Dec. 8, 2013
มีปัจจัยหลายอย่างทำให้คนสูงอายุวัยมากกว่า 65 ต้องรับทานยา
หลายขนานมากกว่าอดิต ทั้งนี้เป็นเพราะมียาหลายขนานถูกผลิต
ขึ้นเพื่อใช้รักษาโรค...
ผลจากการมียาจำนวนมากๆ ดังกล่าว ได้เป็นเหตุนำไปสู่การใช้ยามาก
เกินความจำเป็น และเป็นการใช้ยาได้ไม่เหมาะสม ยกตัวอย่าง
มียาหลายตัว ซึ่งครั้งหนึ่งคนไข้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อแพทย์เป็นสั่งเท่านั้น
เช่น omeprasol เป็นยาลดกรดในกระเพาะ และ claritin (loratidine) เป็นยา
แก้แพ้ลดน้ำมูก แต่มาในตอนนี้ คนไข้สามารถซื้อจากร้านขายยาได้
นอกเหนือไปจากนี้ ยังปรากฏว่า มีอาหารเสริม (complementary) และ
แพทย์ทางเลือก เช่น การใช้สมุนไพร ซึ่งปรากฏว่ามีการใช้กัน
ในประชาชนทั่วไป รวมทั้งคนสูงอายุด้วย
เมื่อเปรียบเทียบกับประชาชนโดยทั่วไป...
เราจะพบว่า คนที่มีอายุมากกว่า 65 มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเรื้อรังกัน
หลายโรค ซึ่งแต่ละโรคจำเป็นต้องใช้ยาอย่างน้อยๆ 1 ขนาน
จึงมีโอกาสได้ใช้ยากันหลายขนาน
จากการที่มีโรคหลายชนิด จึงทำให้คนสูงอายุมีโอกาสพบแพทย์
หลายสาขา และแพทย์แต่ละคนจะสั่งยาที่แตกต่างกัน หรืออาจซ้ำกัน
เป็นเหตุให้คนสูงอายุใช้ยาจำนวนมากขึ้น
ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้ยา...
เราจะพบว่า มีแนวโน้มจะเกิดได้น้อยมากหากคนไข้ได้รับยาจากแพทย์
คนเดียว หรือเภสัชกรคนเดิม
มีปัจจัยอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งก่อให้มักจะก่อให้เกิดปัญหาแก่คนไข้...
นั้นคือ เมื่อคนไข้สูงอายุเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา แพทย์กลับ
คิด ว่า เป็นอาการของอีกโรคหนึ่ง พร้อมกับสั่งจ่ายยารักษาแก่
คนไข้แทนการหยุดยา...ยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอันตรายแก่คนไข้
<< PREV NEXT >> Part 3 : Aging affects drug sensitivity
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น