วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Managing Your Back Pain at Home (2 )


Aug. 5, 2013

(continued)                          
Over-the-Counter Pain Relievers
ยาที่ท่านสามารถซื้อหาได้จากร้านขายยา เพื่อใช้ลดอาการปวดหลัง
ได้แก่ acetaminphen (Tylenol) หรือยาในกลุ่ม NSAIDS (anti-
Inflammatory drugs) เช่น ibuprofen (Advil) และ naproxen
(Aleve) ซึ่งทั้งสองอย่างสามารถลดอาการปวดหลังได้ โดยเราไม่
สามารถบอกได้ว่า ยาตัวใหนดีกว่ากันระหว่าง acetaminphen และ
ยากกลุ่ม NSAIDs

(Go to...: http://www.webmd.com/)


เมื่อเราไม่สามารถบอกได้ว่า ยาตัวใดดีกว่ากัน...
มีสิ่งหนึ่งที่อาจช่วยให้ท่านตัดสินใจได้ง่าย นั้นคือผลข้างเคียงที่จะเกิด
จากการใช้ยา

ผลข้างเคียงจากการใช้ยาในกลุ่ม NSAIDs คือ มันทำให้เกิดมีปัญหาใน
กระเพาะ-ลำไส้ และไตได้ ส่วนยา acetaminophen สามารถทำให้เกิด
อันตราย (damage) ต่อตับ แต่ในคนไข้ส่วนใหญ่...
ท่านจะต้องรับประทานยาในขนาดสูง และเป็นเวลานาน
จึงจะก่อให้เกิดอันตราย (damage) ต่อร่างกายได้

การใช้ยาที่เป็นครีม หรือเจล ซึ่งมีส่วนประกอบของสาร capsaicin,
Salicylate, camphor, eucalyptus oil และ menthol
อาจช่วยทำให้อาการปวดหลังดีขึ้นได้

Exercise

(Go to: http://lowerbackpainrelieve.blogspot.com/)

กีฬาเป็นยาวิเศษ...
แม้ว่าเราจะไม่มีท่าเฉพาะของการบริหารร่างกาย เพื่อลดอาการ
ปวดหลังได้ก็ตามที แต่ โดยทั่วไปแล้ว การออกกำลังกายเป็นสิ่ง
สำคัญสำหรับคนส่วใหญ่ที่มีอาการปวดหลัง เพื่อทำให้ร่างกาย
ของเขาสามารถเคลื่อนไหวได้ (mobility)

ถ้าท่านเคยได้รับการรักษาด้วยกายภาพบำบัดมาก่อน และรู้ด้วยว่า
ท่านจะทำอย่างไร...ขอให้ท่านจงเริ่มบริหารร่างกาย ด้วยการออก
กำลังกายอย่างช้าๆ และนุ่มนวล

แต่ถ้าท่านไม่ทราบว่า...ท่านควรบริหารร่างกายอย่างไร...
ท่านต้องปรึกษาแพทย์ หรือนักกายภาพบำบัด เพื่อให้เขาแนะนำ
ว่าท่านควรเริ่มต้นอย่างไร

นักกายภาพบำบัด อาจช่วยท่านให้บริหารร่างกาย เพื่ช่วยทำให้
เกิดมี “ช่องว่าง” ระหว่างกระดูกสันหลังเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้แรงกด
ที่เกิดขึ้นกับเส้นประสาทลดลง

การบริหารร่างกายด้วยการยืดเส้น (stretching) ของกล้ามเนื้อหลัง
ส่วนล่าง และสะโพก และบริหารเพื่อให้กล้ามเนื้อเข็งแรง
ซึ่งสามารถทำให้อาการปวดลดลง การเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลัง
ส่วนล่างเพิ่มขึ้น

ท่านอาจทำการบริหารร่างกายด้วยการท่า extension exercise ซึ่ง
กระทำได้ด้วยการยกขา สามารถอาการปวดที่ร้างไปยังขา (radiating
Pain) ได้

นอกจากนั้นท่านจำเป็นต้องบริหารด้วยรูปแบบ “แอโรบิค”
เพื่อทำให้ร่างายโดยรวมอยู่ในสภาพที่แข็งแรง

โดยสรุป..
การบริหารร่างกาย จัดเป็นหัวใจของการรักษา ซึ่งท่านสามารถกระทำได้เอง
และมีข้อควรจำ คือ ในระหว่างที่กล้ามเนื้อมีการหดเกร็ง (spasm) อย่างเพิ่ง
บริหารร่างกาย จงรอให้การหดเกร็งของกล้ามเนื้อหายไปก่อน จากนั้น ท่าน
จึงเริ่มต้นบริหารร่างกายอย่างช้าๆ ด้วยการยืดกล้ามเนื้อ
(stretching your muscles)

<< Previous

http://www.webmd.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น