มีผู้คนจำนวนหนึ่ง ตกอยู่ภายใต้ความเจ็บปวดเรื้อรัง
ต้องแบกรับมลทิน...เพราะความเข้าใจผิดของคนรอบข้าง
เขาถูกมองว่า เป็นคนเสแสร้งแกล้งแสดง...โอดครวญด้วยคำบ่นว่า “ตนเองทรมานจากความเจ็บปวด”
เขาถูกปล่อยปละละเลยจากคนรอบข้าง..ทำให้เขาหลุดออกจากสังคมไป
คนไข้หลายราย หมดความภูมิใจในตนเอง หมดศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ไปก็มี.
จัดเป็นเรื่องที่ที่น่าเศร้าเป็นที่สุด
ที่เป็นเช่นนั้น เป็นเพราะเรา (คนไกล้ตัว และคนรอบข้าง)...ไม่เข้าใจในโรคความเจ็บปวดเรื้อรังนั่นเอง
หากเราเข้าใจ...คนที่น่าสงสารดังกล่าว คงได้รับความเห็นใจมากกว่านี้
การที่เราไม่รู้ ไม่ได้หมายความว่า เรากระทำผิด...
แต่หากเรารู้แล้ว ไม่แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดให้ถูกต้องนี่ซิ...เป็นเรื่องที่ควรพิจารณา
คำถาม และคำตอบต่อไปนี้...ได้รับความสนใจกันมากพอสมควร
หากเรารู้ และเข้าใจในบทบาทของความเจ็บปวดเรื้อรัง จะช่วยให้เรา และคนที่เรารัก
สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้สมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ต่อไป...
When Does Pain Become Chronic Pain?
หากท่านถูกทรมานจากความเจ้บปวดชนิดใดชนิดหนึ่งนานพอสมควร เช่นเป็นเดือน ๆ หรือมากเกินไป
โอกาสที่คุณจะได้รับ หรือเป็นโรค “ความเจ็บปวดเรื้อรัง” ย่อมมีได้สูง
มันแตกต่างจากความเจ็บปวดเฉียบพลัน(acute pain) ซึ่งมันทุเลาลง และหายไปได้
ส่วนความเจ็บปวดเรื้อรัง (chronic pain) จะเป็นอุปสรรคต่อวิถีการงานของคุณ
ป้องกันไม่ให้คุณทำงานได้ตามปกติ หรือทำให้คุณเกิดความรู้สึกสิ้นหวัง (hopelessness)
หรือกังวลใจ (anxiety)
แพทย์ส่วนใหญ่ จะไม่พิจารณาว่า คนไข้เป็นความเจ็บปวดเรื้อรัง
จนกว่า ความเจ็บปวดนั้น ๆ ยืดเยื้อนานถึง 3- 6 เดือน
และมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนไข้
เมื่อนั้นแหละจึงจะเรียกว่า เป็นความเจ็บปวดเรื้อรัง (chronic pain)
What If I Think I have Chronic Pain?
หากคุณมีความเจ็บปวดชนิดเดิม ยืดเยื้อเป็นเวลาหลายอาทิตย์ และไม่สามารถทำให้ผ่อนคลายลงได้
สิ่งทีท่านต้องกระทำ คือ ไปพบแพทย์ซะ
หน้าที่ของแพทย์ เขาจะทำการตรวจบางอย่าง เพื่อวินิจฉัยโรคของท่าน หรือให้ยารักษาแก่ท่าน
หรือส่งต่อเพื่อการรักษาทางกายภาพบำบัด (physical therapy)ต่อไป
ในระหว่างที่ท่านได้รับการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว สิ่งทีท่านจะต้องกระทำคือ
บันทึกเรื่องราวทุกอย่าง ที่เกี่ยวกับความเจ็บปวดของท่านไว้
ในบันทึกความเจ็บปวดของท่าน จะประกอบไปด้วย ความรู้สึกเจ็บปวดในเวลาที่แตกต่างกัน
เช่น “ความรู้สึกหลังรับประทานยา” “หลังจากได้รับกายภาพบำบัด” “ระหว่างที่ท่านมีความเครียด”
“หลังการรับประทานอาหาร” และ “อารมณ์” ของท่าน
ข้อมูลเหล่านี้ จะ “ช่วย” ทำให้ท่านเข้าใจความเจ็บปวดของท่านดีขึ้น
ขณะเดียวกัน ก็เป็นการช่วยให้แพทย์ผู้ทำการรักษา สามารถวินิจฉัยโรคของท่านได้ถูกต้อง
นั่นคือหน้าที ที่ท่านต้องทำ
How Is Chronic Pain Diagnosed?
