วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

What is Biofeedback?:


Biofeedback...เป็นกรรมวิธีอย่างหนึ่ง ที่แพทย์เขาใช้ในการฝึกสอนคนไข้ ให้มีสุขภาพให้ดีขึ้น
โดยการควบคุมกระบวนการทำงานของร่างกาย ซึ่งทำงานได้เหนืออำนาจบังคับ (involuntary)
กระบวนการดังกล่าว ได้แก่ การเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต อุณหภูมิของร่างกาย
และ ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ

กรรมวิธีดังกล่าว จะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Biofeedback
ทำการตรวจสอบการทำงาน ของอวัยวะภายในของคนไข้
และข้อมูลที่ได้รับจากเครื่อง biofeedback จะปรากฏบนจอคอมฯ ให้ได้รับรู้ทั้งตัวคนไข้ และผู้ให้การรักษา
จากนั้น แพทย์เขาจะใช้ข้อมูลที่ได้มาทำการรักษาโรคต่อไป
โดยการสอนให้คนไข้ใช้สมาธิ (concentration) และการผ่อนคลาย (relaxation)
ทำการควบคุมการทำงานของอวัยวะภายในกายต่อไป

ประวัติความเป็นมา:
Biofeedback นั้น ได้เกิดขึ้นมานานนมพอสมควร (1960)
ถูกนำมาใช้ในการฝึกฝนคนเราให้สามารถปรับเปลี่ยนการทำงาน (activity) ของสมอง
และกระบวนต่างๆ ภายในร่างกาย ชนิดที่เราไม่สามารถควบคุมได้


จาก Phycho-therapy.com กล่าวว่า มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อย มีความเชื่อว่า
หากมนุษย์เราสามารถควบคุม Biofeedback ได้เมื่อใด เขาย่อมสามารถทำให้เขาฉลาด
และเป็นคนสร้างสรรค์มากขึ้น

พวกเขายังคิดว่า ต่อไปในอนาคต การใช้ยาเพื่อการรักษาโรคอาจไม่จำเป็น หรือกลายเป็นเรืืองหล้าสมัยไป
โดยเขาสามารถเป็นคนที่มีสุขภาพดีขึ้นได้ด้วยการคิดว่า เขามีสุขภาพดีขึ้นเท่านั้นเอง
ขณะที่ความหวังดังกล่าว ดูเหมือนจะห่างไกลจากความเป็นจริงก็ตาม
แต่ผลทางด้านวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า มีข้อมูลจำนวนหนึ่งที่บ่งบอกให้ทราบว่า
มันสามารถควบคุมกระบวนการภายในร่างกายของมนุษย์เราได้จริง

ลองมาดูซิว่า Biofeedback มันทำงานกันอย่างไร ?
เราไม่ทราบหรอกว่า กลไกที่แท้จริงของ biofeedback มันทำงานกันอย่างไร
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า การผ่อนคลาย (relaxation)
ถือว่า เป็นหัวใจของกรรมวิธีดังกล่าว

วิธีการรักษาแบบ biofeedback จเกี่ยวเนื่องกับการเรียนรู้ (แม่ว่าจะไม่สมบูรณ์...) กระบวนการทำงาน
ของร่างกาย เช่น การเต้นของหัวใจ ควาดันโลหิน และความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ
จากการนำเอาขั้วไฟฟ้าของเครื่องติดกับตัวคนไข้ จากนั้น จะปรากฏมีผลการทำงานของร่างกาย
แสดงออกทางจอภาพในรูปของเสียง หรือแสง ให้คนไข้ได้เห็น
จากนั้น ผู้ทำการรักษาจะเป็นผู้นำพาคนไข้ผ่่านกระบวนการของจิต ที่เกี่ยวกับกระบวนการคิด
จนถึงขั้นใช้จิตของเขากระตุ้นให้เกิดการสนองตอบตามที่ต้องการ

ยกตัวอย่าง

ในคนไข้ที่กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ตัวคนไข้สามารถเอาชนะปัญหา ด้วยการเรียนรู้ว่า จะเอาชนะปัยหาดงกล่าว
ด้วยการหดเกร็งกล้ามเนื้อมัดใด

