วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

CARDIAC ARRHYTHMIA 4

11/24/12

Continued…


Expected Duration

ระยะเวลาการเกิดการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติไป 
จะเกิดเป็นนานเท่าใดนั้น  ย่อมขึ้นกับสาเหตุเป็นสำคัญ 
ยกตัวอย่าง  ในคนที่เป็นโรคต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกิน(hyperthyroidism)  เมื่อได้รับการรักษา
อาการที่เกิดจะหายไป

สำหรับการเต้นของหัวใจผิดปกติจากกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย 
มักจะทำให้เกิดปัญหาด้านการเต้นผิดปกติในระยะยาว
หากกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย (heart attack)  และเกิดภาวะ
Ventricular fibrillation  สามารถทำให้คนไข้เสียชีวิตได้ภายในไม่กี่นาที

Prevention

ในการป้องกันไม่ให้เกิดการเต้นหัวใจที่ผิดปกติ...
ถ้าเป็นผลที่เกิดจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน...
ก็สามารถทำการป้องกันได้ด้วยการปฏิบัติการณ์ตามขั้นตอนต่อไปนี้

§  ให้รับประทานอาหารสุขภาพ  ด้วยการรับประทานอาหารประเภทผัก
และผลไม้ให้มาก  ให้รับทานปลา  และธัญพืชที่ให้สารโปรตีน
หลีกเลี่ยงพวกไขมันมันอิ่มตัว (saturated fats) และพวกไขมันทานซ์(transfats)

§  ควบคุมพวก cholesterol และควบคุมความดันโลหิตสูง

§  หยุดการสูบบุหรี่

§  ควบคุมน้ำหนักตัว

§  ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ในคนไข้ที่หัวใจเต้นผิดปกติทั้งหลาย 
ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการใช้ยารักษานั้น  สามารถทำให้ลดลงได้ด้วยการตรวจสอบกับแพทย์ และเภสัชกรในเรื่องยาที่ใช้
ที่อาจมีส่วนทำให้เกิดความผิดปกติได้  โดยอาจมีการเปลี่ยนยา
หรือลดขนาดของยาลง

ในกรณีที่เกิดภาวะหัวใจห้องล่างเต้นผิดปกติจากไฟฟ้าช๊อต
สามารถป้องกันไม่ให้เกิดได้ด้วยการระมัดระวังเรื่องปลักไฟฟ้า
ที่อยู่ในบ้านให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม  การเต้นของหัวใจที่เต้นผิดปกติ (arrhythmia)
สามารถป้องกันได้บางชนิดเท่านั้น...ไม่ใช้ทั้งหมด


ในการรักษาการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ 
ย่อมขึ้นกับสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้เกิดการเต้นของหัวใจผิดปกติไป:

§  Sinus node dysfunction.
ในคนที่มีอาการรุนแรง และเป็นบ่อย  การรักษาภาวะดังกล่าว
คือ การใส่ permanent pacemaker

§  Supraventricular tachycaarhythmias.
การรักษาที่จำเพาะต่อภาวะดังกล่าว  จะขึ้นกับสาเหตุเป็นสำคัญ
ในบางราย  เพียงการนวด (massaging) ที่คอตรง carotid sinus
สามารถลดอาการลงได้

ส่วนในคนไข้รายอื่นๆ จำเป็นต้องใช้ยารักษา  เช่น beta-blockers,Calcium channel blockers, digoxin (Lanoxin)
และ amiodarone (Cordarone)

ในคนไข้บางรายจะตอบสนองต่อคลื่นวิทยุด้วยความถี่สูง 
เพื่อทำลายปุ่มกำเนิดกระแสไฟฟ้าตรงตำแหน่ง A-V node
เป็นการป้องกันไม่ให้คลื่นกระแสไฟ(ที่มากเกิน)...
จากหัวใจห้องบนเคลื่อนสู่ห้องล่างได้

§  Atrial fibrillation.
ในคนไข้ที่เป็น atrial fibrillation
ซึ่งมีผลมาจากต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติ  สามารถรักษา
ได้ด้วยยา หรือการผ่าตัด

สำหรับรายที่เกิดจากโรค rheumatic heart disease
อาจให้การรักษาด้วยการผ่าตัดใส่ลิ้นหัวใจ

