11/16/12
เราต่างเคยพบเห็นคนประสบอุบัติเหตุ...
เราต่างเคยพบเห็นคนประสบอุบัติเหตุ...
สมองถูกกระแทกจนกระทั้งสมองถูกทำลาย กลายเป็นคนอัมพาติไป
นั้นเป็นเรื่องที่ใครๆ ได้ทราบแล้วจะไม่ค่อยแปลกใจเท่าใดนัก
แต่พอสุภาพสตรีที่อายุพึ่งย่างเข้า 20 เศษ ไม่เคยเป็นโรคอะไรมาก่อน
ไม่เคยประสบอุบัติเหตุใด แต่อยู่ๆ ก็เกิดภาวะแขนขาอ่อนแรง
แพทย์บอกว่า เธอเป็นโรคสมองถูกทำลาย (stroke) ไป
เกิดมีความสงสัยว่า...เธอเป็นโรค Antiphospholipid syndrome (APS)
ได้หรือไม่ ?
APS คืออะไร ?
APS หรือ Antiphospholipid antibody syndrome..
เป็นโรคที่เกิดจากความบกพร่องในระบบภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่ง โดยที่ระบบดังกล่าว
สร้างภูมิคุ้มกัน (antibodies) ขึ้นทำลายเนื้อเยื่อ หรือเซลล์ของตนเอง
ภูมิคุ้มกัน (antibodies) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง
ซึ่งจะทำหน้าที่ปกป้องร่างกายให้พ้นจากการโจมตีของเชื้อโรค หรือสิ่งแปลกปลอม...
แต่ในกรณีที่เกิดเป็นโรค APS ระบบภูมิคุ้มกันสร้างภูมิต้านทาน (antibodies)ขึ้น
ซึ่งจะทำหน้าที่ปกป้องร่างกายให้พ้นจากการโจมตีของเชื้อโรค หรือสิ่งแปลกปลอม...
แต่ในกรณีที่เกิดเป็นโรค APS ระบบภูมิคุ้มกันสร้างภูมิต้านทาน (antibodies)ขึ้น
ด้วยความเข้าใจผิด โดยเข้าใจว่า ไขมันที่มีชื่อ phospholids
เป็นศัตรูหรือตัวแปลกปลอม
เป็นศัตรูหรือตัวแปลกปลอม
ไขมัน phospholipids จะพบได้ในเซลล์ที่ยังมีชีวิต และเยื่อหุ้มเซลล์
(cell Membranes) รวมถึงเซลล์เม็ดเลือด และเซลล์บุผิวของเส้น
(cell Membranes) รวมถึงเซลล์เม็ดเลือด และเซลล์บุผิวของเส้น
เลือดทั้งหลาย
เมื่อใดก็ตามที่ภูมิคุ้มกัน (antibodies) ทำลายไขมัน phospholipids
จะทำให้เซลล์ถูกทำลาย
การที่เซลล์ถูกทำลาย จะก่อให้เกิดมีก้อนเลือดภายในเส้นเลือดแดง
และเส้นเลือดดำ (ซึ่งเราหมายถึงเส้นเลือดที่นำเลือดสู่หัวใจ
และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย)
โดยปกติ การที่เลือดของคนเราจับตัวเป็นก้อน (blood clotting)
เป็นกระบวนการภายในร่างกายของมนุษย์ที่เกิดขึ้นตามปกติ
โดยก้อนเลือดจะทำหน้าที่ปิดรอยฉีกขาดของเส้นเลือด
เป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียเลือด
ส่วนในคนที่เป็นโรค APS จะมีการทำลายเซลล์ของเส้นเลือด ทำให้เกิดมี
ก้อนเลือดเกิดขึ้น ซึ่งนำไปสุ่การอุดตันกระแสไหลเวียนของเลือดไม่ให้ไป
เลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย และทำให้เกิดอาการของโรคขึ้น
ก้อนเลือดเกิดขึ้น ซึ่งนำไปสุ่การอุดตันกระแสไหลเวียนของเลือดไม่ให้ไป
เลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย และทำให้เกิดอาการของโรคขึ้น
