11/8/12
วิธีการทำ angioplasty
บริเวณของร่างกายที่จะสอดใส่ท่อ catheter เข้าสู่เส้นเลือดแดงใหญ่
วิธีการทำ angioplasty
เช่น แขนหรือขาหนีบ จะถูกโกนขน และทำความสะอาด
นอกจากนั้น ท่านยังจะได้รับน้ำเกลือทางเส้นที่บริเวณแขน
เพื่อให้ยาตามที่ต้องการ
เพื่อให้ยาตามที่ต้องการ
แพทย์จะให้ยาช่วยให้ท่านรู้สึกผ่อนคลาย (relax)
ตรงตำแหน่งของแขน หรือขาหนีบ จะถูกทำความสะอาดให้ปราศจากเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค (antiseptic solution)
จากนั้นแพทย์จะจัดการสอดสายท่อ catheter เข้าเส้นเลือดใหญ่โดยอาศัยเอกซเรย์
แพทย์สามารถสอดท่อ catheter เข้าสู่หัวใจ สู่หลอดเลือดหัวใจ (coronary) ที่ตีบแคบ
แพทย์สามารถสอดท่อ catheter เข้าสู่หัวใจ สู่หลอดเลือดหัวใจ (coronary) ที่ตีบแคบ
ต่อจากนั้นแพทย์จะทำ balloon angioplasty ซึ่งกระทำโดยการปล่อยลมทำ
ให้บอลลูนที่ติดตรงบริเวณปลายสุดของท่อ catheter พองตัวขึ้น
ประมาณ 20 – 30 วินาที ซึ่งเมื่อตัวบอลลูนขยายโตขึ้น มันจะดันให้คราบ
ไขมันที่ทำให้เส้นเลือดแคบ ถูกดันให้อัดเข้ากับผนังของเส้นเลือด
ทำให้รูของเส้นเลือดเปิดออก ทำให้เลือดสามารถไหลผ่านได้สะดวกขึ้น
ตามวิธีการดังกล่าว ภายหลังการทำให้หลอดเลือดขยายออกแล้ว
เขาจะวางโครงลวดที่เราเรียกว่า stent เอาไว้
เพื่อป้องกันไม่ให้หลอเลือดแคบได้อีก
เพื่อเป็นการยืนว่า เส้นเลือดแดงที่ถูกทำให้ขายตัวอยู่ในสภาพเรียบ
ร้อย แพทย์จะทำการฉีดสารทึบแสงเพื่อดูความเรียบร้อยก่อนยุติกระบวน
การณ์ angioplasty
ทำให้รูของเส้นเลือดเปิดออก ทำให้เลือดสามารถไหลผ่านได้สะดวกขึ้น
เขาจะวางโครงลวดที่เราเรียกว่า stent เอาไว้
เพื่อป้องกันไม่ให้หลอเลือดแคบได้อีก
เพื่อเป็นการยืนว่า เส้นเลือดแดงที่ถูกทำให้ขายตัวอยู่ในสภาพเรียบ
ร้อย แพทย์จะทำการฉีดสารทึบแสงเพื่อดูความเรียบร้อยก่อนยุติกระบวน
การณ์ angioplasty
ภายหลังการทำ angioplasty แพทย์จะให้ยาป้องกันการจับตัวของเม็ดเลือด (blood thinning)
เพื่อป้องกันไม่ให้มีก้อนเลือดอุดเส้นเลือดขึ้นได้
เมื่อการกระทำทุกอย่างสำเร็จเรียบร้อย แพทย์จะถอดท่อ catheter ออก
และส่งคนไข้กับห้อง หรือกลับสู่ coronary care units
ซึ่งมีการตรวจวัดการเต้นของหัวใจ, มีการวัดการเต้นของชีพจร
และวัดระดับความดันโลหิต
ซึ่งมีการตรวจวัดการเต้นของหัวใจ, มีการวัดการเต้นของชีพจร
และวัดระดับความดันโลหิต
ส่วนใหญ่แล้ว ท่านจะนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 3 วัน
มีเพื่อนถามว่า...วิธีการดังกล่าว (angioplasty) น่ากลัวไหม ?
