วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การเลปี่ยนแปลงฤทธิ์ของยาในคนสูงอายุ ( 5 ) (Altered Drug action in Aging) : Case Discussions

JUn 2013

ประเด็นสำคัญที่น่าศึกษาจาก
Mr. Brown (Case I) และ Mrs. Smith (Case II)

Mr. Brown ใช้ยา diazepam สำหรับอาการเครียด และนอนไม่หลับเป็น
บางครั้ง

จากที่กล่าวมา จะพบว่า ในคนสูงอายุที่ใช้ยา diazepam จะมีการ
การกระจ่ายตัวได้เพิ่มขึ้น และในขณะเดียวกันมักจะมีอัตราการ
การเปลี่ยนแปลงทางเคมี หรือการเผาผลาญลดน้อยลง
ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงทั้งสองประการ จะทำให้ยา Diazepam
อยู่ในร่างกายนานขึ้น (extended half-life) และออกฤทธิ์นานขึ้น

ในการใช้ยาเพื่อช่วยให้นอนหลับ...
เราควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ออกฤทธิ์นาน  เพราะจะก่อให้เกิดอาการ
ง่วงนอนในตอนกลางวัน และอาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นได้
นอกจากนั้น เรายังพบว่า คนสูงวัยจะมีความไว (more sensitive) ต่อ
ยา benzodiazepines ที่มีผลทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้มาก
ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการหกล้ม ทำให้กระดูกแตกหักได้

สมมุติว่า Mr. Brown เป็นคนผอม มีมวลกล้ามเนื้อน้อย
มีน้ำหนัก 60 Kg. และตรวจวัด serum creatinine ได้ 0.8 mg/dL
(ค่าปกติ 0.6 – 1.2 mg/dL) เราสามารถคำนวณหาค่า eGFR
ตามสูตรของ Cockcroft-Gault จะได้ค่า estimated creatinine
clearance ประมาณ  64 mL/min

เราต้องระมัดระวังในการใช้ยา metformin (ยารักษาโรคเบาหวาน) 
โดยหลีกเลี่ยงไม่ใช้ยาดังกล่าวในกรณีที่ creatinine Clearance มีค่า
ต่ำกว่า 60 ml/min เพราะยาตัวดังกล่าวจะต้องถูกขจัดออกจากร่างกาย
ทางไตเป็นหลัก  มิฉะนั้นมันอาจทำให้เพิ่มความ
เสี่ยงต่อการเกิด lactic acidosis ได้

Mrs. Smith เธอได้รับยาต้านการจับตัวของเม็ดเลือด (anticoagulant)
ชื่อ Coumadin® ซึ่งได้รับการเพิ่มขนาดของยาในวันออกจาก
โรงพยาบาล  โโยแพทย์ไม่มีทางตรวจทราบได้ว่า full therapeutic effect 
ในระยะสั้น ๆ ได้ ทั้งนี้เพราะยาดังกล่าวมีอายุยาว และมีฤทธิ์ยาวนาน...

นอกจากนั้น ในคนสูงอายุจะมีความไวต่อ warfarin ได้เพิ่มขึ้น
ดังนั้น ในการให้ยา warfarin แก่คนสูงอายุควรเริ่มได้รับยาในขนาด
ต่ำ จนกว่า ระดับยาต้านการจับตัวของเม็ดเลือดจะคงที่

สำหรับ Mrs. Smith มีความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดตก (bleeding) ได้สูง
ซึ่งควรได้รับการตรวจ และติดตามอย่างใกล้ชิด

Mrs. Smith เธอได้รับยา digoxin (Lanoxin®)…
ซึ่งถูกกำจัดจากร่างกาย โดยผ่านทั้งกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางเมท
ตาบอลิค และขจัดออกทางไต  และมีการกระจายตัวในกล้ามเนื้อ

ในกรณีที่การทำงานของไตลดลงตามอายุที่แก่ขึ้น ประกอบกับมวลกล้ามเนื้อ
ของเขาลด จะเป็นเหตุให้มียา digoxin อยู่ในร่างกายสูงขึ้น
ย่อมทำให้เกิดความเสี่ยงต่อฤทธิ์ที่เป็นพิษของ digoxin ได้

นอกจากนั้น Mrs. Smith เธอรับประทานยา omeprazole (Prilosec®)
ซึ่งเป็นยาที่ทำให้ยา digoxin ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตได้เพิ่มขึ้น
ในกรณีดังกล่าว เธอควรได้รับการตรวจตราดูความเข็มข้นของยาเป็น
ระยะ เพื่อป้องกันไม่ให้ยา digoxin มีปริมาณในเลือดสูงเกินจนเกิดเป็นพิษ 
ทั้งนี้เพราะยา digoxin เป็นยาที่มีช่วงของการรักษาต่ำ
(narrow therapeutic range)

 >>  Prev




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น