วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2555

Heart Disease and Abnormal Heart Rhythm

หัวใจเต้นผิดปกติ! หรือ ปกติ!

การที่หัวใจของคนเราเต้นผิดปกติไป เขาเรียกว่า arrhythmia
มันจะแตกต่างจากอัตราการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอ (irregular heart rate)
ซึ่ง ตามจริงทั้งสองภาวะ ไม่จำเป็นต้องเกิดพร้อมกันเสมอไป

ปกติอัตราการเต้นของหัวใจ จะเต้นอยู่ที่ 50 – 100 ครั้ง ต่อหนึ่งนาที
การเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ สามารถเกิดขึ้นได้ในขณะที่หัวใจเต้นด้วยอัตราการเต้นที่ปกติได้
หรือ เกิดขึ้นในขณะที่หัวใจเต้นเร็ว หัวหัวใจเต้นช้าก็ได้

ในสหรัฐฯ เคยมีคนไข้ทีหัวใจเต้นผิดปกติ
ถูกรับไว้ในโรงพยาบาลปีหนึ่งมากกว่า 850,000 คน

อะไรคือสาเหตุของหัวใจเต้นที่ผิดปกติไป:

หัวใจเต้นผิดปกติ อาจมีสาเหตุจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น:

o โรคหลอดเลือดแดงของหัวใจ (coronary artery disease)
o การเปลี่ยนแปลงในกล้ามเนื้อของหัวใจ
o มีความไม่สมดุลในสารที่มีไอออน (อีเล็กโตรไลท์) เช่น sodium หรือ potassium
o กล้ามเนื้อ หัวใจถูกทำลาย (injury) จากการขาดเลือด & ออกซิเจน (heart attack)
o ภายหลังการผ่าตัดหัวใจ

ชนิดของความผิดปกติในการเต้นของหัวใจ: (Types of arrhythmia)

o Premature atrial contractions.
เป็นการเต้นของหัวใจห้องบนก่อนเวลาอันควร ยกตัวอย่าง
เช่น การเต้นของหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นหลายครั้งก่อนเวลาอันควร
ซึ่งเป็นผลจากคลื่นกระแสไฟฟ้าจากหัวใจห้องบน (atria) ทำให้เราจับชีพจรได้เป็นคู่ ๆ
การเต้นของหัวใจผิดปกติดังกล่าว ไม่น่าตกใจอะไร
ไม่มีอันตรายอะไรเลยมันเป็นการตอบสนองของระบบหัวใจ และเส้นเลือด
ที่มีต่อความสมบูรณ์ของร่างกาย

o Premature ventricular contractions(PVCs).
เป็นการเต้นของหัวใจที่พบได้บ่อย ซึ่งเกิดขึ้นโดยที่คน ๆ นั้น มี หรือไม่มีโรคหัวใจเลย
การเต้นของหัวใจที่ผิดปกติชนิดนี้ เป็นความรู้สึกที่คนเราสามารถสัมผัสได้
ในบางคน การเต้นแบบนี้ (PVCs) จะสัมพันธ์กับความเครียด
หรือ เกิดจากการดื่มกาแฟ หรือ สูบหรี่มากเกินไป
หรือแม้กระทั้งออกกำลังกายมากเกิน ก็สามารถทำให้เกิดการเต้นของหัวใจแบบนี้ได้

PVCs สามารถเกิดจากคนที่เป็นโรคหัวใจ หรือ เกิดจาการเสียความสมดุลในสารอีออน(อีเลกโตรไลท์)
ในกรณีที่มี PVCs หรือ มีอาการร่วมกันการเต้นผิดปกติดังกล่าวมากเกินปกติ
ท่านควรได้รับการตรวจ และประเมินจากแพทย์...
อย่างไรก็ตาม ภาวะ PVCs ส่วนใหญ่ไม่มีอันตรายใด ๆ
ไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา หรือถ้าจะมี...ก้น้อยมาก!

o Atrial fibrillation. AF
เป็นการเต้นของหัวใจที่มีจังหวะผิดปกติ (irregularRhythm) พบได้บ่อย
ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจห้องบนเต้นเร็วผิดปกติไป

o Atrial Flutter. เป็นการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ
ซึ่งเกิดจากวงจรของคลื่นกระแสไฟฟ้าในหัวใจสองห้องบน ปล่อยคลื่นออกมาเร็วกว่าปกติ
โดยอาจเกิดได้ครั้ง หรือหลายครั้ง

ในรายที่เป็น atrial flutter โรคหัวใจ มักจะเกิดกับคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจ
ซึ่งมักจะเกิดภายในอาทิตย์แรกหลังการผ่าตัด และมันสามารถแปรเปลี่ยนไปเป็น AF ได้

o Paroxysmal supraventricular tachycardia. (PSVT)
เป็นการเต้นของหัวใจ ที่มีอัตราการเต้นที่เร็ว และมักจะมีอัตราการเต้นที่สม่ำเสมอ
โดย เกิดจากคลื่นกระแสไฟฟ้าจากตำแหน่งที่อยู่เหนือหัวใจสองห้องล่าง
ซึ่งมักจะเกิด และดับลงอย่างรวดเร็ว

PSVT มีสองชนิดใหญ่ ๆ Accessory path tachycardia และ AV node
Reentrant tachycardia

 Accessory pathway tachycardias. หัวใจมีการเต้นเร็ว เนื่องมาจาก
มีทางเดินของคลื่นกระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น (extra abnormal pathway)
หรือมีทางติดต่อของคลื่นระหว่างหัวใจสองห้องบน และสองห้องล่าง
ทำให้คลื่นกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านสองเส้นทาง (ทางเดิม และทางที่มีเพิ่ม)
เป็นเหตุให้มีคลื่นกระแสไฟฟ้าวิ่งรอบหัวใจอย่างรวดเร็ว ทำให้หัวใจเต้นเร็วเกินปกติไป

