Dec. 23,2013
ในการใช้ยาต้านไวรัสเพื่อรักษาคนติดเชื้อ HIV ในปัจจุบันจะใช้ยา
จำนวนสองขนาน หรือมากกว่าสองขนานขึ้นไปร่วมกัน
เราเรียกว่า combination therapy และบางทีการให้ยาสามตัว
หรือมากกว่าขึ้นไป ซึ่งเราเรียกว่า Highly Active Antiretroviral Therapy
(HAART)
ถ้าใช้ยาต้านไวรัสเพียงตัวเดียว...
เชื้อเอชไอวี (HIV) สามารถสร้างความต้านทานต่อยาที่ใช้ (drug resistance)
เป็นเหตุให้ยาไม่สามารถจัดการกับเชื้อไวรัสเอชไอวีได้
และในการใช้ยาต้านไวรัส (antiretrovirals) ตั้งแต่สองตัวขึ้นไปร่วม
กัน สามารถลดอัตราการเกิดภาวะดื้อยาของเชื้อโรคได้ลงได้สูง
ในปี 2013 The World Health Organization (WHO) ได้เสนอแนวทางการรักษา
ด้วยการใช้ยาต้านไวรัส (antiretrovirals) เอาไว้ ดังนี้:
o Adults and Adolescents: ให้แนะนำให้ใช้ First line therapy
ซึ่งประกอบด้วยสองกลุ่มร่วมกัน นั้นคือ Nucleoside reverse-transcriptase inhibitors
(NRTIs) + Non-nucleosice reverse-transcriptase inhibitor (NNRTI)
ยาที่ใช้ร่วมกันเป็นเม็ดเดียวกัน (fixed-dose combination) ที่มีการใช้
กันบ่อยได้แก่:
o TDF – Tenofovir
o 3TC – Lamivudine หรือ FTC – Emtricitabine
o EFV – Efavirenz
ในการเลือกใช้ยาต้านไวรัส (antiretrovirals) ย่อมขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง
เช่น ราคาของยา ซึ่งมีราคาแพง, จำนวนเม็ดยา, ผลข้างเคียงของยา, และอื่น ๆ
คนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อเอชไอวี ที่อาศัยในโลกที่สาม พบว่าการเข้าถึงยา
Anti-retrovirals เป็นไปด้วยความลำบากมาก ๆ และส่วนใหญ่จะได้รับยารักษา
ก็ต่อเมื่อระบบภูมต้านทานของเขาได้ถูกทำลายลงอย่างมากแล้ว
และการรักษาดังกล่าว จะได้รับผลในระยะสั้นๆ เท่านั้น แต่ไม่สามารถแก้ปัญหา
ที่ทำให้เกิดความบกพร่องในระบบภูมิต้านทานเลย
ในการเริ่มต้นการรักษา...
การให้ยาหลายขนานรวมกันในเม็ดเดียว (combination of drugs)
ซึ่งเราเรียกว่า first line therapy นั้น หากให้การรักษาได้สักระยะหนึ่ง ปรากฏว่า
เชื้อไวรัสต่อต้านยารวมดังกล่าว หรือเกิดผลข้างเคียงขึ้นอย่างรุนแรง....
การรักษาจะต้องเปลี่ยนเป็น second line therapy
สำหรับยากลุ่มที่สอง (Second line therapy) ที่ WHO แนะนำให้ใช้นั้น
ได้แก่ NRTIs และ ritonavir-boosted protease inhibitors (PI)
<< PREV NEXT >> HIV (P 6 ): How many HIV and AIDS drugs are there?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น