11/13/12
ในปี 2007 ได้มีผลการศึกษาจากประเทศญี่ปุ่น และสวีเดน....
แสดงให้เห็นว่า ในคนไข้ที่รอดพ้นจากการเสียชีวิตเพราะเกิด heart attack
โดยการกดหน้าอก (chest compression) โดยร่วมกับ
หรือไม่ร่วมกับการเป่าปากช่วยการหายใจ (mouth-to-mouth breathing)...
โดยการกดหน้าอก (chest compression) โดยร่วมกับ
หรือไม่ร่วมกับการเป่าปากช่วยการหายใจ (mouth-to-mouth breathing)...
จากรายดังกล่าว ได้มีการเปรียบเทียบผลของการช่วยเหลือผู้เคราะหร้าย
หัวใจหยุดเต้น และไม่หายใจด้วยวิธี CPR
หัวใจหยุดเต้น และไม่หายใจด้วยวิธี CPR
ซึ่งลงตีพิมพ์ใน New England Journal of Medicine...
เป็นการศึกษาในผู้เคราะห์ร้ายกลุ่มใหญ่
โดยครึ่งหนึ่งได้รับการช่วยเหลือด้วยวิธีการกดหน้าอก
(chest compression) ร่วมกับการช่วยเหลือการหายใจ
(mouth-to-mouth)
ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง ได้รับการช่วยเหลือด้วยวิธีการกดหน้าอก
(chest compression) เพียงอย่างเดียว
ผลที่ได้จากวิธีการช่วยเหลือคนที่ไม่หายใจ & หัวใจหยุดเต้น...
ปรากฏว่า ได้ผลดีทั้งคู่ ไม่มีความแตกต่างกันเลย
ในคนไข้ที่หัวใจหยุดเต้น (cardiac arrest)…
การช่วยชีวิตที่สำคัญที่สุดกระทำด้วยการกดหน้าอกทันที
ซึ่งหมายความว่า ยังมีเลือดที่มีออกซิเจนภายในร่างกายที่
ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ในการทำเช่นนั้นสามารถบีบเลือดให้ไหลออกจากหัวใจ ไหลไปยังสมอง
พร้อมๆ กับเลือดไหลไปยังกล้ามเนื้อของหัวใจ
เมื่อหัวใจสามารถได้รับเลือดที่มีออกซิเจนการกดหน้าอก
ย่อมให้ทำให้หัวใจสามารถเริ่มต้นการทำงานได้เหมือนเดิมได้
ภายใต้สถานการณ์ที่คนป่วยไม่สามารถหายใจได้เพราะทางเดินหายใจ
ถูกอุดตัน หรือไม่หายใจเพราะจมน้ำนั้น
จะทำให้เลือดในร่างกายมีระดับออกวิเจนไม่เพียงพอ
ดังนั้น การช่วยการหายใจด้วยวิธีการเป่าปาก (mouth-to-mouth)
จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มระดับออกซิเจน
โดยสรุป
สำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งเกิดภาวะหัวใจถูกทำลาย-heart attack..
ซึ่งเป็นต้นเหตุให้หัวใจหยุดเต้น และไม่หายใจนั้น
การช่วยเหลือคนไข้ดังกล่าวโดยแพทย์ หรือผู้อยู่ใกล้เคียง สามารถกระทำ
ได้ด้วยการกดหน้าอย่างแรงเพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอต่อการทำให้เลือด
ไหลเวียนไปเลี้ยงสมอง และหัวใจได้
สำหรับผู้เคราะห์ร้ายทีหัวใจหยุดเต้น ไม่หายใจ
เพราะทางเดินลมหายใจอุดตันหรือจากจมน้ำ
การช่วยเหลือคนเคราะห์ร้ายเหล่านี้
กระทำได้โดยการกดหน้าอก (chest compression)
และช่วยการหายใจ
(mouth-to-mouth breathing)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น