เมื่อทศวรรษที่ผ่านมา นายแพทย์ Cypess จาก Harvard Medical school
ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการรักษาโรคเบาหวาน
พร้อมกับชี้ให้เห็นถึงความสำคัญ ในการเข้าใจในบทบาทของยากลุ่มใหม่ที่ผลิตขึ้น
ซึ่งเขากล่าวว่า เมื่อใช้ร่วมกันกับการออกกำลังก่าย และ การควบคุมอาหารแล้ว
จะทำผลของการรุักษาดีขึ้น
ในเมื่อแพทย์ได้ให้ความใสใจ ต่อการรักษาโรคเบาหวานอย่งจริงจัง
ด้วยการวินิจฉัยโรคไวขึ้น พร้อมกับได้รับการรักษาได้อย่างฉับไว
ผู้ป่วยย่อมได้รับผลจากการรักษาอย่างแน่นอน
Type 2 Diabetes Treatment:
New Medications
มียารักษาเบาหวานหลายกลุ่ม ที่ถูกสร้างขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมา
เป็นยาใหม่ รวมถึง Insulin ที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคเบาหวาน
ซึ่งไม่เพียงแต่ ทำให้ผลที่ได้รับเป็นที่ประทับใจแล้ว ยังใช้ได้ง่ายอีกด้วย
เช่น :
DPP-4 inhibitors ซึ่งรวมถึงยาต่อไปนี้ Januvia, Ongyza และ Tradjenta
ซึ่งมันจะทำหน้าที่ปกป้องสารธรรมชาติที่มีในร่างกาย ซึ่งมีชื่อว่า GLP-1 ไม่ให้เสื่อมสลายลง
และสาร GLP-1 ตัวนี้แหละ จะทำหน้าที่ช่วยลดน้ำตาลในกระแสเลือดลง
Incretin mimetics or GLP analogs ได้แก่ยาที่ใช้ฉีด
เช่น Byetta และ Victoza มันช่วยทำให้ร่างกายปล่อย insulin หลังรับประทานอาหาร
Other drugs ยาตัวอื่น ๆ ได้แก่ Symlin เป็น synthetic Hormone
ใช้ฉีด เพื่อ ช่วยลดระดับน้ำตาลหลังรับประทานอาหาร ในคนไข้ที่เป็นเบาหวาน ซึ่งกำลังได้รับ insulin
Combination drugs ได้มีการผลิตยาผสมให้ง่ายต่อการใช้
ส่วนใหญ่เป็น Metformin และ Sulfonylurea และยาตัวอื่น ๆ ที่ใช้ผสมกันภายในเม็ดเดียว
ซึ่งจะไม่ขอยกมากล่าวในที่นี้ เพราะเราไม่นิยมใช้กัน
ทั้งนี้ เพราะ นอกจากจะทำให้เกิดผลข้างเคียงแล้ว ยังเป็นยาที่มีราคาแพงขึ้นด้วย
และที่สำคัญ นอกจากจะทำให้การปรับขนาดของยายากแล้ว
ยังสูญเสียความถูกต้อง และแม่นยำลงไปด้วย
New type of insulin ทำให้คนไข้บางราย ได้รับยาฉีดเพียงวันละครั้ง
ซึ่งง่ายกว่าการฉีดยาบ่อยครั้งแน่นอน
Future medications มียากลุ่มอื่น ๆ ที่ถูกผลิตขึ้นมา
มียาตัวหนึ่ง ไม่กระทบต่อ insulin (ไม่เหมือนยาตัวอื่น ๆ) ทำหน้าที่ปิดกั้นร่างกาย
ไม่ให้ดูดซับเอาน้ำตาลจากปัสสาวะกลับสู่กระแสเลือด แม้ว่ายังไม่ได้รับการยอมรับจาก
FDA แต่คงไม่นานเกินรอที่เราจะได้พบเห็น
แม้ว่า ความก้าวหน้าในด้านการรักษาพยาบาลโรคเบาหวาน จะมีมานานเป็นทศวรรษแล้วก็ตาม
ยังปรากฏว่า มีคนไข้จำนวนไม่น้อย ยังได้รับการรักษาด้วยยาเดิม ๆ อยู่ดี
ยกตัวอย่าง Metformin และ sulfonylureas
ในขณะที่มียารักษาเบาหวานตัวใหม่ถูกผลิตขึ้น ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ใช้ยาตัวเก่า
แต่เป็นการเพิ่มรายการยาที่เคยมี ให้แพทย์ได้มีโอกาสเลือกเลือกใช้ในกรณีที่คนไข้
ไม่สนองตอบต่อยาที่ใช้เป็นประจำเท่านั้นเอง
ในขณะที่ยาเก่าเริ่มเกิดมีปัญหา เช่น Avandia
โดยมี FDA เข้ามามีบทบาทควบคุม (2010)ยาดังกล่าวแล้ว
ปรากฏว่า FDA ยังได้เพิ่มคำเตือนใหม่ออกมาว่า ยา Actos
ซึ่งเป็นยาในกลุ่มเดียวกับยา Avandia ตัวที่มีปัญหานั่นแหละว่า ...
