(continued
What Are the Treatable Risk Factors?
มีปัจจัยที่สำคัญหลายตัว ที่เป็นเหตุก่อให้เกิดภาวะสมองขาดออกซิเจน
ซึ่งเราสามารถจัดการได้ เช่น:
• High blood pressure โรคความดันโลหิตสูง...
เป็นที่รับรู้กันว่า โรคความดันโลหิตสูง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำหใ้เกิดภาวะสมองขาดออกซิเจนได้
มีรายงานว่า ความดันโลหิตสูงสามารถไปความเสี่ยงต่อเกิดโรคในคนที่มีอายุก่อนถึงวัย 80
โดยพบได้ถึง 2-4 เท่า
ถ้าความดันของท่านสูง แพทย์ผู้ทำการรักษา และตัวท่านเองจะต้องวางแผนร่วมกัน
เพื่อจัดการให้ความดันลดลงสู่ระดับปกติ
ซึ่ง มีแนวทางให้ปฏิบัติได้ดังต่อไปนี้:
รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับปกติ
หลีกเลี่ยงการรับประทานยา ที่ไปเพิ่มความดันโลหิตให้สูงขึ้น
รับประทานอาหารที่ถูกต้อง ไม่มีไขมันอิ่มตัว ให้รับประทานผลไม้ และผักทุกวัน
เพื่อเพิ่มระดับโปแตสเซี่ยมในอาหาร และออกกำลังกายทุกวัน (30 นาทีต่อวัน)
นอกจากนั้น แพทย์ยังอาจต้องให้ยาลดความดันแก่ท่าน
การควบคุมความดันให้เป็นปกติ ยังเป็นประโยชน์การรักษาโรคหัวใจ โรคเบาหวาน
และโรคไตวายได้อีกด้วย
• Cigarette smoking.
ท่านจะเชื่อหรือไม่ ?
ที่มีรายงานว่า การสูบบุหรี่ สามารถเพิ่มอันตราเสี่ยงให้เกิดสมองขาดออกซิเจน
ได้ถึง สองเท่าตัว และทำให้สมองขาดเลือดชนิดเลือดตกในสมอง ได้ถึง 4 เท่าตัว
การสูบบุหรี่มีส่วนสัมพันธ์กับการที่มไขมันไปเกาะตัวที่ผนังของหลอดเลือด หรือเส้นเลือดเลือด
ทำให้เส้นเลอดแข็ง(atherosclerosis)
เช่น เส้นเลือด carotid artery ที่บริเวณคอ
ซึ่งเป็นเส้นเลือดสำคัญ ที่ทำหน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงของสมอง
การอุดตันของเส้นเลือดเส้นนี้ จะนำไปสู่การเกิดภาวะสมองขาดออกซิเจนของคนได้
นอกจากนั้น สารนิโคตีนจากบุหรี่ ยังเป็นตัวเพี่มความดันโลหิตได้อีก
สารคาร์บอนไดออกไซด์ จากการสูบบุหรี่หรือควันบุหรี่
ยังเป็นตัวลดปริมาณออกซิเจนที่ไปยังสมองได้อีก
ควันบุหรี่ยังทำให้เลือดของท่านเพิ่มความเหนียวตัวขึ้น
ทำให้เม็ดเลือดเกิดการจับตัวกันได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดเป็นก้อนเลือดในเส้นเลือด
นอกจากนั้น การสูบบุหรี่ยังส่วนช่วยให้มีการเกิดเสริมการโป่งพองของเส้นเลือด (aneurysm)ได้อีกด้วย
สำหรับท่านที่สูบบุหรี่ ถ้าท่านเชื่อว่า บุหรี่เป็นศัตรูที่สำคัญของสมองของท่าน
ซึ่งเป็น?รัพย์สินอันมีค่าสูงสุดของมนุษย์ หากมันมีอันเป็นไป (ถูกทำลายลง)...ทุกอย่างเป็นจบ !
มีทางเดียวเท่านั้น ที่ท่านสามารถปกป้องสมองของท่านได้
คือ เลิกสูบบุหรี่...และหลีกเลี่ยงจากการสูดควันบุหรี่ของคนอื่นเสีย...
มันก็เท่านั้นเอง
• Heart disease.
