วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Wolff-Parkinson-White syndrome 2


Signs and tests:


ในขณะที่หัวใจคนไข้เกิดเต้นเร็วนั้น  หากเราตรวจดูจะพบว่า  
หัวใจเต้นเร็วได้มากว่า 230 ครั้งต่อนาที  และความดันโลหิตอาจปกติ 
หรืออาจต่ำกว่าปกติได้

ในคนปกติที่เป็นผู้ใหญ่  อัตราการเต้นของหัวใจ  เต้นได้  60 – 100 ครั้ง
ต่อหนึ่งนาที  ส่วนในเด็กแรกเกิด  และเด็กเล็กจะเต้นได้
ประมาณ 150  ครั้งต่อหนึ่งนาที


ในขณะที่คนไข้มีการเต้นของหัวใจปกติ
การตรวจร่างกาย  โดยเฉพาะการเต้นของหัวใจย่อมอยู่ในสภาพปกติทุกประการ

มีวิธีการตรวจเรียก EPS อาจช่วยให้เราทราบตำแหน่งของทางเดินคลื่น
กระแสไฟฟ้าของหัวใจที่เกิดเพิ่มได้

WPW syndrome อาจตรวจพบด้วยวิธีการตรวจต่อไปนี้:

§  ตรวจด้วยเครื่องตรวจคลื่นหัวใจ EKG  อาจตรวจพบคลื่นผิดปกติ
§  Delta wave
§  การตรวจด้วย Holter monitor ซึ่งติดไว้กับตัวคนไข้ตลอดเวลา
Treatment:
ในคนไข้ที่เป็นโรค WPW syndrome ซึ่งมีการเต้นหัวใจเร็วเกิน  สามารถ
ควบคุม  หรือป้องกันได้ด้วยการใช้ยา  เช่น  adenosine, antiarrhythmia
และ amiodarone


ในรายที่เราไม่สามารถควบคุมหัวใจเต้นเร็วได้  
แพทย์อาจใช้วิธีการรักษาด้วยการช๊อกด้วยกระแสไฟฟ้า เรียก electrical 
cardioversion

แต่ในปัจจุบัน  เรานิยมรักษาภาวะ WPW syndrome ด้วยวิธีทำลายตำแหน่งใน
หัวใจที่ทำให้หัวใจเต้นเร็ว เราเรียกว่า  radiofrequency  Ablation 

ซึ่งกระทำได้โดยการสอดใส่สาย catheter ผ่านเส้นเลือด
แดงตรงตำแหน่งขาหนีบ (groin) เข้าสู่หัวใจ เมื่อปลาย catheter
ถึงตำแหน่งที่ทำให้หัวใจเต้นได้เร็ว  แพทย์เขาก็ใช้คลื่นวิทยุทำลาย
ทำลายตำแหน่งดังกล่าว...

ในการผ่าตัดหัวใจ (open heart surgery)…
อาจนำมาใช้รักษา WPW syndrome  ให้หายขาดได้
อย่างก็ตาม  การผ่าตัดหัวใจจะกระทำก็ต่อเมื่อแพทย์เขามีเหตุอย่าง
อื่นมากกว่าที่จะทำเพื่อ WPW syndrome แต่เพียงอย่างเดียว

Expectations (prognosis):
การรักษาด้วยวิธี catheter ablation  สามารถรักษาคนไข้ที่เป็นโรค
WPW syndrome ส่วนใหญ่  ซึ่งจะได้ผลดีถึง 85% -95 %
อย่างไรก็ตาม  จะพบว่า  ตำแหน่งในทางเดินคลื่นกระแสไฟฟ้าที่ทำให้
เกิดอาการก็มีส่วนสำคัญต่อผลของการรักษาเช่นกัน
Complications:
ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดในคนไข้ที่เป็น WPW syndrome  ได้แด่:

§  ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดตามหลังการผ่าตัด
§  ความดันโลหิตลดลง (เป็นผลจากหัวใจเต้นเร็วอย่างต่อเนื่อง)
§  หัวใจล้มเหลว
§  ผลข้างเคียงจากการใช้ยา
รูปแบบของหัวใจเต้นเร็วที่มีความรุนแรงมากที่สุด  คือ ventricular
Fibrillation  ซึ่งอาจมีความรุนแรงถึงขึ้นทำให้เกิดอาการช๊อค  และ
จำเป็นถึงกับได้รับการรักษาในห้องฉุกเฉินเพื่อทำ cardioversion



Wolff-Parkinson-White syndrome – Overview




เป็นกลุ่มอาการอย่างหนึ่ง  ซึ่งเราอาจเรียกว่า
Preexcitation syndrome  หรือ  WPW
เป็นภาวะอย่างหนึ่งของการทำงานของหัวใจ  โดยที่มีทางเดินของคลื่น
กระแสไฟฟ้าในกล้ามเนื้อหัวใจเพิ่มขึ้น  และยังผลให้อัตราการเต้นของ
หัวใจเต้นเร็วขึ้น  (tachycardia
ภาวะผิดปกติ (WPW) ดังกล่าวมักจะเกิดในเด็ก (infants และ children)
ปกติ  คลื่นกระแสไฟฟ้าของหัวใจจะวิ่งไปตามเส้นทางเดินของมัน (pathway)
ซึ่งช่วยทำให้หัวใจเต้น (beat) ได้ตามปกติ
โดยเส้นทางเดินของคลื่นกระแสไฟฟ้าที่มีตามปกตินั้น  
มีบทบาทสำคัญในการป้องกันไม่ให้หัวใจเต้นก่อนเวลาของมัน

สำหรับคนที่เป็นโรค WPW  พบว่า มีทางเดินของคลื่นกระแสไฟฟ้าเพิ่ม
ขึ้นจากเดิม  เป็นเหตุให้มีคลื่นวิ่งได้เพิ่มขึ้น  ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเต้นเร็ว
ขึ้น  ซึ่งเรียกภาวะดังกล่าวว่า   supraventricular tachycardia

อาการ (symptoms)
การที่หัวใจจะเต้นได้เร็วเกิดได้บ่อยขนาดใดย่อมขึ้นกับคนไข้ 
บางรายจะเกิดได้ไม่บ่อยนัก  นานๆ ครั้งจะเกิดครั้งหนึ่ง
ส่วนอีกรายจะเกิดบ่อยขึ้น   เช่น  หัวใจใจเต้นเร็วกว่าปกติ    
อาทิตย์หนึ่งเกิดมีหัวใจเต้นเร็วหนึ่ง ถึงสองครั้ง
ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้ว  คนไข้อาจไม่มีอาการใด ๆ เลยก็ได้

คนไข้ที่เป็น WPW syndrome  อาจมีอาการต่อไปนี้:
§  เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก (chest pain or chest tightness)
§  รู้สึกวิงเวียน (dizziness)
§  เป็นลม (fainting)
§  ใจสั่น (palpitation)
§  หายใจไม่พอ  หรือหายใจไม่อิ่ม (shortness of breath)


Sick sinus syndrome - Symptom 2

 Nov. 29,2012 
Symptoms:
โดยทั่วไป  คนที่มีการเต้นของหัวใจผิดปกติแบบ sick sinus syndrome  
จะไม่ค่อยจะมีอาการอะไร  แต่ถ้ามันเกิดมี...
มันอาจมีอาการเลียนแบบอาการของโรคอื่น ๆ ได้ เช่น

§  เจ็บหน้าอก  (chest pain or angina
§  มีอาการสับสน หรือ มีพฤติกรรมเปลี่ยน (confusion & changes in mental status)
§  เป็นลมหมดสติ หรือเกือบจะเป็นลม (fainting)
§  เมื่อยล้า (fatigue)
§  วิงเวียน (dizziness)
§  ใจสั่น  (palpitation)
§  หายใจไม่อิ่ม หรือหายใจไม่ทั่วท้อง (shortness of breath)

Signs and tests:

