วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เอสไอวี/เอดส์ : การรักษา & ยา

อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วว่า
เอสไอวี/เอดส์ เป็นการอักเสบ ที่เราไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
แต่  เรามียาหลายขนาน  ที่สามารถใช้ร่วมกัน  แล้วสามารถควบคุม
เชื้อไวรัสได้  โดยยาแต่ละกลุ่ม (anti-HIV drugs) จะทำงานสกัด
กั้นเชื้อไวรัสได้ต่างกัน  ดังนั้น  เราจึงนิยมใช้ยาอย่างน้อยจำนวน
3 ตัว ร่วมกัน  โดยเลือกยาจากสองกลุ่ม 
เพื่อหวังผลไม่ให้เชื้อโรคดื้อยา
 
ยาที่นำมาใช้ในการรักษาได้แก่:

·       Non- nucleoside reverse transcriptase inhibitors (NNRTIs)
NNRTIs  เป็นยาที่ออกฤทธิ์  โดยไม่ให้เชื้อไวรัส HIV สามารถใช้โปรตีน 
เพื่อ จำลองตัวของมันขึ้นใหม่ให้เหมือนตัวของมันเอง
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่   efavirenz (Sustiva),  Etravirine (Intelence)
และ nevirapine (Viramune)

·       Nucleoside reverse transcriptase inhibitors(NNRTIs)
NRTIs เป็นยา ซึ่งทำให้เชื้อไวรัสไม่สามารถจำลองตัวเองได้เหมือนเดิม
(faulty version of buiding block) ซึ่งได้แก่ยาต่อไปนี้:
Abacavir (Ziagen) และ combination drugs อีกสองตัว emtricitabine + tenofovir (Truvada) และ Amivudine + zidovudine (Combivir)

·       Protease inhibitors (PIs) เป็นยาที่ทำให้เชื้อไวรัส  ไม่สามารถใช้ protease 
ซึ่งเป็นโปรตีนที่จำเป็นต่อการจำลอง (Copy) ของเชื้อไวรัส HIV ได้
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่:  atazanavir (Reyataz), darunavir (Prezista),
fosamprenavir (Lexiva) และ ritonavir (Norvir)

·       Enty or Fusion inhibitors.
ยาในกลุ่มนี้  จะทำหน้าสะกัด หรือ บล็อกไม่ให้เชื้อไวรัส HIV เข้าสู่เซลล์ CD4 ได้
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่:  enfuvirtide (Fuzeon) และ maraviroc (Selzentry)

·       Integrase inhibitors.  เป็นยาที่ทำหน้าที่ให้สาร integraseไร้ประสิทธิภาพ 
เชื้อไวรัสเอสไอวี  ไม่สามารถใช้มันเพื่อเข้าสู่เซลล์ CD4 ได้
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Raltegravir (Isentress)
เราจะให้การรักษาเมื่อ:
·       เมื่อท่านมีอาการรุนแรง
·       เมื่อตรวจพบว่า CD4 ของท่านต่ำกว่า 500
·       เมื่อท่านตั้งครรภ์
·       เมื่อท่านเกิดโรคไตจากเชื้อ HIV
·       เมื่อท่านกำลังได้รับการรักษาโรคตับอักเสบ B
การรักษาอาจยากขึ้น:
ในการรักษาด้วยยาจำนวนหลายขนาน  อาจจำเป็นต้องรับประทาน
ไปตลอดชีวิตทุกวัน  โดยมีผลข้างเคียงจากการช้ยาดังนี้:
·       Nausea, vomiting or diarrhea
·       Abnormal heartbeats
·       Shortness of breath
·       Skin rash
·       Weakened bones
·       Bone death, particularly in the hip joints
ในการรักษาโรค HIV/AIDS :
การตรวจการตอบสนองของโรคต่อการรักษา  สามารถตรวจเช็ค
ได้ด้วยการตรวจดู viral load และ CD4 counts

·       การตรวจ viral load: ควรทำการตรวจเมื่อเริ่มต้นการรักษา 
จากนั้นทำการตรวจทุก 3-4 เดือน (ระหว่างการรักษา)
·       การตรวจ CD4 ตรวจทุก  3- 6 เดือน

ในการรักษา HIV จำต้องทำให้ viral load ลดลงสู่ระดับที่ไม่สามารถตรวจ
พบเชื้อไวรัสได้...ซึ่งไม่ได้หมายความว่า  คนไข้ไม่มีเชื้อโรคไวรัสในกระแส
เลือด  คนไข้ยังสามารแพร่กระจายเชื้อโรคได้
http://www.mayoclinic.com/health/hiv-aids/DS00005

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น