ยาต่างๆ เช่น beta-blockers (เช่น atenolol และ metoprolol), digoxin, amiodarone, diltiazem หรือ verapamil
สามารถนำมาใช้เพื่อทำให้การเต้นของหัวใจช้าลงไป

ยาต่างๆ เช่น amiodarone สามารถนำไปใช้ลดโอกาสเกิด
ภาวะ atrial fibrillation ได้
นอกจากนั้น ยังมีทางเลือกอย่างอื่นอีก
เช่น radiofrequency catheter ablation หรือ electrical cardioversion เพื่อทำให้การเต้นของหัวใจสามารถเต้นได้เป็นปกติเหมือนเดิม

§  A-V block.
ในกรณีที่เป็น First-degree A-V block นั้นจะไม่ได้รับการรักษาใดๆ
ส่วนราย Second-degree A-V block อาจจำเป็นต้องได้รับการตรวจ
EKG บ่อยขึ้น  โดยเฉพาะในรายที่ไม่มีอาการ 
และมีอัตราการเต้นของหัวใจซึ่งเพียงพอต่อการทำงานตามปกติได้
ในคนไข้บางรายที่เป็น second-degree A-V block
อาจจำเป็นต้องใส่  Permanent pacemaker

§  VT.
ในคนที่เป็น non-sustained VT อาจไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา
โดยเฉพาะในรายที่ไม่มีการทำลายของกล้ามเนื้อหัวใจ
แต่สำหรับรายที่เป็น sustained VT  ซึ่งมักจะมีอาการด้วยเสมอ...
จำเป็นจะต้องได้รับการรักษา  โดยอาจได้รับยาฉีดเข้าเส้นเลือดดำ...
หรือกระตุกด้วยกระแสไฟฟ้า (defibrillation)
ซึ่งสามารถทำให้การเต้นของหัวใจกลับคืนสู่สาภาพปกติเหมือนเดิม

§  Ventricular fibrillation.
เป็นภาวะของหัวใจที่ต้องได้รับการรักษาอย่างฉับพลัน 
ด้วยวิธี defibrillation  หากคนไข้สามารถรอดชีวิตมาได้  อาจจำเป็น
ต้องใส่ automatic implantable cardioverter defibrillator
ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับ pacemaker…


ถ้าท่านมีอาการของการเต้นหัวใจผิดปกติเกิดขึ้น
เช่น ใจสั่น (palpitation), วิงเวียน (dizziness), เป็นลม (fainting
Spells), เมื่อยล้า (fatigue), หายใจลำบาก (shortness of breath)
และเจ็บหน้าอก (chest pain)…
ท่านควรพบแพทย์เพื่อการตรวจรักษา...

ในกรณีที่ท่านพบเห็นไม่รู้สึกตัว  ไม่หายใจ  คลำชีพจรไม่ได้เลย
สิ่งที่ท่านควรกระทำ  คือช่วยชีวิตคนไข้ด้วยการกดหน้าอก
เพียงอย่างเดียว (chest compression) จนกว่าผู้ให้การดูแล
รักษาจะมาถึง

การพยากรณ์ของคนที่มีภาวะหัวใจเต้นไม่ปกติ  จะขึ้นกับชนิดของ
ความผิดปกติที่เกิด  และการมีประวัติการเกิดโรคต่าง ๆ  หรือไม่
เช่น  coronary artery disease, congestive heart failure หรือ
โรคกล้ามเนื้อหัวใจอย่างอื่น

การพยากรณ์โรคชนิด ventricular fibrillation จะแย่ที่สุด  หากไม่
ได้รับการเยียวยารักษาได้ทัน  อาจทำให้คนไข้เสียชีวิตได้

สำหรับ atrial fibrillation จะเป็นพวกที่มีพยากรณ์โรคที่ดีที่สุด

ส่วนพวก heart block จะพบว่าการพยากรณ์โรคอยู่ในขั้นดี  แม้
ว่าจะเป็น third-degree heart-block ก็ตาม

การมี Permanent pacemakers, implanted cardioversion/
Defibrillation  devices  และยารักษา  สามารถทำให้การพยากรณ์
ของโรคการเต้นหัวใจผิดปกติดีขึ้น

<< BACK       NEXT   >>

http://www.intelihealth.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น