Dec. 19,2013
เกิดมีปัญหาว่า...
กลยุทธการตรวจ และการรักษาจะได้ผลหรือไม่?
ถ้าคนเราเดินทางผ่านไปยังซีกโลกที่ไม่สามารถทำการตรวจหา HIV,
หรือให้การรักษาคนไข้ดังกล่าวได้...ผล.จะทำอย่าไร ?
คงได้แต่ภาวนาเท่านั้นมั้ง !
HIV testing:
เมื่อมีคนถูกข่มขืนทางเพศ มลทินที่เกิดขึ้น ย่อมก่อให้เกิดความอับอาย
แก่ผู้เป็นเหยืออย่างแน่นอน และการที่เขาจะได้รับการตรวจดูว่า
ฃเขาติดเชื้อ หรือไม่ย่อมใช้เรื่องง่ายนัก
ในสหรัฐฯ อเมริกา มีรายวานว่า หนึ่งในจำนวนห้าคนที่เป็นโรคเอชไอวี
ไม่ค่อยจะใสใจในการอักเสบติดเชื้อเอชไอวีของตนเลย
และมีคนไข้เป็นจำนวนไม่น้อย จะได้รับการตรวจก็ต่อเมื่อ เขามีการติดเชื้อ
ฉวยโอกาสขึ้น (opportunistic infection) เท่านั้น
ได้มีการคำนวณเอาไว้ว่า...
การให้ยาต้านไวรัสเพื่อการป้องกันการแพร่กระจายโรค (treatment as Prevention)
ในระดับของแพทย์ และยุคลากรทางการแพทย์ พบว่า
75 %ของคนที่เป็นโรคเอชไอวี ควรต้องได้รับการวินิจฉัย และให้การรักษา
และสิ่งกีดขวางต่อการป้องกันไม่ให้คนได้รับการตรวจ ฃ
ควรได้รับการแก้ไขให้หมดไป
HIV Treatment:
มีหลายประเทศที่พบว่า จำนวนของประชาชนสามารถเข้าถึง และได้รับการรักษาโรค
เพิ่มขึ้น ในปัจจุบัน พบว่า มีเพียง 65 % ของคนที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา
และประมาณ 12 ประเทศที่มีรายได้ระดับต่ำ ถึงปานกลางสามารถเข้าถึงการรักษาฃ
ได้ตามระดับสากล
ในขณะเดียวกัน มีหลายประเทศที่มีการจำกัดการเข้าถึงการรักษา แม้ว่ามีการรักษา
ก็ตามที แต่เขาไม่สามารถได้รับการรักษานั้น ที่เป็นเช่นนั้น เป็นเพราะเขากำหนด
ให้ได้รับยาต้านไวร้ส (antiretroviral drugs) จนกว่าระดับ CD 4 จะลดต่ำกว่าเสียก่อน
ในกรณีที่ติดเชื้อเอชไอวี แต่ CD4 ยังไม่ลดต่ำไม่ได้รับการรักษา...
เป็นเพราะเรายังไม่มีเงินทุนมากพอที่จะให้การรักษาคนที่ติดเชื้อ โดยให้เหตุผลว่า
ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่ถูกทำลายมากพอนั่นเอง
HIV care:
ในคนที่เป็นโรคเอชไอวี...
ในเมื่อจะมีชีวิตร่วมกับโรคเอชไอวี..เขาจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ให้การรักษา
ด้วยการกินยาต้านไวรัส (antiretrovial therapy) อย่างเคร่งครัด
และทำให้จำนวนของเชื้อไวรัส (viral load) ให้ลดต่ำให้มากที่สุด
<< PREV
http://www.avert.org/world-aids-day.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น