วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Do You Have Arthritis ? ( 3 ) : Fibromyalgia & Gout

Aug. 27,2013

Fibromyalgia
เป็นอีกโรคหนึ่ง...ที่ไม่เหมือนกับโรคชนิดอื่นซึ่งมีการทำลายข้อ
แต่มันจะเป็นโรคของเนื้อเยื่ออ่อน (soft tissues)
เช่น กล้ามเนื้อมากกว่าที่จะเป็นกระดูก และข้อ

ในตอนเริ่มต้น โรค fibromyalgia ได้สร้างความสับสนให้แก่แพทย์เป็นอย่างมาก
เพราะพวกเขาไม่สามารถพบเห็นความผิดปกติทางร่างกาย 
หรือมีบาดเจ็บใดปรากฏให้เห็นได้  

แต่สุดท้ายผลที่ได้จากการวิจัย พบว่า โรค fibromyalgia อาจเป็นผลมา
จากการเสียดุลย์ของสารเคมีบางอย่างภายในร่างกาย เช่น serotonin โดยสารดัง
กล่าวอาจทำให้สมองรับทราบความเจ็บปวดได้มากกว่าปกติ  หรืออาจกระทบกับ
การหลับลึก เป็นเหตุให้ไม่สามารถฟื้นตัวสู่สภาพที่พร้อมจะทำงานได้ตามปกติ
และเป็นการเพิ่มความไว (sensitive) ต่อความเจ็บปวดได้มากขึ้น

คนที่เป็นโรค fibromyalgia...
จะรู้สึกความเจ็บปวดใoบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เราเรียกว่า “จุดกดเจ็บ”
(tender points) และจุดกดเจ็บดังกล่าว มักจะอยู่ในตำแหน่งใกล้ข้อต่างๆ
มีการเพิ่มความไวต่อสิ่งกระตุ้น...
ซึ่งสามารถทำให้เกิดความเจ็บปวดได้อย่างมาก


The location of the nine paired tender points that comprise 
the 1990 American College of Rheumatology criteria for fibromyalgia.
Go to link.:http://www.news-medical.net/health/Fibromyalgia-Diagnosis.aspx

ในการรักษาอาการปวดจากโรค fibromyalgia...
ส่วนมากแพทย์จะสั่งยา เพื่อจัดการกับการเสียดุลของสาร serotonin และ
สารสื่อประสาท (neurotransmitters) ตัวอื่น ๆ

ยาที่ใช้ในการรักษา ได้แก่ antidepressants เช่น selective serotonin
Rep-uptake inhibitors (SSRIs) และ anticonvulsant drugs
เช่น pregabalin (Lyrica) ซึ่งเป็นยาตัวแรกที่ได้รับการยอมรับให้นำมาใช้ใน
การรักษาโรค fibromyalgia pain

สวนใหญ่ โรคข้ออักเสบทั้งหลาย จะก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดเพิ่มขึ้น
อย่างช้าๆ ตามเวลาที่ผ่านไป  แต่สำหรับคนเป็นโรคเก้า (gout) ไม่เป็นเช่นนั้น
ท่านอาจรู้สึกสบายเป็นปกติ แต่พอตื่นในตอนเช้าเท่านั้นแหละ  
ท่านจะมีอาการปวดอย่างเฉียบพลัน มีอาการเจ็บเมื่อสัมผัสถูก

โรคเก้ามักจะโจมตีข้อใหญ่  เช่น ข้อหัวแม่เท้า (great toe)  แต่สามารถเกิดขึ้น
กับข้ออื่น ๆ เช่น เท้า, ข้อเท้า, หัวเข่า, ข้อศอก, มือ, ขือมือ 
และบางครั้งอาจเกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อ หรือเอ็นต่างๆ ได้

โรคเก้า เป็นผลมาจากภาวะที่เราเรียกว่า hyperuricemia
ซึ่งเป็นภาวะที่มีระดับของกรด uric ในกระแสเลือดสูง...โดยกรดดังกล่าว
จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลง (break down) ของสาร purines ซึ่งได้จากการรับ
ประทานอาหารประเภทพืช ( หน่อไม้) และเนื้อสัตว์