บางคนมีภูมิต้านทาน APS โดยไม่เคยมีอาการแสดงปรากฏให้เห็น
ซึ่งหมายความว่า การที่ใครมี APS antibodies
ซึ่งหมายความว่า การที่ใครมี APS antibodies
ไม่ได้หมายความว่า เขาคนนั้นจะเป็นโรค APS
ดังนั้น การที่เราจะวินิจฉัยว่าใครเป็นโรค APS ได้นั้น เราจำเป็นต้องพบ
APS antibodies ในกระแสเลือด พร้อมกับมีปัญหาทางด้านสุขภาพ
ซึ่งสัมพันธ์กับโรคที่เป็นด้วย
คนที่เป็นโรค APS สามารถนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพ
เช่น stroke, heart attack, Kidney damage, deep vein thrombosis
และ pulmonary embolism
นอกจากนั้นโรค APS สามารถทำให้เกิดปัญหาทางด้านตั้งครรภ์ได้
เช่น เกิดแท้งลูกได้บ่อย ๆ, คลอดก่อนกำหนดเนื่องจากภาวะ eclampsia
ซึ่งเป็นภาวะที่อาการชักในขณะตั้งครรภ์)
คนเป็น APS ยังมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะ thrombocytopenia
เป็นภาวะของการมีเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ
ที่เป็นเช่นนี้ เป็นเพราะภูมิคุ้มกันทำลายเกล็ดเลือด
ซึ่งมีหน้าที่ในการจับตัวของเม็ดเลือดเพื่อหยุดเลือดตรงตำแหน่งที่มี
การฉีกขาดของเส้นเลือด
คนเป็นโรค APS สามารถทำให้คนเราเสียชีวิตได้
โดยเป็นผลมาจากมีก้อนเลือดเกิดภายในหัวใจ, สมอง หรือปลอด
โรค APS สามารถเกิดขึ้นกับคนได้ทุกอายุ
อย่างไรก็ตาม โรคมักจะเกิดขึ้นกับคนเพศหญิงเสียเป็นส่วนใหญ่
และมักจะพบในคนที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันชนิดอื่นด้วย เช่น โรค “ลูปัส”
และในคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับ “รูมาติค” ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับ
ความผิดปกติของข้อ, กระดูก และกล้ามเนื้อ
เป็นที่ทราบกันว่า โรค APS ไม่มีทางรักษาให้หายได้
แต่เราสามารถใช้ยาป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้
โดยยาที่ใช้ จะเป็นยาทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้มีการสร้างก้อนเลือดเกิดขึ้น
ตลอดรวมไปถึงป้องกันการไม่ให้ก้อนเลือดโตขึ้นได้อีก
ตลอดรวมไปถึงป้องกันการไม่ให้ก้อนเลือดโตขึ้นได้อีก
ซึ่งเป็นการปฏิบัติการณ์ด้านรักษาในระยะยาว
ในกรณีที่ท่านมีโรคทางระบบภูมิคุ้มกันชนิดอื่น...
ท่านจำเป็นต้องรับการควบคุมโรคภูมิคุ้มกันชนิดนั้นให้ดีด้วย
เพราะการทำได้เช่นนั้น สามารถทำให้โรค APS ทุเลาเบาบางลงได้
ขอบคุณข้อมูลดีๆนะคะ
ตอบลบnice article… simple and useful :)
ตอบลบToshiba PVT-375BT
ก้อนเลือดหรือลิ่มเลือดที่เกิดขึ้น เป็นไปได้ไหมครับที่จะเกิดจากความเครียดมากๆ
ตอบลบ
ตอบลบก้อนเลือดหรือลิ่มเลือดที่เกิดขึ้น เป็นไปได้ไหมครับที่จะเกิดจากความเครียดมากๆ