วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Raise Your Metabolism and Burn More Calories May 2, 2013

April 2013

เป็นทีทราบกันแล้วว่า...
น้ำตาล ที่อยู่ในกระแสเลือด เป็นแหล่งพลังงานสำคัญของร่างกาย 
แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ระดับน้ำตาลดังกล่าวลดต่ำลง
กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางเคมีทั้งหลายที่อยู่ในร่างกาย
ซึ่งเราเรียกว่า เราเรียกว่า เมทาบอลิซึม” จะทำการเผาผลาญไขมัน
ที่สะสมในกาย ให้กลายเป็นพลังงานทันที...

ในทางตรงข้าม...
เมื่อใดก็ตาม  ที่น้ำตาลในกระแสเลือดของคนเรามีระดับสูง
กระบวนการทางเมทาบอลิซึม  จะทำการสะสมเอาพลังงานที่มากเกิน
ด้วยการเปลี่ยนให้เป็นไขมันสะสมเอาไว้ในกาย เก็บไว้ใช้ในอนาคต
แต่โดยทั่วไปแล้ว  มันจะถูกสะสมในบริเวณรอบเอวสำหรับท่านชายทั้งหลาย
และจะสะสมในบริเวณสะโพก และต้นขาของสตรีเพศ
ทำให้เธอีก้นใหญ่ และต้นขาโต

เอใดที่ร่างกายต้องการพลังงานเพิ่ม เช่นเวลาออกกำลังกาย
กระบวนการเผาผลาญพลังงาน “เมตาบอลิซึม” ก็จะทำงานมากขึ้น
เพื่อเป็นการสนองตอบความต้องการของร่างกาย

แต่มีบางคนไม่ชอบการเคลื่อนไหว  เช่นพวกนั่งโต๊ะทั้งหลาย...
เราจะเห็นทานเหล่านั้น  มักจะมีรอบเอวที่เต็มไปด้วยก้อนไขมันที่สะสม


ทำอย่างไรจึงจะให้การเผาผลาญพลังงานมีประสิทธิภาพสูง ?

มีเอกสารจำนวนไม่น้อย ที่กล่าวถึงเรื่องการเพิ่ม เมทบิลิซึม” 
โดยได้ชี้แนะว่า  ให้มีการเพิ่มระดับ เมทาบอลิซึม” ให้มากขึ้น
เพราะถ้ากระบวนการดังกล่าวทำงานเพิ่มขึ้น จะทำให้กระบวนการ
เผาผลาญพลังงานในร่างกายเพิ่มขึ้นตาม

ท่านจะเพิ่มระดับ เมทาบอลิซึม” ได้อย่างไร ?

เพื่อเป็นการเพิ่มระดับ เมทาบอลิซึม” ภายในร่างกาย...
เราสามารถกระทำได้โดยผ่านกระบวนการทางธรรมชาติ ด้วยการมีชีวิต
อย่างมีสุขภาพดี (healthy living) ซึ่งท่านสามารถกระทำได้โดย:

รับประทานอาหารให้บ่อยขึ้น:
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจด้วยว่า...
อะไรเกิดขึ้นเมื่อท่านไม่รับประทานอาการ ?
เมื่อเราไม่รับประทานตามเวลาที่ควร... 
กระบวนการ “เมทาบอลิซึม” ภายในร่างกายจะลดลงโดยอัตโนมัติ
ซึ่งเป็นวิธีการสงวนพลังงานตามธรรมชาติของท่านเอาไว้

และหากท่านทำการลดน้ำหนักร่วมไปด้วย  เพื่อหวังให้มีการลดน้ำหนัก
อย่างรวดเร็วอย่างรวดเร็วเป็นเวลา  2-3 วัน
ร่างกายของท่านจะคิดว่า มันกำลังถูกคุกคามด้วยภาวะอดอยาก

จึงเกิดการตอบสนอง  ด้วยการทำให้ร่างกายปลอดภัย (survival mode)
ซึ่งกระได้โดยการสะสม “ไขมัน” เอาไว้ และหันไปใช้พลัง
งานจากโปรตีนที่อยู่ในกล้ามเนื้อแทน เป็นเหตุให้มวฃกฃ้ามเนื้อลดลง

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ:
ในการควบคุมอาหาร หรือลดปริมาณแคลอรี่ลง  จะทำให้การเผาผลาญพลังพลงาน (metabolism) ช้าลงโดยอัตโนมัติ  ซึ่งสามารถแก้ไขสภาวะดังกล่าวได้
โดยการออกกำลังกาย

ในการออกกำลงกาย ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า...
ทำให้กระบวนการเมทตาบอลิซึมทำงานได้ดีขึ้น  สามารถทำให้การเผาผลาญพลังงานในร่างกายเป็นไปได้อย่างปลอดภัย และจะทำให้อายุยืนยาวขึ้น

Muscle vs. Fat
โดยทั่วไป การออกกำลังกายตามรูปแบบ แอโรบิค
จะมีลักษณะเหมือนกับการเผาไหม้ gasoline
ซึ่งจะมากกว่าการเผาผลาญพลังงานที่เกิดจากการยกน้ำหนัก(building activity)

ตามเป็นจริง...
กล้ามเนื้อมีหน้าที่ในการการเผาผลาญพลังงาน... ไม่ใช้ไขมัน
ซึ่งหมายความว่า การมีมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น จะทำให้กระบวนการเมทาบอลิซึมสูงขึ้น และจะอยู่ในสภาพเช่นนั้นตลอดไปตราบเท่าที่มีมวลกล้ามเนื้ออยู่ในสภาพปกติ

ในคนสูงอายุ...
การที่คนสูงอายุมี เมทาบอลิซึม” ลดลง  น้อยกว่าคนหนุ่มเยอะ...
ที่เป็นเช่นนั้น เป็นเพราะมวลกล้ามเนื้อของคนสูงอายุลดน้อยลงตามอายุที่แก่ขึ้นขึ้เป็นเหตุให้การเผาผลาญพลังงานร่างกายลดต่ำลง 

ในกรณีดังกล่าวสามารถแก้ไขได้-
ด้วยการออกกำลังกายในรูปแบบ weight training exercise นั่นเอง

Source:

·        Caloriesperhour

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น