ในการวินิจโรคเจ็บปวดเรื้อรัง เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเวลา
ซึ่ง โดยทั่วไปแล้ว เราจะไม่สามารถพบสาเหตุที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดที่ปรากฏได้
และอาการแสดงของความเจ็บปวดทั่วไป มักจะพบเห็นในโรคต่าง ๆ โรด multiple sclerosis โรค Lupus
ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงเป็นหน้าที่ของแพทย์ จะต้องตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ และการทำสแกน (scans)
เพื่อตรวจสอบดูโรคว่า มีโรคอะไรที่อาจเป็นต้นเหตุของโรค โดยพิจารณาไปทีละโรค ( rule out)
เมื่อพิจารณาจากวิธีการดังกล่าว หากเราไม่พบโรคใด ๆ เลย
โอกาสที่ท่านจะเป็น น่าจะเป็น Chronic pain เสียแล้ว
การตรวจเพื่อแยกโรคอื่น ออกไป มักจะรวมถึงการตรวจทางเลือด ทางเอกซเรย์
และการตรวจทางระบบประสาท
How can I Treat My Chronic Pain ?
เมื่อคุณไปพบแพทย์ด้วยเรื่องความเจ็บปวด
แพทย์เขาจะสั่งยารักษา (medications) และให้คุณ พร้อมกับให้คุณได้รับกายภาพบำบัด
นั่นเป็นงานประจำที่แพทย์เขาปฏิบัติกัน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยบอกเล่า (subjective)ให้แพทย์ฟัง
ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์ไม่พบเหตุของความเจ็บปวด
เราจะพบว่า มีคนไข้บางคนไม่ตอบสนองต่อการรักษา ซึ่งเขาเหล่านั้น
มักจะตะเวนหาทางรักษาจากแพทย์ท่านอื่น
มีคนไข้จำนวนไม่น้อยซื้อยารับประทานเอง...หากเขาเลือกได้ถูกต้อง อาการก็จะดีขึ้น
Will I Have the Chronic Pain for the Rest of My Life ?
ในการรักษาความเจ็บปวดเรื้อรังนั้น จะหาย หรือจะยืดเยื้อไปตลอดชีวิตหรือไม่ ขึ้นกับหลายปัจจัย:
ที่สำคัญ คือ คุณได้รับการตรวจสอบ (วินิจฉัย)ได้ถูกต้องหรือไม่
ตลอดรวมไปถึงการรักษาที่คุณจะได้รับว่า เหมาะสมไหม ?
จากสถิติของ The American Pain Society เขารายงานว่า
ในการรักษาในสถาบัน ที่ได้รับการยอมรับ จะต้องใช้เวลารักษาความเจ็บปวดเรื้อรังอย่างน้อย 6 เดือน
ฟังแล้ว นับเป็นเรื่องที่น่าตกใจ...แต่หากคำนึงถึงกับการปล่อยให้ยืดเยื้อไปตลอดชีวิตแล้ว
การใช้ระยะเวลา 6 เดือน ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วง หรือน่ากลัวแต่อย่างใด
หัวใจสำคัญของการรักษาโรคเจ็บปวดเรื้อรัง คุณจำเป็นต้องค้นหากลยุทธ (strategy)
ที่เหมาะสมให้ได้ และผู้ที่จะให้ข้อมูลได้ดีที่สุด คือแพทย์ของท่านนั้นเอง
คุณสามารถสอบถามจากคนอื่น ๆ ที่มีอาการคล้ายคุณ
หรือ ศึกษาหาความรู้จาก Online (อินเตอรเนต)จะทำให้คุณเข้าใจในโรคของขึ้นดีขึ้น
สุดท้าย ท่านต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นคนที่ที่อยู่ในกลุ่ม proactive
ซึ่งหมายความว่า ท่านจะไม่รอให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเอง แต่จะเป็นคนทำให้สิ่งที่คุณต้องการการเกิดขึ้น
โดยไม่ต้องรอช้า...
หากท่านทำได้เมื่อใด...การควบคุมความเจ็บปวดเรื้อรัง ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
www.pain.about.com/od/whatischronicpain/a/what-is-cp.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น