continued..
Circulation:
หมายถึงทำให้การไหลเวียนเลือดสู่สภาพปกติด้วยการกดหน้าอก
1. วางคนไข้ให้นอนหงายบนพื้นราบ และแข็ง
2. นั่งคุกเข่าข้างๆ บริเวณคอ และไหล่ของคนไข้
3. จับปลายคางของผู้ป่วยให้ชี้ขึ้นบน เพื่อทำให้ทางเดินของลมหายใจเปิด
4. วางมือ โดยให้ซ่นของฝ่ามือบนตรงกลางของหน้าอก ระหว่างหัวนมทั้งสอง
จากนั้น ให้วางฝ่ามืออีกข้างหนึ่งบนด้านหลังของมืออันแรก
ให้ข้อศอกทั้งสองเหยียดตรง และไหล่ทั้งสองอยู่เหนือมือทั้งสอง
5. ให้กดหน้าอกของคนป่วย โดยใช้น้ำหนักตัว (แทนที่จะเป็นแรงจากแขน)
กดหน้าออกลงไปทางด้านหลังอย่างน้อยประมาณสองนิ้ว...
โดยกดอย่างแรง ด้วยอัตรา 100 ครั้ง ต่อหนึ่งนาที
6. ในกรณีที่ท่านไม่เคยฝึก CPR มาก่อน ท่านเพียงแต่ทำการกดหน้าอกอย่างเดียวก็พอ
จนกว่าคนไข้จะฟื้น หรือบุคลากรทางการแพทย์มาถึง
ถ้าท่านได้รับการฝึก CPR มาก่อน...
ให้ตรวจทางเดินของลมหายใจ และช่วยการหายใจให้ฟื้นกลับมา..
ทำให้ทางเดินของลมหายใจโล่ง ปราศจากสิ่งกีดขวาง โดยมีขั้นตอนดังนี้:
เปิดทางเดินของลมหายใจด้วยการแหงนศีรษะ ด้วยการยกคางของคนไข้ขึ้น
ซึ่งท่านสามารถกระทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้ฝ่ามือด้นที่หน้าขึ้นด้านบนอย่างนุ่มนวล
มืออีกด้านหนึ่งวางที่ใต้คาง แล้วยกขึ้น จะทำให้ทางเดินของลมหายใจเปิดออก
2. ตรวจดูการหายใจว่าปกติหรือไม่ ซึ่งจะกินเวลาไม่เกิน 5 – 10 วินาที
โดยตรวจดูการเคลื่อนไหวของทรวงอก ฟังเสียงลมของหายใจการหายใจ
เหมือนปลาขาดน้ำ (gasping) ไม่ใช่การใจปกติ
และถ้าท่านฝึก CPR มาก่อน ให้เริ่มเป่าปาก หรือ mouth-to-mouth breathing ได้เลย
ถ้าท่านเชื่อว่า คนไข้ไม่รู้สึกตน (unconscious) จาก heart attack
และท่านไม่ได้ฝึกการทำ CPR มาเลย...
ท่านไม่จำเป็นต้องทำ mouth-to-mouth breathing
ให้ทำการกดหน้าอก (chest compressions) อย่างเดียว..โดยทำไปเรื่อย ๆ
ในการช่วยให้คนหายใจ สามารถกระทำได้ด้วยการเป่าปาก mouth-to-mouth Breathing หรือเป่าจมูก (mouth-to-nose breathing)
ซึ่งจะกระทำในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บ (สาหัส) ที่บริเวณปาก
หรือไม่สามารถเปิดปากของคนไข้ได้
การช่วยให้คนไข้หายใจ มีขั้นตอนดังนี้:
ใช้มือด้านหนึ่งบีบจมูกให้ปิด เพื่อกระทำ mouth-to-mouth breathing
โดยใช้ปากของท่านประกบปากของคนไข้ให้สนิท ..
2. เตรียมพร้อมเพื่อช่วยการหายใจสองครั้ง การช่วยครั้งแรกด้วยการเป่าปาก
ใช้เวลาหนึ่งวินาที และสังเกตดูการเคลื่อนไหวของทรวงอก...
ถ้าไม่เห็นทรวงอกเคลื่อนไหว ให้ทำซ้ำอีกครั้งด้วยการแหงนศีรษะ
และจับคางชี้ขึ้น พร้อมกับเป่าปาก
ให้ทำการกดหน้าอก 30 ครั้ง สลับกับการช่วยการหายใจ (mouth-to mouth)
โดยทำสองครั้ง ต่อหนึ่งรอบ
3. ให้ทำการกดหน้าอก จนกว่าการไหลเวียนของเลือดจะฟื้นตัว
4. ถ้าการช่วยเหลือด้วยวิธีการดังกล่าวได้ห้ารอบ (ประมาณ 2 นาที)
ยังไม่สามารถทำให้หัวใจ และปอดกลับสู่สภาพปกติได้
ยังไม่สามารถทำให้หัวใจ และปอดกลับสู่สภาพปกติได้
ให้ใช้ automatic external defibrillator (AED) ทันที
โดยกระตุกด้วยไฟฟ้าทำหนึ่งครั้ง จากนั้นให้กลับมาทำ CPR ด้วยการกดหน้าอก
เป็นเวลาสองนาที ถ้าคนไข้ยังไม่ฟื้นตัวให้กระตุก ด้วยไฟฟ้าอีกครั้ง
5. ให้ช่วยคนไข้ด้วย CPR ต่อไปจนกว่าสัญญาณชีวิตจะกลบคืน หรือจนกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น