อีกกรณีหนึ่ง สำหรับคนที่มีความเจ็บปวด หรือมีความเครียด เขาจะถูกสอนให้เรียนรู้ว่า ความเครียดอยู่ที่ใด
และเขาสามารถเรียนรู้ได้ว่า ความคิด หรือความรู้สึกใด เป็นตัวทำให้เกิดความเครียดขึ้น

สุดท้าย เป้าหมายของการสอนคนไข้ในเรื่อง biofeedback คือ เป็นการช่วยให้คนไข้ได้ตระหนักรู้
ถึงกระบวนการทำงานของร่างกายที่เราไม่รู้ (unconscious)
และสามารถจัดการกับมันด้วยความรู้สึกตัว โดยกระบวนการทางความคิดต่อไป

จาก Psycho-therapy.com กล่าวว่า
ความเครียด จะก่อให้เกิดการตอบสนองจากระบบประสาท sympathetic ทำให้
คนเราเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินทันที โดยการหดเกร็งของเส้นเลือด การเต้นของหัวใจเร็วขึ้น
และความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ม่านตาขยาย เหงื่อออก และการทำงานของกระเพาะลำไส้ลดลง

เขาคิดว่า Biofeedback มันทำงานได้โดยการสอนให้คนไข้ เปลี่ยนการตอบสนองของร่างกายต่อ
ความเครียดด้วยวิธีการผ่อนคลาย (relaxation)

การทำ Biofeedback ในชีวิตประจำวัน
เรามีโอกาสสัมผัสกับ Biofeedback ด้วยกันทุกคน...
เช่น เมื่อเราเป็นไข้ ต้องมีการวัดปรอทดูอุณหภูมิของร่างกาย และเครื่องชั่งน้ำหนักตัว
ผลที่ได้รับที่เป็น feedback ก็เป็นเรื่องที่จะต้องนำมาพิจารณาต่อไป
ถ้าอุณหภูมิของร่างกายสูง (เป็นไข้) ก็เป็นหน้าที่ของเราจะต้องทำการรักษากันต่อไป เช่่นลดไข้
ถ้าน้ำหนักตัวสูง ก็เป็นหน้าที่ของคนที่น้ำหนักสูง ต้องลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย
และรับประทานอาหารที่ถูกต้องเพื่อลดน้ำหนักต่อไป


อุปกรณ์ biofeedback เป็นอุปกรณ์ที่มีความซับซ้อนพอสมควร ซึ่งสามารถตรวจสอบการ
ทำงานต่าง ๆ ของอวัยวะภายใน
เครื่องมือต่าง ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อทำการตรวจ คลื่น Electromyography
เพื่อตรวจดูการเกร็งของกล้ามเนื้อ
Thermo-feedback เป็นการตรวจดูอุรหภูมิของร่างกาย
Neurofeedback (อาจเรียกว่า neuroencephalography) ใช้สำหรับตรวจคลื่นสมอง

เมื่อเราติดเครื่อง biofeedback แก่คนไข้เมื่อใด
คนไข้จะถูกกระตุ้น ด้วยเสียง หรือแสง ต่อความรู้สึกนึกคิด ความรู้สึก และความเข้าใจของเขา
ซึ่งเขาสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการทำงานภายในได้
เช่น การเต้นของหัวใจเป็นต้น

Biofeedback ที่เรานำมาใช้ในสมัยใหม่
ในวงการแพทย์ของเราได้นำเอา biofeedback เข้ามาใช้ในการรักษาคนไข้กันอย่างกว้างขวาง
ซึ่งได้แก่ โรคทางระบบจิตประสาท โรคทันตกรรม อายุรกรรม การพยาบาล กายภาพบำบัด

Biofeedback ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคต่างมากมาย เช่น โรคปวดศีรษะเรื้อรัง
ระบบกระเพาะลำไส้ ความดันโลหิตสูง ความเครียด ซึมเศร้า เบาหวาน หืดหอบ และอื่น ๆ


www.ehow.com/about_5471250_bio-feedback.html#ixzz1W81aHR5v


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น