ในคนไขที่เป็น sick sinus syndrome (SSS)…
การเต้นของหัวใจของเขาอาจเต้นช้ามาก ๆ ซึ่งอาจะเกิดเมื่อใดก็ได้  ความ
ดันโลหิตอาจอยู่ในระดับปกติ หรือต่ำก็ได้

คนไข้ดังกล่าวอาจมีอาการของคนไข้เป็นโรคหัวใจล้มเหลว 
หรือมีอาการเลวลง

และการที่เราจะวินิจฉัยได้...กระทำได้เมื่อหัวใจเกิดมีการเต้นผิดปกติ
(arrhythmia)  เท่านั้น

ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะยืนยัน (วินิจฉัย) ได้ว่าเขาเป็นโรค SSS
ในการตรวจด้วยเครื่องตรวจคลื่นหัวใจ (EKG) อาจพบความผิดปกติของ
การเต้นของหัวใจ (abnormal heart rhythms)

เครื่องมือที่ดีที่นำมาใช้ตรวจหาภาวะ SSS  เรียก Holter monitoring
ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นำไปตรวจคลื่นหัวใจ  ด้วยการติดไว้กับตัไข้ตลอด 24 ชม
หรือนานกว่านั้น โดยเครื่องมือสามารถตรวจพบภาวะที่ผิดปกติของการเต้น...ได้

สำหรับการตรวจ exercise testing จะไม่มีประโยชน์ต่อการตรวจคัด
กรองสำหรับคนไข้ดังกล่าวเลย...ไม่จำเป็นต้องทำ


Sick sinus syndrome – Treatment 3

Nov 29,2012

Treatment:



ในคนไข้ที่มี Sick sinus syndrome  อาจไม่จำเป็นต้องรักษาถ้าไม่มีอาการใด ๆ  
แต่แพทย์เขาอาจตรวจสอบประวัติการใช้ยาของคนไข้ว่า  มียาอะไรที่คนไข้รับประทาน 
ซึ่งสามารถทำให้อาการเลวลงได้

ในกรณีที่คนไข้มีการเต้นของหัวใจช้ามาก
(very slow heart rate)…
อาจได้รับการรักษาด้วยการใส่ permanent implanted pacemaker

ในกรณีที่หัวใจเต้นเร็ว (tachycardia)…
คนไข้อาจได้รับการรักษาด้วยยา (medications)
และบางครั้ง  เรามีวิธีการหนึ่งซึ่งสามารถรักษาภาวการณ์เต้นหัวใจ
ชนิดเต้นเร็วแบบ tachycardia ด้วยการทำทำลายปุ่มกำเนินคลื่นกระแสไฟฟ้า
ด้วยคลื่นวิทยุที่มีความถี่สูง ( raiofrequency ablation) 

Expectations (prognosis):
โรค sick sinus syndrome จัดเป็นโรคที่พัฒนาไปในทางที่ไม่ดี
โดยอาการจะแย่ลงอย่างช้า ๆ
สำหรับในรายที่ได้ใส่เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจแบบถาวร
จะมีภาพลักษณ์ที่ดี

Complications:
คนเป็นโรค sick sinus syndrome อาจลงเอยด้วยภาวะแทรกซ้อน
ได้ดังนี้:

§  เจ็บหน้าอก (angina)
§  สมรรถภาพการออกกำลังกายลดลง
§  หกล้มได้บ่อยจากอาการวิงเวียน
§  หัวใจล้มเหลว
Prevention:
แพทย์อาจช่วยรักษาโรคที่สัมพันธ์กับภาวะ ของ SSS ได้
โดยคนไข้อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการใช้ยาบางอย่างด้วยความเห็นชอบจากแพทย์ 
แต่อย่างไรก็ตาม  บ่อยครั้งเราไม่สามารถป้องกันมันได้เลย


http://www.umm.edu/

Sick sinus syndrome 1







คนที่เป็นโรคชนิดนี้  ยังเรียกได้อีกหลายชื่อ... 
เช่น  Bradycardia-tachycardia syndrome; Sinus node dysfunction

