(Continued)
เพื่อหลีกเลี่ยงจากผลข้างเคียงจากการใช้ statin
ท่านสามารถกระทำได้ดังต่อไปนี้:
o ระงับการรับประทานยาสักระยะ:
บางครั้ง อาการปวดกล้ามเนื้อ อาจเป็นผลมาจากยา statin หรือเป็นผลจากสาเหตุอย่างอื่น
หรือ เป็นเพราะอายุของคนไข้ก็ได้ ในกรณีที่เกิดมีอาการปวดกล้ามเนื้อขึ้น
ให้ท่านลองหยุดยาที่ท่านรับประทานสักระยะ เช่น 10 -14 วัน
จากการกระทำดังกล่าว ท่านสามารถสามารถบอกได้ว่า
อาการที่เกิดขึ้นนั้น เป็นผลจายา หรือจากสาเหตุอย่างอื่นได้
o เปลี่ยนยาตัวใหม่:
ในกรณีที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อเกิดขึ้น ซึ่งคิดว่า ป็นผลเนื่องมาจาก statins
วิธีง่ายที่สุด คือ เปลี่ยนยา แต่ ยาที่ท่านเปลี่ยนไปนั้น อาจก่อให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อขึ้นก็ได้
ซึ่งอาจมีอาการมากกว่า statins โดยเฉพาะในรายที่ใช้ยาในขนาดสูง
o เปลี่ยนขนาดของยา:
การลดขนาดยาลง สามารถลดอาการแพ้ยาลงได้
แต่การทำเช่นนั้น สามารถลดประสิทธิผลในการลดระดับไขมันลงได้
ด้วยเหตุนี้เอง แพทย์อาจมีการปรับเปลี่ยนเป็นยาตัวอื่นได้
o ลองพิจารณายาลดไขมันตัวอื่นดู:
มียาลดไขมันอีกตัว ชื่อ Ezetimibe (Zetia)
เป็นยาที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งไม่ให้มีดูดซึมสารไขมัน cholesterol
มันอาจเป็นยาที่ทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อได้น้อยกว่า หรือ อาจลดอาการปวดกล้ามเนื้อลงได้
ถ้ามีการใช้ร่วมกับ statin
o อย่าใช้ยาแก้ปวด (OTC) เพื่อลดอาการปวด:
เพราะอาการปวดกล้ามเนื้อจากสาร statin ไม่สามารถระงับได้ด้วยยาแก้ปวดที่ซื้อได้จากร้านขายยา
เช่น acetaminophen, ibuprofen
o ลองรับประทานอาหารเสริม Q10:
มีรายงานวา Q10 สามารถลดผลข้างเคียงที่เกิดจาก statin ได้
ให้มั่นสังเกตดูปฏิกิริยาจากการใช้ยา:
เมื่อใดที่ท่านใช้ยา statin ขอให้ทราบว่า
สารตัวนี้สามารถมีปฏิกิริยากับยาตัวอื่น หรือ อาหารบางชนิดได้
ปฏิกิริยาที่น่ากลัว คือ มันอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
ยกตัวอย่าง
o ยาในกลุ่ม statin ทุกตัว เมื่อรับประทานร่วมกับ “องุ่น”
หรือ “น้ำองุ่น” :
ในผลองุ่น มีสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่สามารถทำให้ statin มีฤทธิ์เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ท่านได้ เพราะเราไม่ทราบแน่ชัดว่า มันมีผลอย่างต่อระดับ total cholesterol
o Simvastatin (Zocor) และ amiodarone (Cordarone):
คนที่รับประทาน simvastatin อย่างเดียว หรือจะรับร่วมกับยาตัวอื่น
เช่น azetimibe และ ยา amiodarone (ยาที่ใช้รักษาการเต้นผิดปกติของหัวใจ)
มักจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น เกิดการสลายตัวของกล้ามเนื้อ (rhabdomyolysis)
และตามด้วยโรคไตวายได้
o ยาในกลุ่ม statin ทุกตัวเมื่อใช้ร่วมกับ gemfibrozil (Lopid):
คนที่รับยาทั้ง gemfibrozil และ statin อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน
o ยาในกลุ่ม statin ทุกตัว ร่วมกับยาปฏิชีวนะ(antibiotic) และ ยารักษาเชื้อรา (antifungal)
สามารถทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้
o ยา statin ร่วมกับ antidepressant medications:
เมื่อใช้ยา statin ร่วมกับยารักษาอาการซึมเศร้า เช่น nefazodone(Serzone)
มีแนวโน้มทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อได้
o ยาในกลุ่ม statin ทุกตัว ร่วมกับ ยากดภูมิต้านทาน (immmuno-suppressant medication):
อาจทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อได้เช่นกัน
โดยสรุป แม้ว่า ยาในกลุ่ม statin สามารถก่อให้เกิดความรำคาญใจแก่ท่านได้ก็จริง
แต่ ก่อนที่ท่านจะเลิกกินยาดังกล่าว ท่านต้องปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาร่วมกันถึงผลดี และผลเสีย
ที่พึงจะได้รับจากการใช้ยาดังกล่าว
มันสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด (heart attack) และ สมองขาดเลือด (stroke)
ของท่านได้ และที่สำคัญ อันตรายจาก statin ส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงนัก
ดังนั้น ก่อนหยุดยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนน่าจะเป็นการดีแก่ท่านเอง
เพราะแพทย์อาจแนะนำอะไรบางอย่างที่เป็นประโยชน์แก่ตัวท่านได้
Adapted from:
www.mayoclinic.com/health/statin-side-effects/MY00205/NSECTIONGROUP=2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น