สาร หรือยา Actos อาจเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการทำให้เกิดมะเร็งของกระเพาะปัสสาวะได้
ในขณะนี้ ได้มีการพัฒนาวิธีการตรวจระดับน้ำตาลในกระแสเลือดของคนไข้เบาหวาน
และ การรักษาด้วยวิธี insulin pump ไว้อย่างน่าสนใจ
โดยในขณะนี้ เขาสามารถทำการตรวจดูระดับน้ำตาลอย่างต่อเนื่องได้แล้ว
ด้วยการติด "เครื่องมือ" ตรวจวัดชิ้นเล็ก ๆ (tiny sensors) ฝังไว้ใต้ผิวหนัง
เครื่องมือดังกล่าว นอกจากจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับระดับน้ำตาล (wireless)
ไปยังเครื่องมือ เหมือนวิทยุที่ติดตัว (pager) เมื่อมันได้รับข้อมูลเกี่ยวกับระดับน้ำตาลแล้ว
มันจะทำการปรับขนาดของยา (insulin) ที่เหมาะสมกับระดับน้ำตาลในเลือด
แล้วทำการปล่อยสาร insulin ปล่อยยาเข้าสู่คนไข้ได้เอง
โดยที่คนไข้ไม่ต้องทำอะไรเลย
แต่ข้อเสียของ เครื่องมือดังกล่าว ต้องมีการเปลี่ยนทุก 3 ถึง 7 วัน
เมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน เขาตรวจน้ำตาลจากปัสสาวะด้วยแผ่น strip
ซึ่งสามารถบอกระดับน้ำตาลได้อย่างคร่าว ๆ ได้
แต่มาปัจจุบันนี้ เขาสามารถรู้ผลทุกสองสามนาที
เป็นการตรวจดูระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างต่อเนื่อง
ในคนไข้ที่รักษาด้วยการฉีด insulin pump นั้น
ปรากกว่า ในปัจจุบันได้รับการพัฒนาไปมากแล้ว
ซึ่งมีหลายบริษัทได้ผลิตเครื่องมือล้ำยุคขึ้นมา
ให้ทำหน้าที่โดยอัตโนมัติระหว่างผลของการตรวจเลือด กับ insulin pump
โดยที่เราไม่ต้องกดปุ่มเพื่อยาฉีดเลย มันจัดการของมันเอง
ซึ่งเครื่องมือดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเรียกเครื่องมือชิ้นใหม่นี้ว่า
“artificial pancreas”
Type 2 Diabetes Treatment : Lifestyle Changes
แม้ว่าโลกจะพัฒนาถึงขั้นสร้าง Artificial pancreas แล้วก็ตาม
แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ถูกต้องนี่ซิ ใคร ๆ ก็ทำได้
แต่จะทำหรือไม่นั้น ป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เราทุกคนต่างรู้กันเป็นเวลานานแล้วว่า วิถีชีวิตที่เหมาะสม
เช่น เรื่องอาการการกิน และการออกกำลังกาย
เป็นกุญแจสำคัญต่อการรักษาเบาหวานชนิดที่ 2
ผลจากการศึกษาพบว่า การควบคุมระดับน้ำตาลด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ถูกต้อง
ซึ่งหากเราสามารถกระทำอย่างจริงจัง สามารถลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจในคนเบาหวานได้
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ให้ออกกำลังกาย 150 นาที ต่อหนึ่งอาทิตย์ ชนิด aerobic
Exercise(เช่น เดิน ถีบจักรยาน วายน้ำ...) ร่วมกับ weight training (ออกแรงต้านน้ำหนัก)
สำหรับด้านอาหาร ไม่ปรากฏว่ามีสูตรตายตัวใหปฏิบัติ
แต่ละคนจะต้องปรับให้เหมาะสมกับตัวเอง
แพทย์ผู้เชี่ยวชาในเรื่องนี้ กล่าวว่า การรับประทานอาหารประเภท low carbs
และ Mediternean diet
ปรากฎว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถปฏิบัติได้ และเป็นผลดีสำหรับคนไข้เบาหวาน ที่ปฏิบัติได้
เกิดมีคำถามว่า Mediteranean diet ที่กล่าวถึงนั้นนะ...มันอะไรกัน ?
คำว่า Mediteranean Diet หมายถึงอาหารที่แพทย์แนะนำให้คนไขhรับประทาน
โดยเน้นไปที่อาหารประเภท ผัก ผลไม้ ข้าวที่ไม่ได้ขัดสี ธัญพืช ไขมันที่ได้จากพืช
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีมัน ให้ใช้น้ำมันพืช เช่นมะกอกแทน.....และดื่มไวน์เล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการง่ายต่อการปฏิบัติ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนักโพชนาการ
น่าจะเป็นการง่ายดีที่สุด เพราะเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล
จะต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลไป
ดังนั้น เราจะพบว่า แพทย์ส่วนใหญ่ที่ทำการรักษาคนไข้ที่เป็นเบาหวาน
จะไม่รอให้ได้ผลจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามทีกล่าว เพราะผลที่ได้ไม่แน่นอน
แพทย์เขาจะมุ่งตรงไปที่ “ยารักษา” เพื่อจัดการควบคุมระดับน้ำตาล
ซึ่งได้ผลตามเป้าเร็วกว่าสมัยก่อนมาก
Type 2 Diabetes Treatment: Getting control
ได้การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของการรักษาโรคเบาหวาน
ไม่ใช้มาจากยารักษาโรค หรือเครื่องมือที่ใช้ในการรักษาเลย
แต่เป็นกลยุทธในรูปแบบที่แตกต่างออกไป คือการเอาใจใส่ต่อคนไข้มากขึ้น
โดยเน้นไปที่ไปการวินิจฉัยโรคให้ได้เร็ว พร้อมกับการรักษาได้ทันที
เพราะมีหลักฐานยืนยันว่า ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้นั้น หรือถูกปล่อยทิ้งไว้...
มันมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้สูงในภายหลัง
www.diabetes.webmd.com/feature/new-treatmen
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น