วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

OSTEOPOROSIS: Treatments and drugs

Medications

ในการรักษาโรคกระดูกพรุน (osteoporosis) ด้วยยา
เท่าที่ปรากฏ มีจำนวนยาอยู่หลายตัวทีเราสามารถนำมาใช้ ทำให้มวลกระดูกไม่ให้สูญเสียไป
ที่ควรรู้ได้แก่:

 Bisphosphonate. เป็นสารที่คล้ายฮอร์โมน estrogen
สารตัวนี้ออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้กระดูดมีการสลายตัว แถมยังช่วยเพิ่มความหนาแน่น
ของเนื้อกระดูกที่บริเวณกระดูกสันหลัง และบริวณสะโพก เป็นการลดการแตกหักของกระดูกลง
ตัวอย่างของยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ alendronate (Fosamax),
Riseedronate (Actonel), ibandronate (Bonivqa)
และ zoledronic acid (Reclast)

เป็นสารที่อาจมีประโยชน์ต่อ หญิง - ชาย หรือคนไข้ที่เป็นโรคกระดูกพรุนจากการได้รับยารักษา
หรือใช้ "ป้องกัน" กระดูกพรุนจากการใช้สาร steroids ในระยะยาว
เช่น คนไข้เป็นโรคหืด หรือโรคไขข้ออักเสบ (RA)

ผลเสีย (side effects) จากการใช้ยา อาจมีความรุนแรงได้
เช่น คลื่นไส้ ปวดท้อง และ อาจเพิ่มอันตรายจากการอักเสบของหลอดอาหาร
ทำให้กลืนอาหารลำบาก

สำหรับที่ใช้อาทิตย์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง อาจมีปัญหาทางด้านกระเพาะได้น้อยมาก
ในกรณีที่ไม่สามารถรับประทานได้ เขาแนะนำให้เปลียนเป็นฉีดแทน

นอกเหนือจากนั้น bisphosphonate ยังทำให้กระดูกกรามเกิดเน่าตาย(osteonecrosis)
การเต้นของหัวใจผิดปกติ สายตาผิดปกติ
ดังนั้น ก่อนให้ยาในกลุ่มดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์ถึงผลดี และผลเสียของการใช้ยาดังกล่าวด้วย

 Raloxifene (Evista). ยาชนิดนี้ จัดอยู่ในกลุ่มของยาที่เรียกว่า
Selective estrogen Receptor modulators (SERMS)
Raloxefene จะทำหน้าที่เลียนแบบผลที่ได้จากสาร estrogen ที่มีต่อความหนาแน่นของตัวกระดูกเอง
โดยเฉพาะคนที่หมดประจำเดือน โดยที่ไม่มีผลเสียจากสารดังกล่าว
เช่น ไม่เพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง หรือมะเร็งของเต้านม

ผลเสีย (side effect) ของ Raloxefene คือการทำให้มีอาdารร้อนวูบวาบ (hot flashes)
และไม่ควรใช้ในรายที่มีประวัติว่า มีเลือดจับตัวเป็นก้อน
ยาตัวนี้ ไม่ควรใช้ในชาย แม้ว่าจากการศึกษา (จำนวนน้อย)

 Calcitonin. เป็นสารที่สร้างจากต่อมไทรอยด์ มีฤทธิ์ลดการสลายตัวของมวลกระดูก
และ ช่วยชะลอไม่ให้มีการสูญเสียกระดูกไป มันอาจป้องกันไม่ให้มีกระดูกสันหลังแตกหักได้
และอาจช่วยลดความเจ็บปวดจากกระดูกสันหลังยุบลงได้

เป็นยาที่ถูกใช้ด้วยการพ่นเข้าทางจมูก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการละคายเคืองแก่ผู้ใช้ได้
นอกจากนั้น ยังมียาที่ใช้ฉีดอีกด้วย

เนื่องจาก calcitonin มีประสิทธิภาพไม่เทียบเท่า bisphosphonate
ดังนั้นเราจtสงวนยาตัวนี้เอาไว้ ใช้ในยามที่เราไม่สามารถใช้ยาตัวอื่นได้

 Terepartide (Forteo). เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูง ถูกนำไปใช้แทนสาร
พาราไทรอยด์ ฮอร์โมน ใช้รักษากระดูกพรุนในสตรีหลังหมดประจำเดือน
และ ใช้ในชายที่มีความเสี่ยงต่อกระดูกสะโพกแตกหัก
เป็นสารที่ใช้กระตุ้นให้มีการสร้างเนื้อกระดูกขึ้นใหม่ ส่วนสารตัวอื่นใช้
เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสูญเสียมวลกระดูก

Teriparatide (Forteo) ใช้ฉีดใต้ผิวหนังวันละครั้ง โดยฉีดที่หน้าท้อง
และบริเวณสะโพก

Hormone therapy:

จากประวัติ สารที่เรียกกว่า Estrogen จะถูกใช้ทันทีหลังจากคนไข้หมดประจำเดือน
เป็นยาที่สามารถคงสภาพมวลกระดูกเอาไว้ ไม่ให้มันถูกสลายไป
แต่ผลเสียของ estrogen จะเป็นการเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเกิดการจับตัวของเม็ดเลือด(blood clot)
มะเร็งของมดลูก (endotherial cancer) มะเร็งเต้านม (breat cancer)
และอาจทำให้เดโรคของหัวใจได้

และเนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการใช้ยาดังกล่าว
แพทย์จึงไม่นิยมใช้ หันไปใช้ยาอื่นแทน

Pysical therapy:

นอกเหนือจากยาต่าง ๆ ที่กล่าวมา การออกกำลังกาย อาจช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น
ช่วยทำให้รูปทรงของเราดีขึ้น สามารถสร้างดุลให้เกิดขึ้นในระบบกล้ามเนื้อ
และอัตราเสี่่ยงต่อการเกิดการหกล้มลง

www.mayoclinic.com/health/osteoporosis/DS00128?DSECTION=treatments-and-drugs

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น