกๆ วัน ท่านจะต้องเพิ่มการเคลื่อนไหวคอของท่านให้เคลื่อนไปใน
แต่ละทิศตามที่ธรรมชาติกำหนด วันหนึ่งให้ทำหลายครั้ง
รวมแล้วให้ได้ 30 นาทีต่อวัน

ในระหว่างที่ท่านบริหารกล้ามเนื้อคออยู่นั้น ท่านจะต้องไม่ทำให้
เกิดบาดเจ็บกับคอของท่านเป็นอันขาด

o ยารักษา (Medications) :
ยาแก้ปวดมักจะมีประโยชน์ต่อการรักษาอาการเจ็บปวดจากโรค
กระดูกคอเสื่อมกลุ่มที่มีอาการ neck pain sydrome ยาที่ถูกนำ
มาใช้ได้แก่...

 Paracetamol ถ้าคนไข้ได้รับยาเต็มขนาด มักจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้
โดยให้ผู้ใหญ่ได้รับยา ขนาด 500 mg วันละ 4 ครั้ง มีข้อควรระวัง คือ อย่ารับประทาน
ยาเกินขนาดเป็นอันขาด เพราะมันสามารถทำลายตับ และไตได้

 Anti-inflammatrory painkillers ยาที่นิยมใช้ได้แก่ ibuprofen, naproxen โดยใช้
เพียงตัวเดียว หรืออาจใช้ร่วมกับยา paracetamol ก็ได้ 
แต่มีข้อห้ามเอาไว้ว่า ห้ามใช้ในคนที่เป็นโรคกระเพาะเป็นแผล ,โรคหืด , 
ความดันโลหิตสูง, โรคไตวาย,  หรือโรคหัวใจล้มเหลว 

 A strong painkiller ในบางครั้งอาจจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวดที่แรงขึ้นไปอีก
เช่น codeine + paracetamol ยา codeine จะทำให้เกิดท้องผูก
ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการดื่มน้ำให้มาก ร่วมกับรับประทานอาหารที่มีใยอาหาร
ให้มาก เช่น ผัก ผลไม้...

 Low dose tricyclic antidepressant เช่น amitriptyline เป็นยาที่ใช้รักษาอาการ
เจ็บปวดเรื้อรัง โดยใช้ขนาด 10-30 mg ก่อนนอน
สำหรับ amitriptyline ในขนาดสูงๆ จะถูกใช้รักษาภาวะซึมเศร้า
และจากการใช้ขนาดต่ำๆ สามารถลดอาการเจ็บปวดบางชนิด 
รวมถึงอาการปวดต้นคอได้

การภาพบำบัด (Physiotherapy):

ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายในหนึ่งอทิตย์
ท่านอาจถูกแนะนำให้รับการรักษาด้วยกายภาพบำบัด (physical therapy)
ซึ่งสามารถทำให้อาการเจ็บปวดบรรเทาลงได้
โดยท่านจะได้รับคำแนะนำวิธีการบริหารคอเป็นการเฉพาะ (specific neck exercise)
เพื่อให้ท่านไปทำกาารบริหารที่บ้านของท่านต่อ...

นักกายภาพบำบัด อาจแนะนำให้ท่านใช้กรรมวิธีหลายรูปแบบ  เพื่อทำให้อาการ
ของท่านดีขึ้น เป็นต้นว่า ใช้วิธีการดึงคอ (traction)ใช้ความร้อน, ความเย็น ,
 นวด และอื่น ๆ  ซึ่งได้ผลดีในบางคน

อย่างไรก็ตาม สิ่งทีสามารถช่วยได้มากที่สุด
คือคำแนะนของนักกายภาพบำบัด ด้วยการบริหารบริหารกล้ามเนื้อคอ
และให้นำไปปฏิบติต่อที่บ้าน

สถานการณ์ที่พบได้บ่อยที่สุด คือ 
แพทย์จะแนะนำให้คนไข้ใช้ยาแก้ปวด (painkillers) และให้บริหารกล้ามเนื้อคอ
อย่างนุ่มนวล (gentle neck exercise)

การรักษาอย่างอื่นๆ ที่ท่านจะได้รับ:
มีการรักษาอย่างอื่นๆ ที่ท่านอาจได้รับ เช่น

o A good posture
การรักษาท่าทางให้ดีสารถช่วยได้ โดยท่านจะต้องมั่นตรวจดูท่าทาง
ของท่านว่า อยู่ในตำแหน่งทีดีหรือไม่
เช่น ในท่านั่งทำงาน หลังของท่านตรงดีหรือไม่  อย่าปล่อยให้หลังโก่งเป็นอันขาด 
ท่านจะต้องนั่งตรง ซึ่งอาจจำเป็นต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยประคองหลังให้ตรง

o A firm supporting pillow
การใช้หมอนที่ดี และเหมาะสม สามารถช่วยให้คนบางคนนอนหลับได้ดี
อย่าใช้หมอนมากใบเป็นอันขาด

ในรายที่มีอาการปวดเรื้อรัง มักจะมีความเครียด และซึมเศร้าเกิดร่วมด้วย
เสมอ ซึ่งอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยา...

>> Next : Mangement of Cervical radiculopathy

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น