ตามคำนิยาม  มันหมายถึงความผิดปกติในจังหวะการเต้นของหัวใจ
โดยมีหลายรูปแบบเกิดเร่วมกัน  ซึ่งประกอบด้วย:


  • Sinus bradycardia มีการเต้นของหัวใจที่เต้นช้าลงตามธรรมชาติ
  • Tachycardias   หัวใจเต้นเร็ว 
  • Bradycardia-tachycardia  มีการเต้นของหัวใจสลับเร็ว และช้า 
สาเหตุ, อุบัติการณ์  และปัจจัยเสี่ยง:
กลุ่มอาการของ Sick-sinus syndrome จะเกิดได้ไม่บ่อยนัก
และที่พบมากได้มากกว่าการเต้นแบบอื่น  คือ  Sinus bradycardia
ลองลงมาได้แก่การเต้นแบบ  atrial fibrillation, atrial flutter/ tachycardia 
และ supraventriculartachycardia

โดยทั่วไป  เราจะพบว่า... 
ทุกครั้งที่มีการสิ้นสุดการการเต้นผิดปกติแบบเร็ว (tachycardia) 
มักจะตามด้วยการเต้นของหัวใจช้าลง

จังหวะการเต้นผิดปกติของหัวใจมักจะเลวลงไปเมื่อคนไข้รับประทานยา
บางอย่าง    เช่น  digitalis, calcium channel blockers,
beta-blocker  และยาต้านการเต้นผิดปกติเอง (anti-arrhythmics)

นอกจากนั้น  ความผิดปกติบางอย่างสามารถทำให้เกิด Sick sinus syndrome 
  เช่น  การมีแผลเป็น (scarring), การเสื่อมสลายตัว (degeneration)  
หรือมีการทำลาย (damage)  ของทางเดินของคลื่นประสาทเอง

ในกรณีที่เกิดขึ้นในเด็ก  ส่วนใหญ่จะเกิดตามหลังการผ่าตัดหัวใจ
โดยเฉพาะการผ่าตัดหัวใจของห้องบน


ในคนไข้ที่เป็นโรค หลอดเลือดหัวใจ (coronary artery disease), โรค
ความดันโลหิตสูง  และโรคลิ้นหัวใจ (aortic & mitral valve disease)
อาจเกิดมี sick sinus syndrome เกิดร่วมขึ้นได้เช่นกัน

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

High Chloresterol (Hypercholesterolemia) 3

Treatment
ในการเริ่มต้นการรักษาภาวะไขมัน cholesterol สูง  ควรเริ่มต้นด้วย
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต  ซึ่งหมายความถึงการปรับเปลี่ยนด้านอาหาร
และการออกกำลังกาย

ในขณะนี้เราไม่มีข้อตกลงเป็นสเอกฉันท์ว่า 
อะไรคืออาหารที่ดีที่สุดอาหารที่ดีที่สุด  ทีสามารถลดระดับ total และ LDL cholesterol   สิ่งนั้นคือการรับประทานอาหารประเภทผัก และผลไม้ 
ซึ่งเป็นเรื่องที่ปฏิบัติได้ไม่ง่ายเลย

Diet
เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้ระดับไขมันในเลือดสูง...
The National Cholesterol Program ได้แนะนำให้รับประทานอาหารต่อไปนี้:
·       Saturated fat -- less than 7% of calories
·       Monounsaturated fat -- about 20% of calories
·       Polyunsaturated fat -- about 10% of calories
·       Protein -- about 15% of calories
·       Carbohydrates -- about 50% of calories
·       Fiber -- about 25 grams of soluable fiber per day
·       Cholesterol -- less than 200 milligrams per day
ให้หลีกไขมันทรานซ์ (trans fats) ซึ่งออกมาในรูปแบบอาหารสำเร็จรูป 
อาหารประเภททอด...

นอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนเรื่องอาหาร...
ท่านจะต้องออกกำลังกายด้วยความเข็มข้นพอประมาณ 
เช่น  ออกกำลังกายด้วยการเกินเร็วทุกวัน  วันละ 30 นาที

Medications
การที่ท่านจะใช้ยาเพื่อลดระดับไขมันหรือไม่นั้น  ย่อมขึ้นกับว่า 
ระดับไขมันของท่านเป็นอย่างไร ?
ประการแรก  มีตอบสนองต่อการปรับเปลี่ยนอาหารของท่านหรือไม่ 
และประการต่อมา   ท่านมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ (heart attack)
รือภาวะสมองถูกทำลาย (stroke) หรือเปล่า ?  ถ้าปรากฏว่า... 
ท่านมีปํญหาตามที่กล่าว แพทย์จะพิจารณาให้ใช้ยารักษากันต่อไป

ยาที่นำมาใช้ลดไขมัน (cholesterol-lowering medications) มี 5 ชนิด:
·       Bile acid-binding resins: ยาที่เคยใชได้แก่ cholestyramine (Questran)  และ  colestipol (Colestid).
    เป็นยาที่ไม่คอยจะได้ใช้กัน  เพราะมันลดทั้งไขมันไม่ดี  และไขมันด
    (HDL-C  & LDL-C )
·       Niacin (several brand names).
·       Fibrates: ยาในกลุ่มนี้ได้แก่   gemfibrozil (Lopid), fenofibrate (Tricor) และ  clofibrate (Abitrate).
          ยาFibrates  เป็นยาที่เรานำมาใช้ในรายที่มีไขมัน Trglyceride
·       Statins: เรายังเรียกในอีกชื่ว่า HMG-CoA reductase inhibitors ยาในกลุ่มนี้ได้แก่  lovastatin (Mevacor), simvastatin (Zocor), pravastatin (Pravachol), fluvastatin (Lescol), atorvastatin (Lipitor),  
            และ  rosuvastatin (Crestor).
           ยาในกลุ่มนี้  จะออกฤทธิ์สกัดกั้นการทำงานของเอ็นไซม์
           HMG-CoA reductase ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่รับผิดชอบต่อการสร้าง
           cholesterol  จัดเป็นกลุ่มยาที่ถุกนำมาใช้ในการลดไขมัน cholesterol
·       Selective inhibitors of intestinal cholesterol absorption:
ยาในกลุ่มนี้  มีเพียงตัวเดียว  คือ  ezetimibe (Zetia).


ภายหลังจากการปรับเปลี่ยนเรื่องอาหาร และการออกกำลังกายแล้ว 
ยังปรากฏว่า ไม่สามารถควบคุมระดับไขมัน cholesterol ของท่านได้
เมื่อนั้นแหละ  แพทย์จะสั่งยาลดไขมันให้ท่านรับประทานหนึ่ง หรือสองตัว
เพื่อจัดการกับไขมันที่ระดับสูง  โดยยาแต่ละตัวจะทำหน้าที่ต่างกัน 
และมีผลข้างเคียงไม่เหมือนกัน

นอกจากการปรับเปลี่ยนเรื่องอาหาร หรือเรื่องยาแล้ว 
ในคนที่มีระดับไขมัน  Cholesterol สูง  ควรควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิด
โรคหลอดเลือดของหัวใจ coronary  ด้วย
เช่น  การควบคุมโรคความดันโลหิตสูง,  ลดระดับน้ำตาลลงสู่ระดับปรกติ,
ไม่สูบบุหรี่ , ควบคุมน้ำหนักตน  หรือลดน้ำหนักที่เกิน
และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ในการลดระดับไขมัน cholesterol ให้ได้อย่างมีประสิทธิผล   สามารถกระทำ
ได้ด้วยการรับประทานอาหารที่ให้สุขภาพ  ออกกำลังกาย  และยาลดไขมัน
และผลที่ได้รับยอมแตกต่างกันในแต่ละบุคคล:

โดยเฉลี่ย  เพียงการปรับเปลี่ยนเรื่องอาหาร  และการออกกำลังกาย  สามารถ
ลดระดับ  LDL-C  ลงได้ประมาณ  10 %  ยาสามารถลด  LDL-C  อีก 20 %
ถึง  50  %

http://www.intelihealth.com