Symptoms:
คนไข้ที่เป็นโรค “ขาไม่ชอบอยู่เป็นสุข”
ต้องมีการคลื่อนไหว เช่น การลุกขึ้นเดินไปมา จึงจะทำให้เขารู้สึกสบายขึ้น
บางครั้งเราจะพบว่า โรคชนิดนี้พบเห็นในสมาชิกของครอบครัว
มีหลายคนมีอาการเช่นเดียวกัน
จากการศึกษาในระยะเร็วๆ นี้ พบว่า โรคนี้มักจะเกิดขึ้นในคนสูงอายุ
นอกเหนือไปจากนี้ คนที่เป็นโรคเส้นเลือดดำโป่งพอง (varicose vein)
มีโอกาสที่จเกิดอาการปวดขาชนิดดังกล่าวได้ด้วย
อาการที่พบเห็นในคนไข้ที่เป็น “ขาอยู่ไม่เป็นสุข (นิ่ง)” ได้แก่:
o ปวดขา Pain)
o กล้ามเนื้อปั้น (cramp)
o ปวดเสียว ซ่า (Tingling๗
o คัน (itch)
o ออกแสบออกร้อน (burning)
o ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ (aching)
ลักษณะเฉพาะของคนไข้ที่เป็นโรค "ขาอยู่ไม่เป็นสุข" ส่วนมากจะมีอาการที่แย่ลง
โดยเฉพาะจะเกิดในตอนกลางคืน
เป็นสาเหตุที่ทำให้คนไข้นอนไม่หลับ (insomnia)
และเป็นธรรมดาของคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ เมื่อไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ
จะเป็นเหตุให้คนพวกนี้ เป็นคนขี้หงุดหงิด โมโหง่าย ง่วงเหงาหาวนอน
และมักเป็นคนก้าวร้าว
โรคขาไม่ชอบอยู่นิ่ง จะพัฒนาอย่างช้า ๆ เมื่อเวลาผ่านไป
อาจเกิดขึ้นกับแขนได้อีกด้วย (พบได้แต่ไม่มาก)
How is restless leg syndrome diagnosed?
เราจะวินิจฉัยโรคนี้ได้อย่างไร ?
The National Institute of Health ได้ตั้งเงื่อนไขเอาไว้ว่า
คน ๆ นั้น
จะเป็นโรค “ขาอยู่ไม่เป็นสุข” เขา จะมีต้องมีอาการ 4 อย่างต่อไปนี้:
o มีความอยากอย่างมาก ที่จะต้องขยับขาให้ได้ แต่ก็ไม่เสมอไปหรอก
มันมักจะเกิดขึ้นร่วมกับความไม่สบายของขา ในรายที่เป็นมาก ๆ
คนไข้จะมีอาการอยากจะขยับแขนด้วย
o อาการจะเริ่มเกิดขึ้น หรือ มีอาการเลวลงเมื่อคนไข้อยู่นิ่ง ๆ
หรือเกิดขึ้นขณะนอนพักผ่อน
o อาการปวดขาจะหายเมื่อมีการเคลื่อนไหวขาด้านที่ปวด โดยเฉพาะเมื่อเดิน
o อาการต่างๆ จะเริ่มเกิด หรือเลวลงในตอนเย็น หรือตอนกลางคืน
มีโรคอยู่มากมาย ที่อาจมีลักษณะอาการเหมือนโรคขาไม่อยู่สุข ได้แก่:
o Parkinson’s disease
o Fibromalgia
o Muscle diseases
o โรคไขข้อ (Joint diseases)
o Peripheral neuropathy จากโรคเบาหวาน
ในเด็กเล็กที่มีอาการของโรคปวดขาดังกล่าว มักจะวินิจฉัยผิด
คิดว่าเป็นอาการปวดขามีสาเหตุมาจากเด็กกำลังเจริญเติบโต
แต่แท้จริงไม่ใช่ เขาเป็นโรคปวดขาจาก “ขาอยู่ไม่เป็นสุขนั้นเอง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น