 AV nodal reentrant tachycardia.
การเต้นของหัวใจที่เร็วผิดปกติชนิดนี้ เกิดจากการที่มีทางเดินของคลื่นกระแสไฟฟ้าในหัวใจมากว่าหนึ่งแห่ง
ที่วิ่งผ่าน AV node ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการใจสั่น (palpitation), เป็นลม (fainting)
หรือ หัวใจล้มเหลว (heart failure)
ในบางราย เราสามารถทำให้มันหายไปด้วยวีการง่าย ๆ
เช่น หายใจลึก ๆ แล้วเบ่งเหมือนผู้หญิงคลอดบุตร (breathing in and bearing sown)
หรือ ใช้ยาบางตัว สามารถยุติการเต้นที่ผิดปกติดังกล่าวได้

o Ventricular tachycardia (V-tach).
เป็นการของหัวใจสองหองล่าง ที่เต้นเร็ว โดยมีคลื่นไฟฟ้า
เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจจากสองห้องล่าง (ventricles)
การที่หัวใจสองห้องล่างเต้นเร็วนั้น จะขัดขวางต่อการให้เลือดไหลไปสู่หัวใจได้
ทำให้มีเลือดมีปริมาณไม่เพียงพอ จัดเป็นชนิดของการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ
โดยเฉพาะในคนที่เป็นโรคหัวใจ และอาจทำให้คนไข้มีอาการมากขึ้น

o Ventricular fibrillation.
เป็นการเต้นของหัวใจที่เต้นเร็ว ซึ่งเกิดจากการปล่อยคลื่นกระแสไฟฟ้าจากหัวใจสองห้องล่างอย่างไร้เป้าหมาย
เป็นการปล่อยคลื่นกระแสไฟฟ้า ซึ่ง มีลักษณะเหมือนฝูงชนแตกตื่นจากภัยพิบัติ...
ทำให้การเต้นของหัวใจห้องล่าง มีลักษระสั่นระริก ไม่สามารถที่จะบีบเลือดออกจากหัวใจ
ได้เลย จัดเป็นภาวะฉุกเฉิน ซึ่งควรได้รบการรักษาอย่างรีบด่วน
(cardiopulmonary Resuscitation (CPR) และทำ defibrillation ให้เร็วที่สุด

o Long QT syndrome.
QT interval คือบริเวณที่พบใน electrocardiogram
ซึ่งบ่งบอกให้ทราบถึงภาวะที่กล้ามเนื้อหัวใจ มีการหดตัว และกลับสู่สะภาพเดิม (contract and recover)
หรือเป็นระยะเวลาที่มีการยิ่งคลื่นกระไฟฟ้า และมีการ recharge

ถ้าเมื่อใดที่พบว่า QT interval ยาวกว่าปกติ มันจะเพิ่มความเสี่ยงต่อชีวิต
จากการเกิด ventricular tachycardia
ในบางราย Long QT syndrome เป็นโรคทางพันธุกรรม
สามารถทำให้เกิดการเสียชีวิตในคนหนุ่มได้
ซึ่งสามารถรักษาด้วยการใช้ยาต้านการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ (antiarrhythmic drugs)
และใส่เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ (pacemaker), cardioversion,
defibrillator หรือ ablation therapy

o Bradyarrhythmias.
เป็นการเต้นของหัวใจที่เต้นช้ากว่าปกติ ซึ่งเกิดจากโรคหัวใจเอง
โดยที่ระบบกำเนิดคลื่นไฟฟ้าในหัวใจทำงานผิดปกติ
ยกตัวอย่างเช่น sinus node dysfunction และ พวก heart block

 Sinus node dysfunction.
โรคที่จังหวะการเต้นของหัวใจเต้นช้าลง เพราะมีความผิดปกติที่ปุ่มกำเนิดคลื่นกระแสไฟฟ้า SA node
สำหรับรายที่ทำให้มีอาการ จำเป็นต้องรักษาด้วยการใส่ pacemaker

 Heart block.
เป็นการปิดกั้นคลื่นกระแสไฟฟ้าที่วิ่งจากหัวใจห้องบนไปยังหัวใจห้องล่าง
ซึ่งอาจปิดกั้นบางส่วน ทำให้การเดินทางของคลื่นกระแสไฟฟ้าช้าลง หรือถูกปิดกั้นโดยสิ้นเชิง
เป็นเหตุให้หัวใจเต้นได้ไม่สำม่เสมอ (irregular) ช้าลง (slowly) หรือ เต้นเร็วขึ้น (often)
ถ้าหากอาการรุนแรง จำเป็นต้องรักษาด้วยการใส่ pacemaker
การเต้นของหัวใจผิดปกติ สามารถมาในรูปแบบที่ไม่มีใครรู้ ไม่แสดงอาการ
แพทย์ตรวจพบในขณะทำการตรวจร่างกาย โดยตรวจคำชีพจร การตรวจคลื่นของหัวใจ ECG

อาการแสดงของภาวะหัวใจเต้นไม่ปกติ อาจมีดังต่อไปนี้:

• มีอาการใจสั่น (palpitation
เป็นความรู้สึกผิดปกติว่า มีการกระเพื่อมของหน้าอ
• รู้สึกวิงเวียน (dizziness)
• รู้สึกเป็นลม (fainti8ng)
• Shortness of breath
• รู้สึกไม่สบายในทรวงอก (Chest discomfort)
• รู้สึกอ่อนแรง หรือ เมื่อยล้า (Weakness or fatigue)


Continued. >

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น