วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เมื่อคนเราเป็นมะเร็งตับ Part 7 : Screening abd Diagnosis

Dec. 12, 2013

มีปัจจัยหลายอย่าง  ที่สามารถดำเนินสู่การเป็นโรคตับเข็ง (cirrhosis)
ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นโรคไวรัสตับอักเสบ Hepatitis B และ C, ดืมแอลกอ
ฮอลมากเป็นอาจีณ, ได้รับสารพิษจากเชื้อรา (aflatoxins),
และ non-alcoholic fatty liver disease.

จากปัจจัยสี่ยงดังกล่าว ต่างสามารถทำให้เกิดมะเร็งของตับได้แตกต่าง
กันดงนี้:

 Persistent Hepatitis B Infection > 50 %
 Persistent Hepatits Cinfection 25 %
 Excess Alcohol 32 – 45 %
 Mould Aflatoxins
 Non-alcoholic liver disease

โดยตับอักเสบ B มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้มากกว่า 50 %,
ไวรัสตับอักเสบ

สำหรับท่านที่มีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว หากเป็นไปได้ ควรปรึกษาแพทย์
ผู้ชำนาญการเฉพาะทางโรคตับ  เพื่อทำการตรวจค้นหาโรคมะเร็งตับ
ให้ได้แต่เนิ่น ๆ และเพื่อให้ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
ก่อนที่โรคมะเร็งจะกระจายไปยังที่อื่น

โดยทั่วไป แพทย์อาจตรวจพบมะเร็งของตับขจากการเช็คร่างกายตามปกติ
โดยการตรวจพบก้อนในช่องท้อง หรือพบได้จากการตรวจพิเศษ
ด้วยภาพ (imaging exam.) เช่น ultrasound, computed tomography
(CT) scans, หรือโดยการตรวจ Magnetic resonance

เพื่อยืนยันคำวินิจฉัยโรคมะเร็งตับ แพทย์อาจใช้การตรวจ (exams/tests)
ดังต่อไปนี้:

การตรวจเลือดทางห้องปฏิบิการณ์ (Blood tests): ซึ่งได้แก่

o Complete blood count (CBC) เป็นการตรวจวัดจำนวนเม็ดเลือดแดง,
เม็ดเลือดขาว, กล็ดเลือด และระดับ hemoglobin

o Alpha-fetoprotein Tumor Marker Test (AFP): เป็นการตรวจประ
เมินดูระดับของ Protein AFP ในกระแสเลือด

การที่มีระดับ AFP ในกระแสเลือด อาจชี้บ่งให้เกิดความสงสัย
ว่า คนไข้มีมะเร็งของตับ

o Ultrasound:
เป็นการตรวจภาพของอวัยวะด้วยการใช้คลื่นเสียง (sound wave)
และอวัยวะส่วนอื่น ๆ  เป็นการตรวจเพื่อค้นหารอยโรค (solid lesions) ภาย
ในตับ  ซึ่งถูกนำมาใช้กันบ่อยๆ โดยเฉพาะในรายที่มีความเสี่ยงต่อการ
เกิดมะเร็งตับ  และผลที่ตรวจพบ ไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นมะเร็งชนิดใด

o Computed tomography (CT) scans

o X-rays เป็นการตรวจดูภาพภายในร่างกาย

o Magnetic resonance imaging (MRI) scans
เป็นการใช้คลื่นแม่เหล็ก และคลื่นวิทยุ เพื่อสร้างภาพของอวัยวะ
ต่างๆ ภายในร่างกาย

ผลที่ได้จาก CT และ MRI จะมีความแม่นยำกว่าการตรวจด้วย ultrasound ถูกนำ
มาใช้เพื่อตรวจหารอยโรค Hepatocellular carcinoma ซึ่งทั้งสองวิธีสามารถ
บ่งบอกจำนวนเนื้องอกที่อยู่ในตับ และสามารถเห็นเส้นเลือดแดง และเส้นเลือด
ตำที่อยู่ในบริเวณตับอีกด้วย

นอกจากนั้น ยังมีการตรวจ CT หรือ MRI ในบางราย....
ซึ่งท่านอาจได้รับการฉีดสารทึบแสงเข้าทางเส้นเลือด ซึ่งอาจช่วยให้เห็นภาพ
ของอวัยวะ และโครงสร้างภายในได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

o Biopsy:
เป็นการตรวจชิ้นเนื้อที่เจาะเอามาจากตับ และนำมาตรวจดูเซลล์มะเร็ง
ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ซึ่งผลที่ได้สามารถบอกให้ทราบว่า มะเร็งนั้น
มีจุดเริ่มต้นในตับ หรือมาจากที่อื่น


<< PREV         NEXT >>  เมื่อคนเราเป็นมะเร็งตับ Part 8 : TREATMENT

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น