วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Heart attack: Signs And Symptoms

11/5/12


ได้มีโอกาสพบเพื่อนเก่าคนหนึ่ง....
เดินกระย่องกระแย่งผ่านมา  พร้อมกับมีไม้เท้าที่มือด้านขวา...
ที่ข้อเท้าด้านซ้าย  มีผ้าพันแผลพันเอาไว้  จึงถือโอกาสถามไปว่า
“ไปทำอะไรมาหรือ?”

“ได้รับการผ่าตัดเส้นเลือดที่ข้อเท้า  เพื่อขยายเส้นเลือดของหัวใจมา”
เพื่อนของเราตอบด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้ม

“รู้สึกเสียบท้องมานาน  เล่นกอล์ฟทีไร...รู้สึกแน่นท้องทุกที...
จึงไปให้หมอที่ศูนย์หัวใจ ....   แพทย์ได้ทำการตรวจด้วยการฉีดสี...
และพบเส้นเลือดของหัวใจตีบตัน
แพทย์เขาจึงจัดการรักษาด้วยการทำให้เส้นเลือดหายจากการตีบตันให้”

คนเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด  สามารถรอดพ้นจากความตายมาได้
เป็นเพราะเขาคนนั้น  ได้รับการวินิจฉัยโรคได้ทันท่วงที  พร้อมกับได้รับการ
รักษาอย่างถุกต้อง และฉับไว

แต่ก็อีกนั้นแหละ มีคนเป็นจำนวนไม่น้อย  เกิดภาวะหัวใจขาดเลือด
(heart attack)  อาจถูกปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเป็นชั่วโมง ๆ  หรือเป็นวัน
ไม่ไปพบแพทย์เพื่อการรักษา  เพราะเขาไม่รู้ว่าอาการที่เกิดขึ้น 
เป็นเพียงอาการเสียบแน่นท้องเท่านั้น 

นานมาแล้ว  ใครก็ตามที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเกิดตีบตันขึ้นมา
มักจะนำไปสู่ภาวะของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และถูกทำลาย (heart attack)
ม้นอาจทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก (chest pain)
ซึ่งเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า  angina pectoris

อาการเจ็บหน้าอก  หรือ angina pectoris เป็นอาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาด
เลือดยังถูกเรียกว่า  myocardial ischemia  ซึ่งมันจะเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจ
ได้รับเลือด (ทีมีออกซิเจน) ได้ไม่เพียงพอต่อระดับของการทำงาน

มีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่มีอาการของ angina  รู้สึกแน่นหน้าอก
หรือมีความรู้สึกเหมือนมีของหนักๆ กดทับหน้าอกเอาไว้

มีหลายรายอาการของ angina  จะมีลักษณะแตกต่างออกไป
เช่น  มีอาการแสบท้อง (burning) หรือเจ็บ-แน่นท้องตลอดเวลา (aching)
มีน้อยราย  ที่อาจมีอาการเหมือนถูกของมีคม ....

Angina-  อาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด  สามารถเกิดขึ้นเมื่อเลือดไหล
เวียนสู่หัวใจได้เพียงพอต่อการทำงานตามปกติได่
แต่หากเมื่อใด  หัวใจจำเป็นต้องได้รับเลือดมากกว่าปกติ 
เช่น  ขณะออกกำลังกาย  หรือในขณะที่มีความรู้สึกตื่นเต้น....
เขาจะเกิดอาการของ angina ทันที

การวิ่งขึ้นรถเมล์  สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการของ angina ได้ทันที 
ซึ่งพบเห็นในกรณีหลอดเลือดแดงของหัวใจ (coronary artery)
มีการตีบแคบอย่างรุนแรง 
แต่ถ้าเดินขึ้นรถเมล์จะไม่มีอาการใดๆ...

มีบางคนที่เส้นเลือดของหัวใจอยู่ในสภาพปกติ...
เมื่อใช้ยาเสพติด...สามารถทำให้หลอดเลือดดังกล่าวเกิดหดเกร็งอย่าง
ฉับพลัน (spasm) อาจทำให้เกิดอาการของ angina ได้ทั้งที่อยู่ในขณะพัก
อาการของ angina  สามารถเป็นอาการเตือนให้ท่านได้ทราบว่า
ท่านอยู่ในความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจถูกทำลายจากการขาดเลือด
(heart  attack)

เมื่อท่านมี angina เกิดขึ้น...
แพทย์จะสั่งยา nitroglycerin (fast-acting) ให้แก่ท่าน
ซึงอยู่ในรูปแบบเม็ดรับประทาน,  เป็นแผ่นแปะไว้ที่หน้าอก (skin patch)
หรือเป็นครีมสำหรับทา  หรือ  เป็นยาพ่น (aerosol) ใต้ลิ้น...
โดยยาดังกล่าว  จะขยายเส้นเลือดแดง  ทำให้เลือดไหลเวียนได้ง่ายขึ้น

นอกจากนั้น  แพทย์อาจสั่งยาที่ออกฤทธิ์ได้นาน (long-acting nitrates)
หรืออย่างอื่นๆ  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด angina ขึ้นมาอีก  เช่น beta blocker

ตามความรุนแรง  Angina  จะถูกแบ่งเป็นสองชนิดด้วยกัน:
Stable angina  จะทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกในเวลาที่คนไข้สามารถ
บอกได้  เช่น เมื่อออกกำลังกาย

ส่วน unstable angina ซึ่งมีความรุนแรงกว่า  อาการเจ็บหน้าอกจะเพิ่ม
ความรุนแรงในเวลาที่แตกต่างกัน  และไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้

การเกิดภาวะ unstable angina  มันหมายถึงสภาวะที่ง่ายต่อการ
ถูกทำลาย  และกำลังเลวลง  ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่า stable angina

Unstable angina  มักจะปรากฏก่อนที่จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจถูก
ทำลาย (heart attack)

นอกจากอาการต่างๆ ที่กล่าวมา...
คนไข้อาจมีอาการอย่างอื่น  ที่บอกเตือนให้ทราบว่า  หัวใจของท่าน
ได้เรียกร้องความช่วยเหลือจากแพทย์  เช่น  อาการเป็นลม  หรือมี
ความรู้สึกจะเป็นลม  หายใจลำบาก- หายใจสั้น และเร็ว (ชาวบ้านเรียก
ว่า “หายใจไม่ทั่วท้อง)  ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่มีการออกแรงเบา ๆ

การเกิดภาวะ heart attack  และโรคหัวใจ (heart disease) สามารถ
บอกให้ทราบเป็นครั้งแรกด้วยอาการ  อาการสับสน (confusion),
เหงื่อออก (sweating) หรืออาหารไม่ย่อย (indigestion)
ซึ่งเรามักจะพบเห็นในคนสูงอายุที่เป็นโรคเหวาน

โดยสรุป  โรคกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลายจากการขาดเลือด (heart attack)
เป็นโรคที่น่ากลัว  หากเราเข้าใจในสิ่งที่ร่างกายบอก  ปฏิบัติการได้ถูกต้อง
ย่อมทำให้เรารอดพ้นจากอันตรายได้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น