มีคนพูดให้ฟังว่า อยากเรียนรู้เรื่องคน ให้หัดเล่นกอล์ฟ
ครั้งแรก เราไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่า ทำไมเขาจึงพูดเช่นนั้น...
พอมีโอกาสได้ลงเล่นเท่านั้นแหละ... มันเป็นจริงตามที่กล่าวทุกประการ
เอาแค่เดินตาม “ดู” คนเล่นเท่านั้น
เราจะมีโอกาสได้เห็นพฤติกรรมหลายอย่างของแต่ละคน
ซึ่งแสดงออกโดยไม่รู้ตัว ทำให้เราได้เห็นว่า ระดับการศึกษา หรือ
ตำแหน่งหน้าที่ ไม่สามารถปกปิดพฤติกรรมของเขาได้เลย...
นั่นเป็นเรื่องของคน พอหันกลับมาพิจารณาดูยา
ที่แพทย์เรานำไปใช้ในการรักษาคนไข้ก็มีลักษณะคล้ายๆ กับเรื่องที่กล่าวมา
หากเราไม่ทราบ และใช้ด้วยความไม่ระมัดระวัง ผลเสียหายอาจเกิดกับคนไข้ได้
เรื่องที่นำเสนอ คือ “ปัจจัยในการเลือกใช้ยาที่เกี่ยวกับระบบหัวใจ และเส้นเลือด
มีเรื่องที่ควรพิจารณาดังต่อไปนี้:
สำหรับคนเชื้อชาติผิวดำ: ยาที่เขาควรใช้ คือ ยาในกลุ่ม Calcium Channel blockers และ diuretics จะได้รับผลดีที่สุด ส่วนยาในกลุ่ม ACE inhibitors จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อใช้ร่วมกับ Diuretics
สำหรับคนมีอายุมากกว่า 60: ยาที่เหมาะกับคนสูงอายุนั้น
ควรเป็น Calcium channel blockers และ diuretics
ในกลุ่มคนสูงอายุควรหลิกเลี่ยง ไม่ใช้ยาที่จะทำให้เกิดอาการซึมเศร้าเป็นอันขาด
เช่น ยาในกลุ่มที่ออกฤทธิ์ที่สมองส่วนกลาง (centrally acting drugs)
รายที่ต้องใช้ยา Alpha blockers เช่น cardura จะต้องระวังเมื่อยืนขึ้นเร็วๆ
จะทำให้เกิดอาการวิงเวียน เพราะความดันโลหิตจะหล่นฮวบลงอย่างรวดเร็ว
(orthostatic hypotension)
สำหรับคนที่มีประสบการณ์ หัวใจเต้นเร็วมาก่อน (tachycardia):
ยาที่ควรใช้อาจเป็น beta blocker หรือ verapamil
ถ้าทั้งสองชนิดไม่ได้ผล ให้ใช้ยาขับปัสสาวะเพิ่มเข้าไป อาจช่วยได้
แต่ ต้องระมัดระวังเรื่องระดับโปแตสเซียมในกระแสเลือด ที่ลดต่ำลง
ซึ่ง สามารถกระทำได้ด้วยการตรวจดูระดับโปแตสเซี่ยมเป็นระยะ ๆ
สำหรับคนไข้ที่เคยมีประสบการณ์ของ heart attack:
beta blockers สามารป้องกันไมให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเป็นครั้งที่สองได้
จึงถือว่าเป็นยาทีนิยมใช้ในคนไข้ดังกล่าว หากคนไข้มีความดันโลหิตสูงมาก
จำเป็นต้องควบคุมระดับให้ลดลงให้ได้ ด้วยการพิ่มยาขับปัสสาวะร่วมระหว่าง thiazide + potassium-sparing diuretics
สำหรับคนที่เคยผ่านประสบการณ์ของสองขาดลือด (stroke):
ยาทีสามารถทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตลดลงอย่างฮวบฮาบ โดยเฉพาะเมื่อยืนขึ้นอย่างเร็ว ต้องหลีกเลี่ยง สามารถทำให้เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมได้
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ prazosin (Minipress), guanethidine(Ismelin) และ doxazosin mesylate (Cardura)
สำหรับคนไข้ที่มีหัวใจเต้นช้า ต่ำกว่า 50 (Bradycardia) :
ยาที่ควรหลีกเลี่ยง คือยาทีทำให้หวใจเต้นช้าลง เช่น ยากลุ่ม beta clockers, diltiazem, และ verapamil
สำหรับคนไข้ที่มีประวัติทางจิตประสาท- อาการซมเศร้า: ยาที่สามารถใช้ได้ คือ ACE inhibitors, alpha blockers, diuretics, vasodilators
และ guanethidine (Ismelin) เพราะยาพวกนี้ จะไม่ทำให้อาการของคนไข้เลวลง
หรือ กระดุ้นให้มันมีอาการเกิดขึ้นอีกได้
สำหรับยา ที่ออกฤทธิ์ต่อสมอง เช่น clonidine (Catapres), methydopa (aldomet) และ reserpine (Serpasil) ไม่ควรใช้เป็นอันขาด
·
สำหรับคนที่มีประสลการณ์เจ็บหน้าอก (angina pectoris):
ยาที่เหมาะสำหรบคนไข้ประเภทนี้ได้แก่ Beta blockers หรือ calcium channel blockers ซึ่งอาจใช้ร่วมกับ potassium-sparing diuretics
ยาที่ทำให้หัวใจเต้นเร็ว เช่น พวก vasodilators ไม่ควรใช้ หรือ ไม่ควรใช้รjวมกับ
ยากลุ่ม beta blocker
สำหรับคนไข้ที่เป็นโรคหืด (asthma) , Emphysema: ยาในกลุ่ม ACE inhibitors และ diuretics สามารถใช้กับคนไข้กลุ่มนี้ได้
Calcium channel blockers อาจป้องกันไม่ให้คนไข้เป็นโรคหืด
ไม่ให้มีอาการในระหว่างการออกกำลังกายได้
และ ที่ควรหลีกเลี่ยงทีสุด คือ beta blockers
กล่าวโดยสรุป การเล่นกอล์ฟ นอกจากได้ออกกำลังกาย และ พักผ่อนหย่อนใจ
เรายังมีโอกาสได้เรียนรู้พฤติกรรมของเพื่อนมนุษย์ได้เป็นอย่างดี
การเรียนรู้เรื่องยาก็เช่นเดียวกัน หากเราสามารถเรียนรู้เรื่องยาได้มากเท่าใด
ผลดีย่อมเกิดแก่คนไข้ หรือคนรับทานยาเองได้มากเท่านั้น
Adapted from
www.med.yale.edu/library/heartbk/23pdf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น