ในบางคน สามารถสร้างกรด uric ได้มากเกินปกติ แต่บางคนสร่างได้น้อย
แต่ไตกลับไม่สามารถขับกรด uric ออกทิ้งได้ เป็นเหตุให้มีระดับกรด
ดังกล่าวในกระแสเลือดสูง

เมื่อร่างกายไม่สามารถขจัด uric acid ที่สูงเกินปกติออกจากร่างกายได้...
มันจะตกตะกิอน เป็นคริสตอลในน้ำของไขข้อได้ เป็นเหตุให้เกิดการอักเสบ, ข้อบวม 
และมีอาการเจ็บปวดเกิดขึ้น

และหากโรคเก้าไม่ได้รับการรักษา..คริสตอลของกรด uric จะสร้างเป็น
ก้อน (tophi-lumps) ในข้อต่าง ๆ และเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ ข้อ

ในการรักษาโรคเก้า มีเป้าหมายสองประการ:
ประการแรก คือการควบคุมอาการปวด และลดการอักเสบที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน 
ซึ่งสามารถกระทำได้ด้วยยากลุ่ม NSAIDs, corticosteroids,
และยาที่สกัดจากพืช เรียก colchicine

ภายหลังจากควบคุมอาการปวด และการอักเสบได้แล้ว
ซี่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาไม่กี่วัน  ต่อจากนั้น แพทย์จะสั่งยาเพื่อควบคุมระดับของ uric 
ในกระแสเลือด พร้อมกับแนะนำให้คนไข้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ดื่มน้ำให้มาก, 
งดเว้นการดื่มแอลกอฮอล และหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่มี purine สูง 
( เช่น หน่อไม้, เครื่องในสัตว์ และของทะเล)...
ย่อมสามารถป้องกันไม่ให้โรคเก้ากำเริบขึ้นได้
Other Arthritis-Related Diseases:
มีโรคข้ออักเสบอีกหลายอย่าง และโรคที่มีส่วนสัมพันธ์อย่างอื่น ซึ่งสามารถทำให้
เกิดอาการเจ็บปวดข้อขึ้นได้  
ในคนเป็นโรคเก้า...เราจะพบคริสตอลในกระแสเลือด และเข้าไปอยู่ในข้อต่างๆ 
เช่น ข้อนิ้วเท้าหัวแม่เท้า ทำให่เกิดการอักเสบ และมีอาการปวด

โรคเก้าเกิดขึ้นเมื่อระดับของสารที่เรียกว่า uric acid มีมากเกินกว่าไต
จะจัดการได้ และยาต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้รักษาโรคเก้า จะจัดการกับการ
สร้างกรด Uric acid ไม่ให้มันสร้างมากไป และช่วยให้ไตทำการขับถ่าย
กรด uric ได้อย่างมีประสิทิภาพ...สามารถลอาการเจ็บปวดลงได้

โรคไขข้ออักเสบชนิดอื่นๆ ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดเรื่อรัง
ได้แก่ ankylosing spondylitis ซึ่งจะเกิดขึ้นกับกระดูกสันหลัง และข้อ
ของกระดูกเชิงกราน, โรค polymyalgia rhuematica จะถูกระตุ้น
โดยการอักเสบของเส้นเลือด ซึ่งจะนำไปสู่อาการปวด และบวมเกิดขึ้น

นอกจากนั้น ยังมีโรคอย่างอื่นที่ทำให้เกิดมีอาการปวด ได้แก่ เอ็นอักเสบ
(tendinitis) และถุงน้ำกันการเสียดสี (bursa) เกิดการอักเสบ (bursitis)
สามารถก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดได้อย่างรุนแรงได้เช่นกัน

ในคนไข้เหล่านี้...
แพทย์อาจทำการยุติสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบด้วยการใช้ยา DMARDs
หรือควบคุมการอักเสบด้วยการใช้ยากลุ่ม NSAIDs
และในคนไข้ทุกราย เนีะ
ซึ่งเป็นโรคที่มีความสัมพันธ์ กับข้ออักเสบ อาจได้รับยา
แก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดได้
<<Prev

http://www.arthritistoday.org

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น