ตามความเห็นของแพทย์ด้วยกัน...รู้สึกว่า ภายใต้ฝีมือของผู้ชำนาญการแล้ว
การติดตามผล (Follow up)
ก่อนที่ท่านจะกลับบ้าน
แพทย์จะบอกให้ท่านกลับไปพบแพทย์ตามกำหนด
ท่านอาจได้รับยารักษาต่อ เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดตีบแคบ
หรือการอุดตันขึ้นมาอีก
สิ่งที่ท่านต้องทราบอีกอย่างคือ....เรื่องการออกกำลังกาย
และกิจวัตรประจำวันของท่าน
อันตรายจากการทำ angioplasty (Risks)
แม้ว่า การขยายหลอดเลือดของหัวใจ (coronary angioplasty) จะเป็น
วิธีการที่ง่าย และปลอดภัยก็ตามที แต่มันก็ยังอันตรายได้เหมือนกัน
เช่น:
§ เกิดภาวะหัวใจขาดเลือด (heart attack) ประมาณ 3 %
§ ในคนไข้ที่ทำ angioplasty ประมาณ 3 – 5 % ต้องเปลี่ยนเป็น
ทำ coronary bypass surgery อย่างฉุกเฉิน
§ ทำให้หลอดหัวใจทะลุ หรือกล้ามเนื้อหัวใจทะลุ
§ เลือดออก และมีการอักเสบตรงบริเวณสอดสาย cathete
§ เส้นเลือดที่แขน และขาที่สอดใส่ catheter เกิดการอุดตัน
§ แพ้สารทึบแสง
§ ในคนไข้ที่ทำ angioplasty ประมาณ 3 – 5 % ต้องเปลี่ยนเป็น
ทำ coronary bypass surgery อย่างฉุกเฉิน
§ ทำให้หลอดหัวใจทะลุ หรือกล้ามเนื้อหัวใจทะลุ
§ เลือดออก และมีการอักเสบตรงบริเวณสอดสาย cathete
§ เส้นเลือดที่แขน และขาที่สอดใส่ catheter เกิดการอุดตัน
§ แพ้สารทึบแสง
ด้วยปัญหาดังกล่าว การทำ coronary angioplasty จะต้องกระทำใน
โรงพยาบาล ซึ่งมีบุคลากร, ผู้ชำนาญการ และเครื่องมือพร้อมสรรพ
โดยสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ทันที
อัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากกรรมวิธี coronary angioplasty
มีได้ประมาณ 1 – 4 รายต่อคนไข้ 1,000 ราย
ข้อควรระวัง:
ภายหลังจากท่านกลับบ้าน นอกจากสิ่งที่ท่านต้องปฏิบัติอย่างเคร่งคัดตาม
ภายหลังจากท่านกลับบ้าน นอกจากสิ่งที่ท่านต้องปฏิบัติอย่างเคร่งคัดตาม
แพทย์สั่งแล้ว หากท่านมีอากรต่อไปนี้ ท่านไปพบแพทย์ทันที
§ เกิดอาการเจ็บหน้าอก, หายใจลำบากเหมือนปลาขาดน้ำ (shortness of breath),
เกิดอาการวิงเวียน หรือ การเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ
§ มีไข้ (fever)
§ บริเวณที่สอดท่อ catheter เกิดอักเสบ (บวมมแดง และเจ็บปวด)
§ ขาด้านที่สอดใส่ท่อ catheter เกิดมีอาการปวด, เย็น, ซีด และอ่อนแรง คลำชีพจรไม่ได้
ซึ่งเป็นอาการแสดงของเส้นเลือดแดงเกิดการอุดตัน
Previous << 1 2
http://www.intelihealth.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น