โรคหัวใจ , โรคเส้นเลือดหัวใจ (coronary heart disease), โรคลิ้นหัวใจ (valve defects) ,
การเต้นของหัวใจผิดปกติ ( atrial fibrillation), หัวใจโต (enlargement of heart chamber)
ไม่ว่าจะเป็นช่องใด (chamber)ก็ได้ ต่างมีโอกาสทำให้เกิดมีการสร้างก้อนเลือดขึ้นได้ทั้งนั้น
มันอาจแตก และหลุดไปอุดที่เส้นเลือดในสมองได้
และทำให้สมองเกิดการขาดเลือดได้
Atrial fibrillation เป็นภาวะที่มักจะเกิดในคนสูงอายุ และ
เป็นปัจจัยสำคัญให้เกิดสมองขาดเลือดได้ถึงหนึ่งสี่คนของคนที่มีอายุครบ 80
ซึ่ง มีสวนเกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดความพิการ (disability)
และความ ตายในคนสูงอายุ (death)
โรคเส้นเลือดที่พบบ่อยที่สุด ที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดโรคสมองขาดเลือด
คือ เส้นเลือดแข็ง (atherosclerosis)
นอกจากไขมัน โรคความดันโลหิตสูง ยังเป็นปัจจัยทำให้เกิดโรคเส้นเลือดแข็งได้
จากการมีความดันสูงดังกล่าว สามารทำให้เกิดรอยแผลที่ผนังของเส้นเลือด
ตามด้วยการเป็นพังผืด (scar) และเป็นจุดกำเนิดของการเกาะตัวของเม้็ดเลือด สร้างป็นก้อนเลือดขึ้น
ซึ่งจะก่อให้เกิดการอุดตันในเส้นเลือด เป็นเหตุให้อวัยวะที่สำคัญขาดเลือด และออกซิเจนในที่สุก
ในกรณีดังกล่าว แพทย์จะทำการรักษาด้วยการให้ยาป้องกันการจับตัวของเม็ดเลือด
ด้วยการ ให้ aspirin เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสร้างก้อนเลือดขึ้น
• Warning signs or history of TIA or stroke.
ถ้าท่านเคยมีประสบการณ์เกิดมีภาวะสมองขาดออกซิเจนในระยะสั้น ๆ มาก่อน
ซึ่งเรารู้ในชื่อ TIA หรือเกิดภาวะสมองขาดเลือด stroke
ท่านมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองขาดเลือดได้อีกหลายเท่าตัว
(เมื่อเปรียบกับคนที่ไม่เคยมีภาวะดังกล่าวเลย)
ถ้าท่านเคยมีประสบการณ์เป็นโรคสมองขาดออกซิเจนมาก่อน (Brain attack)
ท่านมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะดังกล่าว
ดังนั้น ท่านจะต้องลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองขาดเลือดเป็นครั้งที่สองให้ได้
โดยปกติ สมองของท่าน จะช่วยท่านให้รอดพ้นจากภาวะ สมองขาดออกซิเจน
ด้วยกระบวนการขอร้อง ให้สมองส่วนที่ดีทำงานแทน ด้วยการทำงานเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
เป็นการทดแทนงานของสมองส่วนที่ถูกทำลายไป
ด้วยภาวะดังกล่าว สมองย่อมมีโอกาสเกิดภาวะขาดออกซิเจนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
• Diabetes.
ท่านอาจคิดว่า โรคเบาหวานจะมีผลกระทบต่อร่างกายในการใช้น้ำตาลในเลือดเท่านั้น
แต่ตามความจริง มันยังเป็นเหตุให้เกิดมีการทำลายเส้นเลือดตลอดทั้งร่างกาย
รวมถึงเส้นเลือในสมองอีกด้วย
ในขณะที่เกิดภาวะสมองขาดเลือด หรือขาดออกซิเจน บังเอิญระดับน้ำตาลในเลือดสูง
พบว่า สมองจะถูกทำลาย และมีความรุนแรงได้มากกว่า เกิดในขณะที่น้ำตาลอยู่ในระดับปกติ
โรคความดันโลหิตสูงมักจะเกิดร่วมกับการเป็นโรคเบาหวาน
พบคนเป็นโรคเบาหวานเมื่อใด...อย่าลืม ให้มองหาโรคเบาหวานด้ว
เบาหวานเอง และโรคความดัน เป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ใครอยากเป็น
มันสามารเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองขาดเลือด และออกซิเจน
การรักษาเบาหวานได้ดี เป็นการชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองขาดออกซิเจนได้เป็นอย่างดี
Cholesterol imbalance.
Low-density lipoprotein cholesterol (LDL)
เป็นไขมันชนิดเลว จะมีสารที่เป็นไขมัน (fatty substance)
ซึ่ง มันจะเป็นตัวไปเกาะตามผนังเส้นเลือดแดง ทำให้เกิดเส้นเลือดแข็งตัว (atherosclerosis)
เป็นเหตุให้เส้นเลือดตีบแคบลง และเป็นปัจจัยสำคัญทีทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด (heart attack)
และสมองขาดเลือด (brain attack)
• Physical inactivity and obesity.
ท่านเชื่อหรือไม่ ?...
ใครก็ตามที่อ้วนมาก ๆ และไมค่อยออกกำลังกาย มักจะเป็นคนอ้วนเสมอ
โชคยังดี...ที่มนุษย์เราสามารถบดบังความอ้วน อันไม่น่าพิศมัยด้วยเสื้อผ้าได้
เขาเหล่านั้นมักจะลงเอยด้วยการเป็นโรคความดัน ,โรคเบาหวาน และ เป็นโรคหัวใจด้วยเสมอ
Adaptedfrom:
www.ninds.nih.gov/disorders/stroke/preventing_stroke.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น